กระบี่ - เกษตรกรเลี้ยงผึ้งโพรง แบบธรรมชาติ บ้านเขาค้อม ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ เร่งเก็บน้ำผึ้งขาย หลังผึ้งให้ผลผลิตเต็มที่และเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน ครวญประสบปัญหาขาดแคลนไม้กระดานเก่าๆ และไม่มีสารเคมีเจือปนในการทำรังผึ้ง พร้อมเปิดให้เรียนรู้ และวิธีทำรังผึ้งฟรี
วันนี้ (24 เม.ย) สมาชิกเกษตรกรกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงบ้านเขาค้อม ม.6 ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ กำลังเร่งช่วยกันเก็บน้ำผึ้งโพรงที่เลี้ยงไว้แบบธรรมชาติตามสวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน และสวนผลไม้ หลังจากที่ผึ้งโพรงเริ่มให้น้ำผึ้งเต็มที่สมบูรณ์ และในช่วงนี้กำลังเริ่มเข้าสู่ช่วงหน้าฝน เกรงว่าน้ำผึ้งโพรงที่เลี้ยงไว้นับร้อยรังที่วางกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ของสวนจะเสียหาย และด้อยคุณภาพลง อาจจะส่งผลทำให้ราคาน้ำผึ้งตกต่ำได้
นายธงชัย เริงจิตร อายุ 43 ปี เกษตรกรกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงบ้านเขาค้อม กล่าวว่า ในช่วงนี้ผึ้งโพรงที่เลี้ยงไว้กำลังให้ผลผลิตที่สมบูรณ์มากที่สุด เนื่องจากผลไม้เริ่มผลิดอกหลายชนิด และที่สำคัญกำลังเริ่มย่างเข้าสู่ฤดูฝน เนื่องจากมีฝนตกบ่อยขึ้นแทบจะทุกวัน เกรงว่าน้ำผึ้งโพรงที่เลี้ยงไว้หลายสิบรังได้รับความเสียหาย และด้อยคุณภาพ จึงต้องเร่งเก็บน้ำผึ้งก่อนที่ฝนจะตกชุก ทั้งเพื่อให้ได้น้ำผึ้งโพรงที่มีคุณภาพดี เป็นที่ต้องการของลูกค้า และสามารถเก็บไว้ได้นานเป็นปีๆ โดยไม่เสีย
“สำหรับปีนี้ฝนไม่ตกตามฤดูกาล ทำให้ผึ้งโพรงทำรังผลิตน้ำผึ้งช้า จึงต้องเลื่อนเวลาเก็บน้ำผึ้งออกไปจากเดิม โดยปกติจะเก็บน้ำผึ้งในช่วงเดือนห้า หรือราวเดือนมีนาคม แต่พบว่าปีนี้เดือนห้า น้ำผึ้งมีน้อยมาก จึงต้องเลื่อนเวลาเก็บน้ำผึ้งออกไป แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะขยายเวลาเก็บน้ำผึ้งออกมาเล็กน้อยก็ยังพบว่า น้ำผึ้งมีคุณภาพดีมาก และที่สำคัญผลไม้ชนิดต่างๆ ทั้งเงาะ มังคุด ทุเรียน ลองกองกำลังออกดอก ทำให้ผึ้งสามารถเก็บน้ำหวานมาผลิตน้ำผึ้งได้เต็มที่ ทำให้น้ำผึ้งที่เก็บมีคุณภาพ”
นายธงชัย ยังกล่าวต่ออีกว่า สำหรับการเลี้ยงผึ้งโพรงของกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงบ้านเขาค้อม แปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร โดยการล่อผึ้งโพรงป่าให้เข้ามาอยู่ในรังที่เตรียมไว้ แล้วปล่อยให้ผึ้งหากินเองแบบธรรมชาติ เหมือนกับอยู่ในป่า ไม่มีอาหารป้อนให้ผึ้งกิน เหมือนผึ้งเลี้ยงทั่วไปที่ต้องคอยให้สารอาหารตลอดเวลา จึงทำให้น้ำผึ้งของกลุ่มเลี้ยงผึ้งบ้านเขาค้อม มีคุณภาพดี และมีสรรพคุณทางยาเหมือนเก็บจากในป่า และที่สำคัญเป็นการอนุรักษ์พันะผึ้งโพรงไปในตัวด้วย
การเลี้ยงผึ้งโพรง 1 รัง สามารถเก็บน้ำผึ้งได้กว่า 10 ขวด ขายขวดละประมาณ 400-500 บาท ได้เงินราว 4,000-5,000 บาท/ปี ครั้งแรกที่ลงทุนทำรังผึ้งใช้งบประมาณเพียง 400-500 บาทเท่านั้น หลังจากนั้น ปีถัดไปไม่มีต้นทุนเลย ได้กำไรล้วนๆ เพราะไม่ต้องไปให้อาหาร ไม่ต้องดูแล แค่ป้องกันมด และตัวต่อไม่ให้รบกวน แต่ปัญหาที่ประสบอยู่ในตอนนี้ก็คือ ขาดวัสดุที่จะนำมาทำรังผึ้ง ซึ่งต้องใช้ไม้กระดานเก่าๆ เท่านั้น และไม่มีสารเคมีเจือปน สำหรับผู้ที่สนใจสามารถแวะเวียนมาชม หรือเรียนรู้ได้
