ตรัง - หลายธุรกิจเกี่ยวข้องกับ “กีฬาชนโค” เริ่มเติบโตมากขึ้น หลังจากที่กระแสความนิยมเพิ่มสูง ขณะที่หลายฝ่ายเตรียมผลักดันไปสู่ระดับสากล เชื่อเพราะเป็นวัฒนธรรมที่เหนียวแน่นของคนใต้ และตรงกับยุค 4.0
จากการที่กระแสความนิยมกีฬาชนโค หรือวัวชนในภาคใต้สูงขึ้น จนทำให้ก่อเกิดสนามชนโคเพิ่มขึ้นเป็น 38 แห่งแล้ว และมีประชาชนแทบทุกระดับเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมากนั้น ได้ส่งผลดีต่อหลายธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อย่างเช่น การรับจ้างตัดหญ้าให้วัวกิน ในราคากระสอบละ 100-200 บาท ซึ่งอาจแพงหน่อยในช่วงหน้าแล้ง โดยเจ้าของมักจะเน้นหญ้าธรรมชาติ เพราะไม่มีสารเคมีใดๆ และให้ประโยชน์สูง ขณะเดียวกัน ก็ยังมีธุรกิจปลูกหญ้าส่งขายด้วย ซึ่งก็กำลังได้รับความนิยมไม่น้อยเช่นกัน รวมทั้งการขายข้าวของเครื่องใช้เกี่ยวกับวัวชน เช่น สายคอ เชือกร้อยจมูก ล็อกเขา เคียนพลาง เหล็กตอก รวมทั้งยาบำรุงอีกสารพัด ที่ล้วนสร้างรายได้ให้อย่างน่าสนใจ
นายคฑาวุธ ทองไทย หรืออาจารย์ไข่ มาลีฮวนน่า กล่าวว่า ขณะนี้กีฬาวัวชนได้ขยายวงกว้างไปถึงกลุ่มคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ จนกลายเป็นวัฒนธรรมที่เหนียวแน่นของคนใต้ไปแล้ว และยังตรงกับยุค 4.0 ที่มีเป้าหมายหล่อหลอมรวมสิ่งดีๆ ในชุมชน พร้อมกับการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัย ซึ่งตนอยากให้มองไกลไปถึงการพัฒนากีฬาวัวชนสู่การท่องเที่ยวระดับนานาชาติ เหมือนอย่างวัวกระทิงของประเทศสเปน เพราะจะก่อเกิดรายได้กระจายไปทั่วทุกหย่อมหญ้า และช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจชุมชนของภาคใต้ให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง
ทั้งนี้ การชนโคนับเป็นกีฬาพื้นบ้านที่มีชื่อเสียงมากที่สุดอย่างหนึ่งของชาวภาคใต้ โดยเฉพาะที่ จ.นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง และ จ.สงขลา จนบางที่จัดเป็นงานเทศกาลสำคัญประจำปีไปแล้ว ซึ่งถือเป็นการคัดเลือกเอาวัวที่มีคุณลักษณะเหมาะสมมาชนกันในสถานที่ที่กำหนด ยกเว้นวันพระ และมีการตั้งกติกาที่แพ้ชนะอย่างชัดเจน เพื่อให้วัวตัวผู้ทั้งสองฝ่ายตรงรี่เข้าปะทะกัน แล้วใช้พละกำลัง และอาวุธคือ เขา เข้าต่อสู้เสียงดังสนั่น จนกว่าอีกฝ่ายจะวิ่งถอยไป ทำให้เกิดทั้งความสนุกสนาน ตื่นเต้น และประทับใจแก่ผู้ที่มาชมเป็นอย่างมาก