ปัตตานี - สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เชิญแจกันดอกไม้พระราชทานและตะกร้าสิ่งของพระราชทาน มอบแก่ตำรวจ อ.ยะรัง 3 นาย บาดเจ็บขณะพยายามจับผู้ก่อความไม่สงบจนเกิดยิงต่อสู้กัน ส่วนศพผู้ก่อเหตุที่ถูกวิสามัญ 2 ราย ญาติประกอบพิธีทางศาสนาเรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางความเสียใจ และอยากให้พื้นที่เกิดสันติสุขอย่างแท้จริง
วันนี้ (12 เม.ย) ผู้สื่อข่าวราบงานกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี ปฏิบัติหน้าที่ปราบปรามยาเสพติด ได้นำกำลังลงพื้นที่หาข่าวกลุ่มค้ายาเสพติด และกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ และได้เกิดพบเจอกับผู้ต้องสงสัยคดีก่อความไม่สงบแฝงตัวอยู่ในพื้นที่
ซึ่งผู้ต้องสงสัยได้ใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเปิดทางหลบหนี เป็นเหตุให้ตำรวจบาดเจ็บ 3 นาย ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีเข้าป่าสวนยางข้างทาง แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เหลือไล่ยิงสกัดจนวิสามัญฯ คนร้ายได้ 2 ราย
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบ พบว่า คนร้ายที่เสียชีวิตนั้นเป็นบุคคลที่ทางการออกหมายจับหลายคดี จึงได้แจ้งผู้บังคับบัญชาทราบ และแจ้งญาติให้มารับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา
นายรุสดี มามะ ผู้ใหญ่บ้านบ้านน้ำใส ต.ลุโบะยิไร กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเมื่อช่วง 4 ทุ่มได้ทำพิธีศพของ นายซอบรี เจะหะ ที่บ้านน้ำใส หลังจากญาติได้ไปรับศพจากโรงพยาบาลยะรังแล้วนำกลับมาที่บ้านเกิด โดยทางญาติก็ได้ทำพิธีฝังศพทันทีไม่ได้มีการอาบน้ำศพ และไม่ได้มีการทำพิธีละหมาด
โดยกล่าวว่า กรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางครอบครัว และชาวบ้านในพื้นที่ก็รู้สึกเสียใจไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ แต่ทุกคนก็ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น ทางครอบครัว และชาวบ้านก็เฉยๆ เพราะเขาอยู่ในขบวนการจริง
“ตอนที่ได้เห็นภาพศพตอนที่เสียชีวิตในสวนยางก็ไม่คิดว่าเป็นเขา แต่เมื่อแม่กับพี่สาวของเขายืนยันว่าใช่ เราก็เลยไปที่โรงพยาบาล พาพ่อแม่ของเขา และพี่สาวเขาไปรับศพที่โรงพยาบาลกลับมาแล้วทำพิธี นายซอบือรี เจะหะ เขาอยู่ในขบวนการจริง เขาไม่ได้อยู่ในหมู่บ้านนานหลายปีแล้ว ผมเองก็จำไม่ได้ตอนที่ดูเขาตอนแรกเพราะไม่ได้เจอกันหลายปี แต่แม่กับพี่สาวเขายืนยันก็ปฏิเสธไม่ได้”
นายยูโซ๊ะ เจ๊ะหลง ญาติผู้ตายกล่าวว่า ได้นำศพไปประกอบพิธีกรรมตามหลักศาสนา โดยไม่ได้อาบน้ำศพ และละหมาดศพแต่อย่างใด เพียงนำผ้าขาวมาห่อศพเพิ่มเติมแล้วนำไปฝังทันที เพื่อเป็นไปตามคำสั่งเสียของผู้ตาย โดยฝังที่กูโบร์ในหมู่บ้านกางา ต.สะนอ อ.ยะรัง ซึ่งติดกับบ้านย่าของผู้ตาย ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร
จากการเปิดเผยของญาติ ระบุว่า ผู้ตายเกิดที่ ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส หลังจากพ่อแม่อพยพจากหมู่บ้านกางา ไปประกอบอาชีพทำสวนที่บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส มานานหลายสิบปี โดยผู้ตายยังไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง และไม่ได้อยู่เป็นหลักแหล่ง ส่วนใหญ่แล้วจะรับจ้างทั่วไป เช่น ขับรถรับส่งนักเรียน เป็นต้น
ญาติเองก็ไม่ค่อยได้พบเจอมากนัก ที่สำคัญทางญาติส่วนใหญ่ยังไม่รู้มาก่อนว่าผู้ตายมีหมายจับของทางการถึง 4 หมาย เพราะก่อนหน้านี้ยังไม่เคยมีเจ้าหน้าที่เข้ามาเพื่อควบคุมตัวที่บ้านหรือแสดงหมายมาก่อนเลย จนกระทั่งเกิดเหตุ ก็รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ญาติเองก็ไม่ติดใจ ไม่คิดจะโกรธเคืองใครอีกต่อไป และหวังให้บ้านเมืองเราเกิดสันติสุขอย่างแท้จริง
ขณะเดียวกัน วานนี้ เวลา 10.00 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เชิญแจกันดอกไม้พระราชทานและตะกร้าสิ่งของพระราชทาน มอบแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรยะรัง จำนวน 3 นาย ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่สืบสวนหาตัวผู้ก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่อำเภอยะรัง
ซึ่งขณะปฏิบัติหน้าที่เกิดเหตุยิงปะทะต่อสู้กับคนร้ายที่มีหมายจับคดีความมั่นคง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2561 บริเวณพื้นที่บ้านระแว้ง ม.6 ต.ระแว้ง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้ง 3 นาย ยังคงนอนพักรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลปัตตานี
ประกอบด้วย 1.จ.ส.ต.อาทิตย์ สุกแก้วคง อายุ 31 ปี ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ มีแผลบริเวณช่องท้อง 2.ส.ต.ต.สรรเพชร คงเทพ อายุ 29 ปี ได้รับบาดเจ็บ ถูกยิงบริเวณหน้าท้องทะลุหลัง (รอผ่าตัด) 3.ส.ต.ต.ศรัณพงศ์ ช่วยมาก อายุ 25 ปี ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลที่บริเวณขาซ้าย
