ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตำรวจกองปราบ บุกจับขบวนการแชร์ลูกโซ่ทองคำรายใหญ่ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วงเงินเสียหายกว่า 100 ล้านบาท พบเปิดเต็นท์รถบังหน้า เตรียมขยายผลจับเครือข่ายที่เหลือ
วันนี้ (25 มิ.ย.) พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผกก.6 บก.ป.นำกำลังตำรวจกองปราบปราม เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 679 หมู่บ้านวราศิริ ซึ่งเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ย่านชุมชนจันทร์วิโรจน์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และจับกุม นางนฤดี แก้วคงเงิน อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในขบวนการแชร์ลูกโซ่ทองคำที่หลอกลวงประชาชน ตามหมายจับของศาลจังหวัดสงขลา ในคดีฉ้อโกงประชาชน
ซึ่งมีผู้เสียหายใน อ.หาดใหญ่ราว 30 ราย วงเงินประมาณ 100 ล้านบาท และพื้นที่จังหวัดอื่นๆ อีกนับร้อยราย และจากการตรวจค้นภายในบ้านเจ้าหน้าที่ได้ยึดเอกสารหลายอย่าง ทั้งเอกสารการโอนเงิน โฉนดที่ดิน ใบรับจำนำ หัวทะเบียนรถ และใบไถ่ถอน เพื่อนำไปตรวจสอบ
นอกจากนี้ กำลังตำรวจกองปราบอีกชุดยังได้เข้าตรวจค้นที่เต็นท์รถชื่อ บีบียูสคาร์ เลขที่ 257 และ259 ถนนศรีภูวนารถ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ซึ่งเป็นเต็นรถของ นางนฤดี เพื่อหาหลักฐานเพิ่ม และได้อายัดรถยนต์ จำนวน 14 คัน ทั้งรถเก๋ง และรถกระบะที่จอดอยู่ภายในเต็นท์ เพื่อตรวจสอบว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการฉ้อโกงประชาชนด้วยหรือไม่
เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เผยว่า การเข้าตรวจค้น และจับกุม นางนฤดี ซึ่งเป็นหนึ่งในขบวนการแชร์ลูกโซ่ทองคำรายใหญ่ใน จ.สงขลา เป็นผลมาจากมีผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความต่อตำรวจกองปราบ ว่า ถูกนางนฤดี ชักชวนให้ซื้อทองคำแท่งในราคาที่ต่ำกว่าของสมาคมผู้ค้าทอง แต่ต้องซื้อน้ำหนักอย่างต่ำ 50 บาทขึ้นไป และต้องรอ 5 วัน จึงจะขายได้
เช่น หากราคาทองคำบาทละ 20,000 บาท จะซื้อได้ในราคาแค่ 17,000 บาทเท่านั้น ซึ่งผู้ซื้อจะได้กำไรถึง 3,000 บาท ช่วงแรกมีการจ่ายเงินส่วนต่างของกำไรให้จริง จึงมีคนหลงเชื่อจำนวนมาก และส่วนใหญ่จะลงทุนเพิ่ม แต่ละรายหลักล้านบาท สุดท้ายทั้งทุนทั้งกำไรหายไปทั้งหมด ซึ่งมีวงจรเดียวกับแชร์ออนไลน์ประเภทอื่นๆ ที่นำเงินจากสมาชิกใหม่มาจ่ายเป็นผลตอบแทนให้แก่สมาชิกเก่าหมุนเวียนไปเรื่อยๆ หากไม่มีสมาชิกเพิ่มแชร์ก็จะล่มทันที
และจากการสอบสวน นางนฤดี บอกว่า เป็นเพียงคนหาสมาชิกมาร่วมเล่นแชร์ทอง และรวบรวมเงินโอนเงินไปยังเท้าแชร์อีกคนหนึ่ง และจากการสอบสวนพบว่า เครือข่ายแชร์ทองกลุ่มนี้ใน จ.สงขลา มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะขยายผลจับกุมต่อไป
