ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รมว.ท่องเที่ยวฯ ลงภูเก็ตติดตามความคืบหน้าการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุเรือล่ม เผย รัฐบาลจีนต้องการให้ค้นหาผู้สูญหายโดยเร็วที่สุด “บิ๊กตู่” ร่วมส่งมอบความปรารถนาดีถึงทุกคน
เมื่อเวลา 18.30 น. วันนี้ (6 ก.ค.) ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่ม จ.ภูเก็ต ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมคณะ เดินทางมาติดตามการความคืบหน้าการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ซึ่งประสบเหตุเรือฟินิกซ์ล่มที่บริเวณเกาะเฮ และมีผู้สูญหายจำนวนหนึ่ง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา
โดยมี นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ร.ต.เจริญพล คุ้มราษี รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ พร้อมบรรยายความคืบหน้าสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยสรุปว่า หลังเกิดเหตุได้มีการบูรณาการความร่วมมือของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งทัพเรือภาคที่ 3, กองทัพภาคที่ 4, ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต, ตำรวจน้ำ, ตำรวจท่องเที่ยว, ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ออกทำการระดมค้นหาทั้งช่วงกลางวัน และกลางคืน
ทั้งนี้ จนถึงเวลา 18.00 น. ของวันนี้ (6 ก.ค.) จากผู้สูญหาย จำนวน 56 คน ขณะนี้พบแล้ว 33 ราย ในจำนวนดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต จำนวน 32 ราย และรอดชีวิต 1 ราย ยังคงเหลือนักท่องเที่ยวที่สูญหาย จำนวน 23 ราย และต้องยุติการค้นหาด้วยการดำน้ำชั่วคราว เนื่องจากเป็นเวลาค่ำ และระดับน้ำลึกทำให้การค้นหาลำบาก ทั้งนี้ อาจจะมีการปรับแผน และทำการค้นเรือฟินิกซ์ในวันพรุ่งนี้ (7 ก.ค.) เพื่อค้นหาผู้สูญหายที่เหลือ
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวภายหลังรับฟังบรรยายสรุปว่า ได้ติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากทราบเรื่องมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเหตุการณ์ความสูญเสียที่เกิดขึ้นนั้น ถูกจับตาจากทั่วโลก และเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ทำอย่างไรที่จะมีการดูแลภายหลังเกิดเหตุ รวมทั้งจะได้รับทราบข้อมูลเพื่อนำไปสื่อสารในภาษาต่างๆ ให้เป็นที่รับรู้อย่างเป็นทางการ
ขณะเดียวกัน ตนยังได้รับรายงานว่า ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ออกแถลงการณ์ 2 ข้อ ข้อแรก ขอให้ทางการไทยได้ค้นหาผู้ประสบเหตุให้ได้อย่างดีที่สุด และข้อที่ 2 ขอให้ช่วยดูแลผู้ที่รอดชีวิต หรือค้นพบจากที่เกิดเหตุให้ดีที่สุด ซึ่งในประการที่ 2 นั้นได้มีการดำเนินการอยู่แล้ว โดยได้มีการตรวจสอบในเรื่องของระบบประกันภัยต่างๆ
