ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “บิ๊กโจ๊ก” ส่ง 11 ทีมลงค้นพื้นที่เป้าหมาย 11 จุด กวาดล้างนอมินีภูเก็ต เกี่ยวเรือท่องเที่ยว ย้ำนอมินีต้องหมดไปจากจังหวัดภูเก็ต เผยต้องตอบกำถามให้ชัดเรือล่มเพราะอะไร ระบุเริ่มมีการเคลื่อนไหวลักลอบนำเรืออกจากพื้นที่ แต่ไม่ต้องห่วงตามจับได้หมด ถ้ารู้ตัวเป็นนอมินีขอให้เลิก ตนลงพื้นที่แล้วทุกอย่างต้องจบ
เมื่อเวลา 08.30 น. วันนี้ (10 ก.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ภายใต้การสั่งการของศูนย์ ศป.อส.ตร. หรือศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศและความผิดทางอาญาที่เป็นนโยบายพิเศษของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประชุมชี้แจงแนวการปฏิบัติในการลงตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 11 จุด เตรียมตรวจสอบข้อมูลในใน 3 มูลฐานความผิดที่อาจจะเกี่ยวข้อง 3 กลุ่มข้อหา ประกอบด้วย การฟอกเงิน อั้งยี่ และเรื่องนอมินี โดยมีการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยร่วมดำเนินการ
สำหรับการลงพื้นที่ทั้ง 11 จุด ประกอบด้วย 1.จุดให้นักท่องเที่ยวลงเรือนำเที่ยวของบริษัท เลซีแคททราเวล จำกัด ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือนำชัย บ้านแหลมพันวา 2.สถานที่เก็บของและเอกสารของบริษัท เลซี่แคททราเวล จำกัด ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 104/2 ม.7 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต 3.สถานที่รับบุ๊กกิ้งและทำบัญชีและอยู่บริเวณอาคารพาณิชย์ภายในหมู่บ้านพนาสนธิ์ บ่อแร่เมืองทอง
4.สถานที่พักอาศัยและที่ทำงานของ นายอิทธิ์โรจน์ ชวาลพิพัฒน์พงศ์ ชื่อ water beac club บริเวณหาดนุ้ย ซ.แหลมมุมนอก ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต 5.สำนักงานเก่าตามหนังสือจดทะเบียนบริษัท ทีซี บลู ดรีม จำกัด ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 43/84 ม.5 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต 6.ที่ทำการปัจจุบันของ ทีซี บลู ดรีม จำกัด บ้านเลขที่ 41/2 ม.5 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต 7.บ้านพักของ น.ส.วรลักษณ์ ฤกษ์ชัยการ เลขที่ 123/23 ถ.วิชิตสงคราม ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต
8.บริษัทอควาไดฟ์ เซ็นเตอร์ ภูเก็ต จำกัด เลขที่ 46/22 ม.9 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต 9.บริษัท เจเอ็นเคอิเลคทริค จำกัด เลขที่ 80/12 ม.7 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต 10.บริษัทเซเว่น พลัส ทราเวิล จำกัด เลขที่ 71/46 ม.2 ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต 11.บ้านพักอาศัยของ นายอิทธิ์โรจน์ ชวาลพิพัฒน์พงศ์ เลขที่ 60/16 ม.2 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวภายหลังการประชุมว่า จากเหตุเรือฟีนิกซ์ และเรือเซเรนาต้า ล่มในทะเลอันดามัน จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวบาดเจ็บ และเสียชีวิตจำนวนมาก ในส่วนของศูนย์ศูนย์ ศป.อส.ตร. หรือ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศและความผิดทางอาญาที่เป็นนโยบายพิเศษของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการสั่งการจากท่านนายกรัฐมนตรี และรองนายก รัฐมนตรี ให้ตรวจสอบถึงสาเหตุของการเกิดเหตุเรือล่มในครั้งนี้ ว่า เกิดจากอุบัติเหตุ หรือนอมินี หรือ เกิดจากเรือไม่ได้มาตรฐาน เรือไม่ถูกต้อง
โดยวันนี้ลงตรวจค้น จำนวน 11 จุดที่เกี่ยวข้องกับเรือทั้ง 2 ลำ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีการสนธิกำลังร่วมกันหลายหน่วงงาน ทั้งป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ศุลกากร กรมท่องเที่ยว กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยงาน โดยการดำเนินการในครั้งนี้เป็นการบังคับใช้กฎหมายของทุกหน่วยงานมาปฏิบัติการร่วมกัน
สำหรับการตรวจสอบทั้ง 11 จุด เน้นตรวจสอบในทุกๆ เรื่อง เช่น การตรวจสอบเรือ จะต้องตรวจสอบว่าเป็นเรือที่นำเข้ามาโดยถูกต้องหรือไม่ มีการชำระภาษีหรือไม่ ในส่วนของกรมเจ้าท่ามีการตรวจสอบเรือที่จะออกจากท่าหรือไม่ ในวันนี้จึงเป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันทุกภาคส่วนทั้งส่วนกลาง และในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามมาตรการปราบปราม “นอมินี” ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
สำหรับการดำเนินการตรวจสอบจะดำเนินการตรวจสอบในเรื่องของภาษีอากร และมูลฐานความผิดที่จะนำไปสู่การฟอกเงิน ซึ่งเป็นการปฏิบัติการในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติอย่างจริงจัง วันนี้จังหวัดภูเก็ต และอันดามัน เรื่องของนอมินีข้ามชาติจะต้องหมดสิ้น และ เหตุเรือล่ม เรือไฟไหม้จะต้องไม่เกิดขึ้นอีกแล้วถ้าสาเหตุเกิดจากนอมินี ยกเว้นเหตุที่เกิดจากภัยธรรมชาติ
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อไปว่า นอมินีข้ามชาติเข้ามาใช้ทรัพยากรในประเทศไทย ในภูเก็ต ในอันดามัน แต่รายได้ไม่เข้าประเทศไทย เข้ามาแย่งพื้นที่ แย่งอาชีพของคนไทย ถ้าไม่ปราบวันนี้คนไทยในพื้นที่จะต้องถอยให้แก่นอมินีต่างชาติจนไม่มีที่ยืน เพราะฉะนั้น เราจะต้องทำให้คนไทยที่เสียภาษีมีที่ยืน
เรื่องนี้ นายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำ ใน 2 เรื่อง คือ เรื่องการดูแลผู้ประสบภัย การเยียวยา จะต้องได้รับการดูแลที่ดีที่สุด และเรื่องการปราบปรามผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในครั้งนี้ทุกคน รวมทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐที่ร่วมกระทำความผิดในครั้งนี้โดยเด็ดขาด และจะต้องถามคนไทย และคนจีนให้ได้ว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดเรือล่มในครั้งนี้เกิดจากสาเหตุอะไร อุบัติเหตุ นอนินี หรือเรือ
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า หลังจากมีข่าวว่าจะมีการตรวจสอบเรื่องนอมินี ทราบว่า ตอนนี้เริ่มมีบางบริษัท เจ้าของเรือบางเรือลักลอบนำเรืออกจากจังหวัดภูเก็ตไปแล้ว แต่ไม่เป็นไม่ไรหนีไปแต่เราก็ตามได้อย่างแน่นอนไม่ว่าจะหนีไปอยู่ที่ไหน แต่ทางที่ดีถ้ารู้ว่าเป็นนอมินี ขอให้เลิกไปเลย เลิกบริษัทไปเลย และไปทำให้ถูกก็ไม่เสีย แต่วันนี้ตนมาถึงภูเก็ตแล้วยังไม่เลิกก็จะต้องใช้มาตรการทางกฎหมายจัดการทุกกรณี เช่นเดียวกับที่มีการดำเนินการกับบริษัท ทรานลี่ ที่ได้มีการดำเนินการไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า มีความเชื่อมโยงกับบริษัท ทรานลี่ เดิมแต่มีการเปลี่ยนรูปแบบในการดำเนินงาน ซึ่งขณะนี้เรารู้ตัวบุคคล รู้อะไรหมดแล้ว จากการตรวจสอบมีความผิดหลายส่วน ทั้งเรื่องของการบุกรุกป่าสงวน ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ถ้าคนที่ทำผิดอยู่ และรู้ตัวก็เลิกไปเลย