ตรัง - ร.ร.บ้านคลองคุ้ย ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด เป็นโรงเรียนแห่งแรกของภาคใต้ที่ประสบสำเร็จในการปลูกองุ่น พืชผลเมืองหนาวที่มีรสชาติอร่อย และหวานกรอบเหมือนกับทางภาคเหนือ
วันนี้ (4 มิ.ย.) นายสุรินทร์ ส่งแสง ผอ.ร.ร.บ้านคลองคุ้ย ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง กล่าวว่า จากความสำเร็จของเกษตรกรรายหนึ่งในพื้นที่ตำบลปากแจ่ม ที่ตัดสินใจโค่นต้นยางพาราเพื่อนำพื้นที่มาปลูกองุ่น พืชผลเมืองหนาวจนประสบผลสำเร็จอย่างงดงามเป็นรายแรกของจังหวัดตรังและของภาคใต้ เนื่องจากได้มีประชาชน และนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศแห่กันเดินทางมาเที่ยวชมไม่ขาดสาย นับเป็นการจุดประกายความคิดให้แก่คณะครู และนักเรียน ร.ร.บ้านคลองคุ้ย ซึ่งอยู่ห่างจากสวนองุ่นดังกล่าวเพียงไม่กี่กิโลเมตร จึงได้ตัดสินใจซื้อต้นพันธุ์องุ่นดำ พันธุ์บิวตี้ซีดเลส (Beauty Seedless) จำนวน 8 ต้น มาทดลองปลูกภายในโรงเรือนขนาดกว้าง 8 เมตร ยาว 12 เมตร ซึ่งใช้งบประมาณส่วนหนึ่งของทางโรงเรียน และมีผู้สนับสนุนมาอีกส่วนหนึ่ง
หลังจากได้นำต้นองุ่นปลูกลงดินไปเมื่อประมาณเดือนสิงหาคม 2560 ทั้งครู และนักเรียนต่างก็ช่วยกันดูแลเอาใจใส่พืชผลชนิดนี้เป็นอย่างดีตลอดระยะเวลา 7 เดือนที่ผ่านมา โดยเน้นการให้ปุ๋ยอินทรีย์ และปลอดสารพิษอย่างแท้จริง ทำให้ต้นองุ่นรุ่นแรกเจริญเติบโต ใหญ่ แข็งแรง และออกดอกออกผลเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลังจากเก็บเกี่ยวมารับประทานก็พบว่า มีรสชาติที่อร่อย และหวานกรอบ เหมือนกับองุ่นแถวภาคเหนือเลยทีเดียว
จึงเป็นโรงเรียนแห่งแรกของจังหวัดตรัง และของภาคใต้ที่ประสบสำเร็จ จนกลายเป็นสวนองุ่นแห่งการเรียนรู้ อีกทั้งกำลังมีการต่อยอดเพื่อไปปลูกพืชผลเมืองหนาวชนิดอื่นๆ ด้วย เช่น กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก เมล่อน เพราะเชื่อว่าในภาคใต้ก็สามารถทำให้ผลผลิตที่ออกมามีคุณภาพได้เช่นกัน เพียงแค่ต้องใช้ความพยายามเท่านั้น
ทั้งนี้ แม้องุ่นรุ่นแรกจะปลูกไปเพียงไม่กี่ต้น แต่สามารถให้ผลผลิตได้อย่างน่าพอใจ หรือประมาณ 100 กิโลกรัม ซึ่งเกิดมาจากการที่พวกตนช่วยกันดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ทั้งหลังเลิกเรียน และในวันหยุด เมื่อมาสัมผัสจึงรู้ว่าการปลูกองุ่นไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแค่มีโรงเรือน เพื่อช่วยควบคุมเรื่องดินฟ้าอากาศ และศัตรูพืช ตลอดจนรดน้ำให้พอเหมาะ
อีกทั้งการเลือกที่จะปลูกพืชผลเมืองหนาวให้ได้ในภาคใต้ ก็ยังเป็นความท้าทายที่อยากทำ ประกอบกับโดยปกติทุกคนต่างก็นิยมชมชอบอยู่แล้ว โดยเฉพาะองุ่น ทั้งนี้ ผลผลิตที่ออกมาทางโรงเรียนก็ไม่ได้เอาไปขายที่ไหน แต่เอามาแจกจ่ายให้ครู และเด็กได้กินกัน จึงเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนต่างมีความสุข สำหรับในรุ่นที่ 2 นี้ จะมีการสร้างโรงเรือนเพิ่มอีก 1 หลัง เพื่อปลูกองุ่นให้มากขึ้นต่อไป