ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เผยนักท่องเที่ยวใช้บริการล่องเรือฟีนิกซ์ พักโรงแรมหรู กินหรู ซื้อทัวร์เอง และจองมาเป็นกรุ๊ป ก่อนล่องเรือทูตแห่งความตาย คร่า 47 ชีวิตนักท่องเที่ยว
จากกรณีเกิดเรือฟีนิกซ์ ล่มกลางทะเลหน้าเกาะเฮ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นนักท่องเที่ยว รวม 47 ราย บาดเจ็บ 42 คน สำหรับเรือฟีนิกซ์ ทูตแห่งความตายลำนี้เป็นเรือที่ต่อขึ้นใน จ.ภูเก็ต จดทะเบียนโดยบริษัท ทีซี บลู ดรีม จำกัด ซึ่งมี น.ส.วรลักษณ์ ฤกษ์ชักกาล อายุ 26 ปี เป็นเจ้าของ ในราคากว่า 11 ล้านบาท เริ่มออกมาให้บริการนักท่องเที่ยวเมื่อปี 2560 ซึ่งเป็นเรือลำแรกของบริษัทที่ต่อขึ้นมาเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวที่จองเข้ามา
แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากนำเรือมาวิ่งได้ไม่นาน ปรากฏว่า ได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี จนกระทั่งมีการสั่งต่อเรือคู่แฝดเรือฟีนิกซ์ ขึ้นมาอีกลำเพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวกับเรือฟีนิกซ์ ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวแบบวันเดย์ทริป ส่วนใหญ่จะจองทัวร์ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีการเสนอขายกันในประเทศจีน และมาแบบ FIT โดยทริปนี้มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเป็นกรุ๊ปทัวร์ จำนวน 37 คน ส่วนที่เหลือเดินทางมาเองซื้อตัวเอง ในราคาที่ถือว่าสูงพอสมควร โดยราคาอยู่ที่ประมาณ 4,000 บาท ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีการยืนยันจากนักท่องเที่ยวที่รอดชีวิตที่ออกมาเปิดเผยถึงการจองทัวร์มาท่องเที่ยว ว่า ส่วนใหญ่จองมาเองโดยการจองผ่านทางอินเทอร์เน็ต
แหล่งข่าวรายหนึ่งระบุ ว่า หลังจากนักท่องเที่ยวจองโปรแกรมทัวร์ก็เดินทางเข้ามาภูเก็ต และจะเข้าพักตามโรงแรมต่างๆ ตามที่นักท่องเที่ยวแต่ละคนจองไว้ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง เพราะส่วนใหญ่พักโรงแรมดังๆ ระดับ 4-5 ดาวเกือบทั้งหมด เมื่อถึงเวลาลงเรือก็จะมีรถไปรับที่โรงแรม หรือเดินทางมาเอง และพานักท่องเที่ยวมาขึ้นเรือฟีนิกซ์ ซึ่งจอดลอยลำที่บริเวณท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง เพื่อไปร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่ทางบริษัทเรือกำหนดไว้
เส้นทางเดินเรือของ “ฟีนิกซ์” นั้นจะออกจากท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง มุ่งหน้าเกาะราชา เพื่อพานักท่องเที่ยวไปดำน้ำตื้น ทำกิจกรรมต่างๆ บริเวณอ่าวหน้าเกาะราชา จังหวัดภูเก็ต บางครั้งก็จะแวะเกาะเฮ เพื่อให้นักท่องเที่ยวเล่นน้ำ โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะทำกิจกรรมบริเวณเกาะราชา รับประทานอาหารบนเรือ ซึ่งบนเรือมีกิจกรรมต่างๆ ให้เล่น หลังจากเสร็จกิจกรรมเรือก็จะนำนักท่องเที่ยวทั้งหมดเดินทางกลับมายังท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง เพื่อเดินทางกลับที่พัก ซึ่งทุกวันจะเป็นลักษณะนี้
ส่วนเรือหลังจากส่งนักท่องเที่ยวเสร็จก็จะต้องมีการจัดเตรียมอุปกรณ์ ทำความสะอาดเรือ และอื่นๆ เพื่อที่จะรับนักท่องเที่ยวกลุ่มต่อไปในวันรุ่งขึ้น เพราะฉะนั้น ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมเรือจะต้องนำนักท่องเที่ยวฝ่าคลื่นลมแรงกลับเข้าฝั่ง และไม่จอดรอเหมือนลำอื่นๆ ที่ทั้งเรือ และ นักท่องเที่ยวต้องติดอยู่บนเกาะเกือบ 300 คน เพราะเรือลำนี้ซึ่งเป็นเรือลำเดียวของทางบริษัทจะต้องมารับนักท่องเที่ยวในวันรุ่งขึ้นเพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวเช่นเดิม
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบโปรแกรมทัวร์ และโบรชัวร์ที่ใช้แจกให้กับนักท่องเที่ยวพบว่า ระบุเป็นภาษาจีนเกือบทั้งหมด ยกเว้นบางข้อความที่มีภาษาอังกฤษเข้ามาบ้าง โดยแหล่งข่าวรายเดิม ระบุว่า ทัวร์เรือลำดังกล่าวไม่รับนักท่องเที่ยวคนไทยใช้บริการ
