ระนอง - ศาลจังหวัดระนอง พิพากษาจำคุก 4 แรงงานชาวพม่า คนละ 2-8 ปี พร้อมชดใช้เงินคนละ 270,000-810,000 บาท คดีร่วมกันฆ่าโหดแทง 17 แผล “น้องแอปเปิ้ล“” นักเรียนสาว ม.6 เมื่อปี 58 ด้านพี่สาวผู้ตายพอใจต่อคำตัดสินของศาล ส่วนทนายจำเลยเตรียมอุทธรณ์ต่อ ด้านแม่จำเลยเชื่อลูกบริสุทธิ์
จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ ย้อนหลังกลับไปเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2558 จังหวัดระนอง มีข่าวการฆาตกรรมน้องแอปเปิ้ล หรือ น.ส.อรวี สำเภาทอง นักเรียนชั้น ม.6 วัย 17 ปี สร้างความสะเทือนใจให้แก่ชาวระนองเป็นอย่างมาก เพราะเธอถูกดักทำร้ายถูกแทงด้วยของมีคมถึง 17 แผล เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ บริเวณทางเปลี่ยวซอยทางเข้าสำนักสงฆ์สะพานปลา ม.5 ต.บางริ้น ซึ่งห่างจากบ้านเพื่อนของน้องแอปเปิ้ล 100 เมตร โดยน้องแอปเปิ้ล ได้นัดหมายที่จะไปพบเพื่อนสาวคนหนึ่งที่อยู่บริเวณท้ายซอยจุดเกิดเหตุ แต่มาโดนดักทำร้ายจนเสียชีวิตระหว่างทาง ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ได้พุ่งเป้าไปที่คนงานพม่าที่พักอาศัยบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ
จนในที่สุดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ และพยานแวดล้อมต่างๆ พบผู้ต้องสงสัยเป็นชาวพม่า จำนวน 4 คน ประกอบด้วย นายโม่ซินอ่าว อายุ 19 ปี นายจอโซวิน อายุ 18 ปี นายเมาเซ้น หรือไซกะเดา อายุ 20 ปี และนายซอเล หรือเวแล้ อายุ 25 ปี ภายหลังเจ้าหน้าที่นำตัวมาทำการสอบสวนนายซอเล และนายโมซินอ่าว ให้การรับสภาพว่า เป็นผู้ฆ่าน้องแอปเปิ้ล โดยโกรธแค้นที่โดนผู้ตายด่าทอขณะเดินผ่านบริเวณหน้าสำนักสงฆ์สะพานปลา เนื่องจากพวกตนได้แซวเล่นตามประสาผู้ชายแต่โดนน้องแอปเปิ้ลด่ากลับ จึงโกรธแค้น และร่วมกันฆ่าดังกล่าว
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (19 เม.ย.) ศาลจังหวัดระนอง และศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดระนอง ได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีดังกล่าวอีกครั้ง หลังจากได้เลื่อนอ่านคำพิพากษามาจากวันที่ 29 มีนาคม 2561 โดยในวันนี้ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดระนอง มีคำพิพากษาจำคุก นายโมซินอ่าว จำเลยที่ 1 ผู้ลงมือแทงน้องแอปเปิ้ล ตัดสินจำคุก 4 ปี พร้อมให้ชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่ง 810,000 บาท และจำคุก นายจอโซวิน ผู้ร่วมทำร้ายเป็นเวลา 2 ปี ชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่ง 270,000 บาท
ด้านศาลจังหวัดระนอง มีคำพิพากษาจำคุก นายเมาเซ้น หรือ เซกะดอ และนายซอเล คนละ 6 ปี ในข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย พร้อมให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่ง 570,000 บาท ส่วนนายเมาเซ้น เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน ศาลพิจารณาเห็นว่าไม่หลาบจำจึงเพิ่มโทษจำคุกอีก 2 ปี รวมเป็นต้องจำคุก 8 ปี
ทาง น.ส.อรพรรณ สำเภาทอง พี่สาวของผู้ตายกล่าวสั้นๆ ว่า รู้สึกพอใจต่อการตัดสินของศาล เพื่อจะได้ทราบว่าใครคือผู้กระทำความผิดที่แท้จริง และหลังจากนี้คงจะไปทำบุญให้แก่น้องสาว ส่วนเรื่องค่าเสียหายทางแพ่งที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้คาดหวังจะได้อะไร
นายรัษฎา มนูรัษฎา กรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ ในฐานะทนายความของจำเลย กล่าวว่า เคารพในคำตัดสินของศาล แต่ไม่เห็นด้วยในหลายประเด็น ทั้งเรื่องของบาดแผลที่ไม่ตรงกับลักษณะมีด รวมถึงมีอีกหลายประเด็นที่ศาลยังไม่ได้หยิบมาพิจารณา ทั้งเรื่องที่จำเลยบอกว่า รับสารภาพเพราะโดนทำร้ายซึ่งมีร่องรอยที่ลำคอเหมือนกัน หรือประเด็นดีเอ็นเอที่ตรวจแล้วไม่พบ รวมไปถึงการมีพยานคนกลางที่พบเห็นจำเลยคนหนึ่งที่แพปลาในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ โดยจะมีการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลทั้ง 4 คน อย่างแน่นอน
ด้าน นางขิ่น โซวิน มารดาของนายจอ โซวิน จำเลยในศาลเยาวชนที่ 2 กล่าวว่า ตนเชื่อในความบริสุทธิ์ของลูก และเชื่อมั่นว่าลูกไม่ได้ทำ ซึ่งลูกชายของตนถูกตัดสินจำคุก 2 ปี โดยในขณะนี้ก็ได้ถูกควบคุมตัวครบ 2 ปีแล้ว โดยในวันนี้ดีใจที่จะได้เห็นลูกออกมาสู่โลกภายนอก แต่เสียใจที่ศาลตัดสินว่าลูกมีความผิด แต่ถึงอย่างไรก็จะต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ต่อไป เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธ์