ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “ศรีวราห์” ลงภูเก็ตติดตามความคืบหน้าคดีเรือล่ม ย้ำตัวเลขผู้สูญหาย-เสียชีวิตต้องชัดเจน เพราะมีผลทางกฎหมาย ขณะที่ผู้สูญหายเหลือค้นหาอีก 6 ราย
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (9 ก.ค.) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมประชุมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ตำรวจภูธรภาค 8
นำโดย พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจน้ำ ชี้แจงถึงแนวทางการความคืบหน้าการคลี่คลายคดีเพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุเรือล่ม และดำเนินการต่อผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับเรือทั้ง 2 ลำ คือ เรือเซเรนาต้า และเรือฟินิกซ์ หลังประสบเหตุล่มบริเวณเกาะเฮ เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตจำนวนมาก
ทั้งจากการสรุปตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวล่าสุดที่ลงเรือฟินิกซ์ จำนวน 89 คนพบรอดชีวิตช่วยเหลือไว้ได้ จำนวน 42 คน เป็นชาย 23 คน หญิง 19 คน เสียชีวิต 41 ราย อยู่ระหว่างค้นหาอีก 6 ราย
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวในที่ประชุมถึงการทำงานขอให้ดำเนินการให้ครอบคลุมทุกด้าน และการสอบสวนให้เร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว โดยเฉพาะในส่วนของนักท่องเที่ยวที่ได้รับแจ้งว่าไม่ได้ร่วมลงเรือไปในวันเกิดเหตุจำนวน 5 ราย เป็นใครบ้าง ซึ่งบุคคลดังกล่าวจะต้องได้รับการยืนยันจากทางสถานทูตจีนด้วย”
“ส่วนเรื่องเรือจะต้องตรวจสอบให้ชัดว่ามีการจดทะเบียนที่ไหนอย่างไร ขณะที่ของการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลสูญหายเท่าไหร่ เสียชีวิตเท่าไหร่ จะต้องมีความชัดเจน เพราะมีผลทางกฎหมาย”
แหล่งข่าวรายหนึ่งระบุว่า เรือเซเรนาต้า ที่ประสบอุบัติเหตุจากการจรวจสอบพบว่าเป็นเรือจากต่างประเทศที่เข้ามายื่นขออนุญาตทำการท่องเที่ยว ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะต้องมีการตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเรือลำนี้เข้ามาได้อย่างไร เพราะในการยื่นขอจดทะเบียนจะต้องมีแบบพิมพ์เขียวยื่นไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เองจะต้องมีการตรวจสอบข้อมูลในเชิงลึก ส่วนเรือฟินิกซ์ ในเบื้องต้นพบว่า เป็นเรือที่ต่อในภูเก็ต และเพิ่งต่อเสร็จเมื่อปีที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (9 ก.ค.) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมประชุมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ตำรวจภูธรภาค 8
นำโดย พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจน้ำ ชี้แจงถึงแนวทางการความคืบหน้าการคลี่คลายคดีเพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุเรือล่ม และดำเนินการต่อผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับเรือทั้ง 2 ลำ คือ เรือเซเรนาต้า และเรือฟินิกซ์ หลังประสบเหตุล่มบริเวณเกาะเฮ เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตจำนวนมาก
ทั้งจากการสรุปตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวล่าสุดที่ลงเรือฟินิกซ์ จำนวน 89 คนพบรอดชีวิตช่วยเหลือไว้ได้ จำนวน 42 คน เป็นชาย 23 คน หญิง 19 คน เสียชีวิต 41 ราย อยู่ระหว่างค้นหาอีก 6 ราย
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวในที่ประชุมถึงการทำงานขอให้ดำเนินการให้ครอบคลุมทุกด้าน และการสอบสวนให้เร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว โดยเฉพาะในส่วนของนักท่องเที่ยวที่ได้รับแจ้งว่าไม่ได้ร่วมลงเรือไปในวันเกิดเหตุจำนวน 5 ราย เป็นใครบ้าง ซึ่งบุคคลดังกล่าวจะต้องได้รับการยืนยันจากทางสถานทูตจีนด้วย”
“ส่วนเรื่องเรือจะต้องตรวจสอบให้ชัดว่ามีการจดทะเบียนที่ไหนอย่างไร ขณะที่ของการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลสูญหายเท่าไหร่ เสียชีวิตเท่าไหร่ จะต้องมีความชัดเจน เพราะมีผลทางกฎหมาย”
แหล่งข่าวรายหนึ่งระบุว่า เรือเซเรนาต้า ที่ประสบอุบัติเหตุจากการจรวจสอบพบว่าเป็นเรือจากต่างประเทศที่เข้ามายื่นขออนุญาตทำการท่องเที่ยว ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะต้องมีการตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเรือลำนี้เข้ามาได้อย่างไร เพราะในการยื่นขอจดทะเบียนจะต้องมีแบบพิมพ์เขียวยื่นไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เองจะต้องมีการตรวจสอบข้อมูลในเชิงลึก ส่วนเรือฟินิกซ์ ในเบื้องต้นพบว่า เป็นเรือที่ต่อในภูเก็ต และเพิ่งต่อเสร็จเมื่อปีที่ผ่านมา