ชุมพร - จับได้แล้วผัวจอมโหด พร้อมอาวุธปืน น้ำต้มใบกระท่อม หลังซ้อมเมียใช้เชือกแขวนคอหน้าห้องน้ำจนอาการปางตายต่อหน้าลูกสาว สำนึกผิดยอมรับสารภาพทำจริง แต่ปฏิเสธไม่ได้ดื่มเหล้าเมา
จากรณี นายสุทธิพงษ์ หนูบำรุง อายุ 34 ปี ทำร้ายทุบตี น.ส.ปาล์ม อายุ 33 ปี ภรรยาตัวเอง แล้วใช้เชือกไนลอนแขวนคอหน้าห้องน้ำ ต่อหน้าลูกสาววัย 12 ปี เห็นแม่ถูกทำร้ายปางตายวิ่งโร่ไปตามญาติมาช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปขวาง จนกระทั่งสามีโหดหนีไปเนื่องจากเข้าใจผิดคิดว่าภรรยาตายแล้ว ญาติจึงได้เข้าช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพายาบาลสวี แต่มีอากาบาดเจ็บสาหัสขั้นโคม่า จึงต้องส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ เหตุเกิดเมื่อกลางดึกของเมือคืนวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา ภายในบ้านเลขที่ 111 หมู่ 2 ตำบลท่าหิน อ.สวี จ.ชุมพร
สำหรับความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 07.00 น.วันนี้ (4 มิ.ย.) พ.ต.อ.คำสิงห์ ศรียาภัย ผกก.สภ.สวี จ.ชุมพร พร้อมด้วย ร.ต.อ.สมบูรณ์ ปิ่นทองพันธุ์ รอง สวป.หัวหน้าสายตรวจทุ่งระยะ และ ร.ต.ต.อุดร บุญตั้ง รอง สวป. ได้ควบคุมตัวสามีจอมโหดมาสอบสวนที่ สภ.สวี
ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ออกติดตามจับกุมได้ตัวได้เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา หลังก่อเหตุหลบหนี ไปอยู่ที่บ้านพ่อแม่ของผู้ต้องหารายนี้ในพื้นที่หมู่ 8 ตำบลทุ่งระยะ อ.สวี จ.ชุมพร พร้อมอาวุธปืนลูกโม่ .38 และเครื่องกระสุน 2 นัด และน้ำต้มพืชกระท่อมบรรจุขวดพลาสติกใส 1 ขวด
พ.ต.อ.คำสิงห์ ผกก.สภ.สวี กล่าวว่า หลังจากเกิดคดีดังกล่าวขึ้นก็ได้กำชับเจ้าหน้าที่เร่งรัดสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ และออกสืบสวนหาข่าวจนทราบว่า หลังเกิดเหตุ นายสุทธิพงษ์ ได้หลบหนีไปที่บ้านพ่อแม่ในพื้นที่หมู่ 8 ตำบลทุ่งระยะ จนสามารถติดตามจับกุม นายสุทธิพงษ์ ได้ที่หน้าบ้านหลังดังกล่าว จึงควบคุมตัวควบส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
พ.ต.อ.คำสิงห์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น นายสุทธิพงษ์ ให้การยอมรับสารภาพว่า ได้ลงมือทำร้ายภรรยาตัวเองจริง จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (น้ำกระท่อม) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย หลังจากสอบสวนเสร็จสิ้นตามขั้นตอนแล้ว คาดว่าจะนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านหลังเกิดเหตุอีกครั้งภายใน 1-2 วันนี้
ด้าน นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า ตนเองยอมรับที่ได้กระทำรุนแรงต่อภรรยาตนเองจริง เพราะเกิดจากปัญหาทะเลาะมีปากเสียงกัน แต่ปฏิเสธว่าตนไม่ได้ดื่มเหล้าเมาคลุ้มคลั่ง หรือเสพยาเสพติดอื่นๆ และขอสำนึกผิดต่อการกระทะดังกล่าว ฝากขอโทษภรรยา และญาติๆด้วย
จากรณี นายสุทธิพงษ์ หนูบำรุง อายุ 34 ปี ทำร้ายทุบตี น.ส.ปาล์ม อายุ 33 ปี ภรรยาตัวเอง แล้วใช้เชือกไนลอนแขวนคอหน้าห้องน้ำ ต่อหน้าลูกสาววัย 12 ปี เห็นแม่ถูกทำร้ายปางตายวิ่งโร่ไปตามญาติมาช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปขวาง จนกระทั่งสามีโหดหนีไปเนื่องจากเข้าใจผิดคิดว่าภรรยาตายแล้ว ญาติจึงได้เข้าช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพายาบาลสวี แต่มีอากาบาดเจ็บสาหัสขั้นโคม่า จึงต้องส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ เหตุเกิดเมื่อกลางดึกของเมือคืนวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา ภายในบ้านเลขที่ 111 หมู่ 2 ตำบลท่าหิน อ.สวี จ.ชุมพร
สำหรับความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 07.00 น.วันนี้ (4 มิ.ย.) พ.ต.อ.คำสิงห์ ศรียาภัย ผกก.สภ.สวี จ.ชุมพร พร้อมด้วย ร.ต.อ.สมบูรณ์ ปิ่นทองพันธุ์ รอง สวป.หัวหน้าสายตรวจทุ่งระยะ และ ร.ต.ต.อุดร บุญตั้ง รอง สวป. ได้ควบคุมตัวสามีจอมโหดมาสอบสวนที่ สภ.สวี
ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ออกติดตามจับกุมได้ตัวได้เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา หลังก่อเหตุหลบหนี ไปอยู่ที่บ้านพ่อแม่ของผู้ต้องหารายนี้ในพื้นที่หมู่ 8 ตำบลทุ่งระยะ อ.สวี จ.ชุมพร พร้อมอาวุธปืนลูกโม่ .38 และเครื่องกระสุน 2 นัด และน้ำต้มพืชกระท่อมบรรจุขวดพลาสติกใส 1 ขวด
พ.ต.อ.คำสิงห์ ผกก.สภ.สวี กล่าวว่า หลังจากเกิดคดีดังกล่าวขึ้นก็ได้กำชับเจ้าหน้าที่เร่งรัดสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ และออกสืบสวนหาข่าวจนทราบว่า หลังเกิดเหตุ นายสุทธิพงษ์ ได้หลบหนีไปที่บ้านพ่อแม่ในพื้นที่หมู่ 8 ตำบลทุ่งระยะ จนสามารถติดตามจับกุม นายสุทธิพงษ์ ได้ที่หน้าบ้านหลังดังกล่าว จึงควบคุมตัวควบส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
พ.ต.อ.คำสิงห์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น นายสุทธิพงษ์ ให้การยอมรับสารภาพว่า ได้ลงมือทำร้ายภรรยาตัวเองจริง จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (น้ำกระท่อม) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย หลังจากสอบสวนเสร็จสิ้นตามขั้นตอนแล้ว คาดว่าจะนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านหลังเกิดเหตุอีกครั้งภายใน 1-2 วันนี้
ด้าน นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า ตนเองยอมรับที่ได้กระทำรุนแรงต่อภรรยาตนเองจริง เพราะเกิดจากปัญหาทะเลาะมีปากเสียงกัน แต่ปฏิเสธว่าตนไม่ได้ดื่มเหล้าเมาคลุ้มคลั่ง หรือเสพยาเสพติดอื่นๆ และขอสำนึกผิดต่อการกระทะดังกล่าว ฝากขอโทษภรรยา และญาติๆด้วย