ตรัง - ศูนย์วิจัยพืชสวนตรัง พัฒนาสายพันธุ์ดอกดาหลา ไม้พื้นเมืองภาคใต้ ให้เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่มีทั้งหมด 5 สี เพื่อนำไปใช้ตกแต่งสถานที่ ทานเป็นผักสดกับข้าวยำ ชุบแป้งทอด หรือทำน้ำพร้อมดื่ม
วันนี้ (19 เม.ย.) ศูนย์วิจัยพืชสวนจังหวัดตรัง ได้พัฒนาสายพันธุ์ดอกดาหลา ไม้ดอกพื้นเมืองชื่อดังของภาคใต้ ให้เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่สามารถปลูกได้ทั้งกลางแจ้ง และในที่ร่ม โดยให้ผลผลิตออกมาไม่แตกต่างกัน รวมทั้งยังเป็นไม้ดอกที่มีสีสันสวยงาม แข็งแรง มีขนาดโต และอยู่ได้ยาวนาน 7-10 วัน หรือมากกว่าไม้ดอกทั่วๆ ไป ทั้งนี้ จะใช้เวลาในการปลูกประมาณ 1 ปี ถึง 1 ปีครึ่ง ก็จะเริ่มออกดอกต่อเนื่องตลอด เฉลี่ยประมาณปีละ 40-130 ดอก แล้วแต่สายพันธุ์ และยังให้ผลผลิตยาวนานไปนับ 10 ปี เพียงแค่ปลูกเพียงครั้งเดียว ซึ่งเกษตรกรสามารถตัดดอกขายได้ในราคาดอกละ 5-10 บาท เพื่อนำไปจัดแจกัน ซุ้ม หรือโพเดียม ในงานต่างๆ
ล่าสุด ทางศูนย์ได้มีการวิจัยดอกดาหลาสายพันธุ์แนะนำ จำนวน 5 สี ใช้ชื่อว่าตรัง 1 ถึงตรัง 5 โดยพันธุ์ตรัง 1 ดอกจะมีสีขาว พันธุ์ตรัง 2 ดอกสีบานเย็น พันธุ์ตรัง 3 ดอกสีแดง พันธุ์ตรัง 4 ดอกสีชมพู และพันธุ์ตรัง 5 ดอกสีแดงเข้ม ซึ่งจะนิยมนำไม้ดอกชนิดนี้ไปประดับตกแต่งสถานที่ในโอกาสสำคัญต่างๆ โดยเฉพาะตามโรงแรม โรงเรียน และสถานที่ราชการ เนื่องจากสามารถชูช่อดอกอยู่ได้คงทน จึงไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย อีกทั้งใช้ในปริมาณที่น้อย เพียงไม่กี่ดอกก็จัดได้เต็มพื้นที่ที่ต้องการแล้ว ไม่เหมือนกับไม้ดอกชนิดอื่น รวมทั้งยังนำไปรับประทานเป็นผักสดกับข้าวยำ ชุบแป้งทอด หรือทำน้ำพร้อมดื่ม ขณะที่เหง้าก็ยังใช้ปรุงอาหารได้ด้วย
นายศุกร์ เก็บไว้ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยพืชสวนตรัง กล่าวว่า ดอกดาหลา ขยายพันธุ์ได้ง่ายด้วยการแยกหน่อแยกกอ คล้ายกับพืชตระกูลข่า หรือนำเมล็ดสีน้ำตาลไปเพาะ แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ จะต้องอย่าให้ต้นขาดน้ำ เพราะเป็นไม้ดอกที่ชอบความชื้นในดิน พร้อมตัดแต่งต้นให้โปร่ง ซึ่งสามารถปลูกแซมได้ทั้งในสวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน และอื่นๆ ในขนาดความกว้าง 3 คูณ 3 เมตร โดยขณะนี้ทางศูนย์กำลังเร่งเพาะชำต้นกล้าดอกดาหลาทั้ง 5 สี เพื่อจำหน่ายให้แก่เกษตรกรที่สนใจ และมองหารายได้เสริมในราคาแค่ต้นละ 5 บาท พร้อมพัฒนาไปสู่ดอกดาหลาสายพันธุ์ลูกผสม เพื่อจะได้มีความสวยงามมากขึ้นในอนาคต