ทั้งนี้ ขอขอบคุณภาคเอกชน และเรือประมงที่อยู่ใกล้เคียง ตลอดจนทัพเรือภาคที่ 3 และภาคส่วนต่างๆ ที่เข้าไปทำการช่วยเหลือดูแล เนื่องจากในช่วงเกิดเหตุถือว่าคลื่นค่อนข้างสูงมาก จากรายงานที่ได้รับพบว่าในบางช่วงคลื่นสูงถึง 5 เมตร ดังนั้น ถือว่าภัยพิบัติที่เกิดขึ้นนั้นรุนแรงมาก และจากเหตุการณ์กระจกของอาคารศูนย์แห่งนี้ ถูกลมพัดจนแตกกระจายเป็นการยืนยันให้เห็นว่าเหตุการณ์ไม่ปกติ ส่วนการค้นหานั้น หากทางทัพเรือยังสามารถส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตระเวนค้นหากันต่อไปก็จะเป็นประโยชน์ ซึ่งจะทำให้ความหวังที่จะเจอใครก็ยังมีต่อไป
การลงมาที่ภูเก็ตนั้นได้มีการรายงานให้ท่านนายกรัฐมนตรีทราบ และได้มอบหมายให้เป็นผู้แทนในการร่วมติดตามสถานการณ์ในครั้งนี้ พร้อมส่งความปรารถนาดี ตลอดจนกำลังใจให้กับทุกฝ่ายในการปฏิบัติหน้าที่ และการดูแลผู้ที่ค้นเจอมาแล้วให้ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ส่วนผู้ที่สูญเสียไปแล้วก็ต้องช่วยกันพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ซึ่งจะทำให้ญาติพี่น้องที่อยู่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในประเทศจีน ซึ่งขณะนี้มีการไถ่ถามกันค่อนข้างมากว่ามีผู้ใดประสบเหตุบ้าง ซึ่งต้องรีบดำเนินการในส่วนของข้อมูลต่อไป
อีกเรื่องคือการอำนวยความสะดวกให้กับญาติที่จะเดินทางเข้ามาหา ซึ่งได้มีการร่วมมือกับภาคเอกชนในการอำนวยความสะดวก ทั้งที่สนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ให้เตรียมความพร้อมรับผู้ที่จะเดินทางมาติดตามหาญาติจากเหตุการณ์ดังกล่าว และจากข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า ผู้ประสบเหตุในครั้งนี้มีจำนวนมากที่เดินทางมากันเอง ไม่ได้มาเป็นคณะทัวร์ ดังนั้น กระบวนการติดตามตรวจหาอาจจะไม่พบรายชื่อเป็นกลุ่มๆ แต่จะพบเป็นรายๆ ไป จึงทำให้ภารกิจในครั้งนี้ท้าทายพอสมควร
และในคืนนี้ (6 ก.ค.) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ซึ่งขณะเกิดเหตุประชุมอยู่ที่ปักกิ่ง ก็จะเดินทางมาติดตามสถานการณ์ที่ภูเก็ตด้วย และทราบว่า จะมีสื่อมวลชนของจีนติดตามมาด้วย ซึ่งคงเป็นสาระสำคัญอย่างยิ่ง และคงจะมีการสอบถามว่าทางเราดำเนินการอะไรไปบ้าง และจากที่ได้รับฟังรายงานจากผู้ว่าฯ ภูเก็ต แล้ว คิดว่าเรามีคำอธิบายที่สามารถทำให้โลกเข้าใจได้ และรัฐบาลจะสนับสนุนเต็มที่ในการค้นหา และกู้ภัย ตลอดจนดูแลผู้ประสบภัย
ด้วยเหตุที่ว่าผู้ประสบภัยทั้งหมดส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นผู้ที่มากับกรุ๊ปทัวร์ สิ่งที่พบคือเขาไม่มีโทรศัพท์มือถือแล้ว ดังนั้น จะมีผล 2 ประการ คือ ไม่สามารถติดต่อกับทางบ้านของเขาได้ และคนจีนส่วนใหญ่จะใช้เงินสดน้อย แต่จะใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ จึงทำให้ไม่มีเงินใช้ ซึ่งตนได้ให้ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประสานกับบริษัทมือถือได้เข้ามาช่วยบริการให้กับนักท่องเที่ยวที่ประสบภัยที่รอดชีวิตมา เพื่อให้ติดต่อกับญาติได้ฟรี
รวมทั้งอาจจะมีระบบอื่นๆ ตามมาภายหลัง เพื่อสร้างความประทับใจในการดูแลของทางการไทย ขณะเดียวกัน ยังมีการระดมล่ามเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการสื่อสารกับแพทย์ หรือพยาบาล หรือผู้ที่มาเยี่ยมด้วย