นราธิวาส - จนท.ประมงนราฯ เข้าให้การช่วยเหลือผู้เลี้ยงปลาในกระชัง หลังปลาน็อกน้ำตายเสียหายนับล้านบาท ชาวบ้านชี้รัฐไม่ต้องหาอาชีพ ที่นี้มีอาชีพเลี้ยงครอบครัว ขอเพียงจัดทำร่องน้ำมาตรฐาน และไม่ปิดกั้นทางน้ำก็เพียงพอแล้ว
จากเหตุลมมรสุมในทะเลอ่าวไทย ฝั่งทะเล จ.นราธิวาส ลมในทะเลพัดกระโชกแรง เกิดคลื่นซัดทรายมาทับถมอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริเวณชายหาด ซึ่งเปิดเป็นปากร่องน้ำชั่วคราวคลองโคกเคียน เส้นทางเรือขนาดเล็กออกสู่ทะเล บริเวณชายหาดนราทัศน์ เขตเทศบาลเมือง จ.นราธิวาส แนวสันทรายทับถมปิดเส้นทางร่องน้ำยาวเป็นระยะทางกว่า 300 เมตร จนเป็นเหตุให้น้ำที่หมุนเวียนเข้าคลองโคกเคียน และแม่น้ำบางนราเกิดความตื้นเขิน และสภาพน้ำในคลองโคกเคียน มีสภาพกลิ่นเน่าเสีย
จนผู้เลี้ยงปลาในกระชังกว่า 1,000 ครัวเรือน ที่อาศัยโดยการเลี้ยงชีพอยู่ในบริเวณคลองโคกเคียน และแม่น้ำบางนราได้รับความเดือดอย่างหนัก เนื่องจากร่องน้ำมีสีขาวขุ่น น้ำไม่สามารถหมุนเวียนได้ จนเป็นเหตุให้ปลาเศรษฐกิจ อาทิ ปลากะพงขาว ปลากะพงแดง และปลาเก๋า ได้ลอยตัวตายอืดเหนือน้ำนับแสนตัว และอีกนับหลายแสนตัวกำลังขาดอากาศออกซิเจนในน้ำ ซึ่งปลาเริ่มทยอยตายเป็นจำนวนมากนั้น
ล่าสุดวันนี้ (27 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่สำนักงานประมงอำเภอเมืองนราธิวาส และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังจากได้รับแจ้งจากกลุ่มนราพัฒนา กลุ่มเลี้ยงปลากะพงขาวในกระชัง ทางหน่วยงานก็ได้ดำเนินการส่งเรื่องให้ส่วนที่เกี่ยวข้องมาดูแลกลุ่มเลี้ยงปลาดังกล่าวแล้ว
โดยนายจรูญ ชลหัตถ์ ประมงอำเภอเมืองนราธิวาส เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งจาก นางมาริยานิง มะอุเซ็ง สมาชิกกลุ่มนาราพัฒนา กลุ่มเลี้ยงปลากะพงขาวในกระชัง ต.บางนาค อ.เมืองนราธิวาส ว่า ในระหว่างวันที่ 17-20 มิถุนายน 2561 ปลากะพงขาวที่เลี้ยงไว้ในกระชังขาดออกซิเจนทำให้ปลากะพงขาวน็อก และตายทั้งหมด เนื่องจากออกซิเจนในกระชังที่เลี้ยงปลามีไม่เพียงพอ การจัดการเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยขณะนี้สามารถนำปลากะพงขาวออกจำหน่ายได้บางส่วน อีกส่วนเป็นปลาที่จมลงใต้กระชัง ซึ่งล้วนเป็นปลาที่เน่าเสีย ไม่สามารถนำมาบริโภคหรือจำหน่ายได้ ความเสียหายประมาณ 1,600,000 บาท
เนื่องจากฤดูมรสุมทุกครั้ง จะเกิดแนวสันทรายทับถมปิดเส้นทางร่องน้ำ และได้แนะนำให้กลุ่มเลี้ยงปลาประมงช่วยเหลือตัวเองเบื้องต้น โดยให้จัดหาอุปกรณ์ให้ออกซิเจนให้กับปลาที่เลี้ยงไว้ ซึ่งต่อไปถ้าเกิดเหตุดังกล่าวปลาก็จะได้ไม่น็อกน้ำ และตายเนื่องจากการขาดออกซิเจนอีก
ด้านนางมาริยานิง มะอุเซ็ง ตัวแทนกลุ่มนราพัฒนา กลุ่มเลี้ยงปลากะพงขาวในกระชัง ต.บางนาค อ.เมืองนราธิวาส ได้กล่าวขอบคุณทางเทศบาล และส่วนที่เกี่ยวข้องที่ได้นำรถแบกโฮ เข้าทำการขุดทรายขุดลอกให้น้ำทะเล และลำคลองได้หมุนเวียนแก้ปัญหาเบื้องต้น นอกจากนี้ ทางศูนย์วิจัยพันธุ์สัตว์น้ำได้ส่งเครื่องปั๊มออกซิเจน เพื่อเพิ่มออกซิเจนให้กับปลาที่เหลือ ผู้เลี้ยงปลาในกระชังฝากขอบคุณประมงอำเภอ และทุกภาคส่วน ทั้งรัฐและเอกชนด้วยที่ช่วยเหลือประชาชนในครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตามอนาคตอันใกล้นี้ รัฐบาลควรมีมาตรการระยะยาวเพื่อแก้ปัญหาร่องน้ำปิดกั้นทางน้ำ ที่นี่สร้างงานสร้างอาชีพให้ชาวบ้านได้มีกินมีใช้ รัฐไม่ต้องหาอาชีพให้ เพียงแต่สร้างเปิดทางร่องน้ำให้เป็นมาตรฐาน แค่นี้ก็พอแล้ว