จากกรณีเกิดเรือฟีนิกซ์ ล่มกลางทะเลหน้าเกาะเฮ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นนักท่องเที่ยว รวม 47 ราย บาดเจ็บ 42 คน สำหรับเรือฟีนิกซ์ ทูตแห่งความตายลำนี้เป็นเรือที่ต่อขึ้นใน จ.ภูเก็ต จดทะเบียนโดยบริษัท ทีซี บลู ดรีม จำกัด ซึ่งมี น.ส.วรลักษณ์ ฤกษ์ชักกาล อายุ 26 ปี เป็นเจ้าของ ในราคากว่า 11 ล้านบาท เริ่มออกมาให้บริการนักท่องเที่ยวเมื่อปี 2560 ซึ่งเป็นเรือลำแรกของบริษัทที่ต่อขึ้นมาเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวที่จองเข้ามา
แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากนำเรือมาวิ่งได้ไม่นาน ปรากฏว่า ได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี จนกระทั่งมีการสั่งต่อเรือคู่แฝดเรือฟีนิกซ์ ขึ้นมาอีกลำเพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวกับเรือฟีนิกซ์ ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวแบบวันเดย์ทริป ส่วนใหญ่จะจองทัวร์ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีการเสนอขายกันในประเทศจีน และมาแบบ FIT โดยทริปนี้มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเป็นกรุ๊ปทัวร์ จำนวน 37 คน ส่วนที่เหลือเดินทางมาเองซื้อตัวเอง ในราคาที่ถือว่าสูงพอสมควร โดยราคาอยู่ที่ประมาณ 4,000 บาท ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีการยืนยันจากนักท่องเที่ยวที่รอดชีวิตที่ออกมาเปิดเผยถึงการจองทัวร์มาท่องเที่ยว ว่า ส่วนใหญ่จองมาเองโดยการจองผ่านทางอินเทอร์เน็ต
แหล่งข่าวรายหนึ่งระบุ ว่า หลังจากนักท่องเที่ยวจองโปรแกรมทัวร์ก็เดินทางเข้ามาภูเก็ต และจะเข้าพักตามโรงแรมต่างๆ ตามที่นักท่องเที่ยวแต่ละคนจองไว้ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง เพราะส่วนใหญ่พักโรงแรมดังๆ ระดับ 4-5 ดาวเกือบทั้งหมด เมื่อถึงเวลาลงเรือก็จะมีรถไปรับที่โรงแรม หรือเดินทางมาเอง และพานักท่องเที่ยวมาขึ้นเรือฟีนิกซ์ ซึ่งจอดลอยลำที่บริเวณท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง เพื่อไปร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่ทางบริษัทเรือกำหนดไว้
เส้นทางเดินเรือของ “ฟีนิกซ์” นั้นจะออกจากท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง มุ่งหน้าเกาะราชา เพื่อพานักท่องเที่ยวไปดำน้ำตื้น ทำกิจกรรมต่างๆ บริเวณอ่าวหน้าเกาะราชา จังหวัดภูเก็ต บางครั้งก็จะแวะเกาะเฮ เพื่อให้นักท่องเที่ยวเล่นน้ำ โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะทำกิจกรรมบริเวณเกาะราชา รับประทานอาหารบนเรือ ซึ่งบนเรือมีกิจกรรมต่างๆ ให้เล่น หลังจากเสร็จกิจกรรมเรือก็จะนำนักท่องเที่ยวทั้งหมดเดินทางกลับมายังท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง เพื่อเดินทางกลับที่พัก ซึ่งทุกวันจะเป็นลักษณะนี้
ส่วนเรือหลังจากส่งนักท่องเที่ยวเสร็จก็จะต้องมีการจัดเตรียมอุปกรณ์ ทำความสะอาดเรือ และอื่นๆ เพื่อที่จะรับนักท่องเที่ยวกลุ่มต่อไปในวันรุ่งขึ้น เพราะฉะนั้น ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมเรือจะต้องนำนักท่องเที่ยวฝ่าคลื่นลมแรงกลับเข้าฝั่ง และไม่จอดรอเหมือนลำอื่นๆ ที่ทั้งเรือ และ นักท่องเที่ยวต้องติดอยู่บนเกาะเกือบ 300 คน เพราะเรือลำนี้ซึ่งเป็นเรือลำเดียวของทางบริษัทจะต้องมารับนักท่องเที่ยวในวันรุ่งขึ้นเพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวเช่นเดิม
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบโปรแกรมทัวร์ และโบรชัวร์ที่ใช้แจกให้กับนักท่องเที่ยวพบว่า ระบุเป็นภาษาจีนเกือบทั้งหมด ยกเว้นบางข้อความที่มีภาษาอังกฤษเข้ามาบ้าง โดยแหล่งข่าวรายเดิม ระบุว่า ทัวร์เรือลำดังกล่าวไม่รับนักท่องเที่ยวคนไทยใช้บริการ