วันนี้ (24 เม.ย) สมาชิกเกษตรกรกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงบ้านเขาค้อม ม.6 ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ กำลังเร่งช่วยกันเก็บน้ำผึ้งโพรงที่เลี้ยงไว้แบบธรรมชาติตามสวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน และสวนผลไม้ หลังจากที่ผึ้งโพรงเริ่มให้น้ำผึ้งเต็มที่สมบูรณ์ และในช่วงนี้กำลังเริ่มเข้าสู่ช่วงหน้าฝน เกรงว่าน้ำผึ้งโพรงที่เลี้ยงไว้นับร้อยรังที่วางกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ของสวนจะเสียหาย และด้อยคุณภาพลง อาจจะส่งผลทำให้ราคาน้ำผึ้งตกต่ำได้
นายธงชัย เริงจิตร อายุ 43 ปี เกษตรกรกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงบ้านเขาค้อม กล่าวว่า ในช่วงนี้ผึ้งโพรงที่เลี้ยงไว้กำลังให้ผลผลิตที่สมบูรณ์มากที่สุด เนื่องจากผลไม้เริ่มผลิดอกหลายชนิด และที่สำคัญกำลังเริ่มย่างเข้าสู่ฤดูฝน เนื่องจากมีฝนตกบ่อยขึ้นแทบจะทุกวัน เกรงว่าน้ำผึ้งโพรงที่เลี้ยงไว้หลายสิบรังได้รับความเสียหาย และด้อยคุณภาพ จึงต้องเร่งเก็บน้ำผึ้งก่อนที่ฝนจะตกชุก ทั้งเพื่อให้ได้น้ำผึ้งโพรงที่มีคุณภาพดี เป็นที่ต้องการของลูกค้า และสามารถเก็บไว้ได้นานเป็นปีๆ โดยไม่เสีย
“สำหรับปีนี้ฝนไม่ตกตามฤดูกาล ทำให้ผึ้งโพรงทำรังผลิตน้ำผึ้งช้า จึงต้องเลื่อนเวลาเก็บน้ำผึ้งออกไปจากเดิม โดยปกติจะเก็บน้ำผึ้งในช่วงเดือนห้า หรือราวเดือนมีนาคม แต่พบว่าปีนี้เดือนห้า น้ำผึ้งมีน้อยมาก จึงต้องเลื่อนเวลาเก็บน้ำผึ้งออกไป แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะขยายเวลาเก็บน้ำผึ้งออกมาเล็กน้อยก็ยังพบว่า น้ำผึ้งมีคุณภาพดีมาก และที่สำคัญผลไม้ชนิดต่างๆ ทั้งเงาะ มังคุด ทุเรียน ลองกองกำลังออกดอก ทำให้ผึ้งสามารถเก็บน้ำหวานมาผลิตน้ำผึ้งได้เต็มที่ ทำให้น้ำผึ้งที่เก็บมีคุณภาพ”
นายธงชัย ยังกล่าวต่ออีกว่า สำหรับการเลี้ยงผึ้งโพรงของกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงบ้านเขาค้อม แปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร โดยการล่อผึ้งโพรงป่าให้เข้ามาอยู่ในรังที่เตรียมไว้ แล้วปล่อยให้ผึ้งหากินเองแบบธรรมชาติ เหมือนกับอยู่ในป่า ไม่มีอาหารป้อนให้ผึ้งกิน เหมือนผึ้งเลี้ยงทั่วไปที่ต้องคอยให้สารอาหารตลอดเวลา จึงทำให้น้ำผึ้งของกลุ่มเลี้ยงผึ้งบ้านเขาค้อม มีคุณภาพดี และมีสรรพคุณทางยาเหมือนเก็บจากในป่า และที่สำคัญเป็นการอนุรักษ์พันะผึ้งโพรงไปในตัวด้วย
การเลี้ยงผึ้งโพรง 1 รัง สามารถเก็บน้ำผึ้งได้กว่า 10 ขวด ขายขวดละประมาณ 400-500 บาท ได้เงินราว 4,000-5,000 บาท/ปี ครั้งแรกที่ลงทุนทำรังผึ้งใช้งบประมาณเพียง 400-500 บาทเท่านั้น หลังจากนั้น ปีถัดไปไม่มีต้นทุนเลย ได้กำไรล้วนๆ เพราะไม่ต้องไปให้อาหาร ไม่ต้องดูแล แค่ป้องกันมด และตัวต่อไม่ให้รบกวน แต่ปัญหาที่ประสบอยู่ในตอนนี้ก็คือ ขาดวัสดุที่จะนำมาทำรังผึ้ง ซึ่งต้องใช้ไม้กระดานเก่าๆ เท่านั้น และไม่มีสารเคมีเจือปน สำหรับผู้ที่สนใจสามารถแวะเวียนมาชม หรือเรียนรู้ได้