ยะลา - ภรรยาผู้ต้องสงสัยเข้าให้การต่อศาลจังหวัดยะลา กรณียื่นขอศาลจังหวัดยะลา ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หลังจากสามีตกเป็นผู้ต้องสงสัย และถูกควบคุมตัวไปซักถามนานกว่า 25 วัน จากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดตลาดสดพิมลชัย จ.ยะลา พร้อมยืนยันสามีเป็นผู้บริสุทธิ์
วันนี้ (9 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลจังหวัดยะลา ได้มีการเรียกญาติผู้เสียหายจากกรณีถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงใช้อำนาจ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย จากเหตุลอบวางระเบิดตลาดสดพิมลชัย จ.ยะลา เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 3 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง
ซึ่งภายหลังเกิดเหตุการณ์ ในวันที่ 14 มีนาคม 2561 เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้เข้าควบคุมตัว นายมูหามะ ไอดี อายุ 34 ปี ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในจังหวัดยะลา และได้นำตัวไปยังศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 อ.รามัน จ.ยะลา หลังจากครบกำหนดการควบคุมตัว 7 วันแล้ว ได้ส่งตัวต่อไปยังศูนย์ซักถาม ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และปัจจุบันยังคงถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ในศูนย์ซักถามดังกล่าว
โดยทางญาติ คือ น.ส.ซัยเฆ๊าะ มาลี ผู้เป็นภรรยา ได้ดำเนินการยื่นเรื่องต่อศาลจังหวัดปัตตานี เพื่อขอให้มีการยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในการควบคุมตัวผู้เป็นสามี ซึ่งเรื่องดังกล่าวถูกดำเนินการส่งต่อมายังศาลจังหวัดยะลา เนื่องจากเป็นพื้นที่ในการขอออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และในวันนี้ ทางศาลจังหวัดยะลา จึงได้มีการนัดไต่สวนผู้เสียหายที่ได้ยื่นคำร้องต่อศาล รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่เกี่ยวข้องในการดำเนินคดีดังกล่าว
ทั้งนี้ น.ส.ซัยเฆ๊าะ มาลี ได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ตนเองได้เดินทางมาให้การต่อศาลตามคำร้อง และคำเรียกสอบพยาน เพื่อขอยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในการควบคุมตัวสามี และหวังว่าคำร้องจะได้รับการพิจารณาตามความเหมาะสม ซึ่งที่ผ่านมานั้น หลังจากที่สามีได้ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวในฐานะผู้ต้องสงสัยในเหตุการณ์ลอบวางระเบิดที่ตลาดสดพิมลชัย และนำตัวไปยังศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 อ.รามัน จ.ยะลา เมื่อครบ 7 วัน ตามหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สามีก็ถูกส่งตัวต่อไปยังศูนย์ซักถาม ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี จนถึงปัจจุบันรวมเป็นระยะเวลา 25 วันแล้ว และตนเองก็ได้เดินทางไปเยี่ยมสามีตลอดหลังจากที่ถูกควบคุมตัว
น.ส.ซัยเฆ๊าะ มาลี ยังเปิดเผยอีกว่า จากการเข้าเยี่ยมในช่วงระยะเวลาแรกนั้น สามีตนเองก็ดูปกติดี หลังจากนั้น ก็ได้มีโอกาสนำตัวมาพบนอกห้องควบคุมบ้าง ก็พอมีเวลาได้พูดคุยกัน ต่อมา สามีก็ถูกควบคุมตัวอยู่ภายในห้องควบคุมที่มีเจ้าหน้าที่คุมตัวตลอดเวลา แม้ในช่วงเวลาเยี่ยมก็ตาม และได้สังเกตเห็นความผิดปกติของสามีจากการเดิน และตามสภาพร่างกายที่เห็น คือ มีรอยฟกช้ำตามลำคอ และมีเลือดออกที่ปาก ตนเองจึงได้พยายามสอบถามความจริงจากสามี ซึ่งตอนแรกสามีก็ไม่กล้าที่จะพูด จนถูกถามมากเข้า สามีจึงได้บอกว่า ถูกเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ได้ระบุว่าเป็นผู้ใดใช้มือตบจนเกิดร่องรอยตามที่เห็น ซึ่งตนเองตกใจมาก และได้พูดคุย และบอกต่อเจ้าหน้าที่พยาบาลที่นั้น ให้มีการตรวจสอบร่างกายของผู้เป็นสามี แต่ก็ไม่เห็นการดำเนินการแต่อย่างใด
น.ส.ซัยเฆ๊าะ มาลี เปิดเผยอีกว่า อย่างไรก็ตามในฐานะของผู้เป็นภรรยา ก็อยากให้ทางภาครัฐ ฝ่ายความมั่นคง หรือด้านกระบวนการยุติธรรมของศาลได้เห็นใจ และดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการตามที่ได้ร้องขอไป ในส่วนของด้านคดีความตามที่ถูกตั้งข้อสงสัย หากมีหลักฐานชัดเจนก็คงต้องไปเป็นตามกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งตนเองไม่เคยขัดขวาง และต้องยอมรับต่อข้อกฎหมาย
ทั้งนี้ น.ส.ซัยเฆ๊าะ มาลี และนายมูหามะ ไอดี ผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวได้แต่งงานเป็นสามีภรรยาตามกฎหมายกันมากว่า 10 ปี มีบุตรด้วยกัน 2 คน และตลอดมาผู้เป็นสามีเป็นคนขยันทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว ไม่เคยมีวันหยุด หากตนเองไม่ได้ร้องขอ และสิ่งที่เกิดขึ้นตามข้อสงสัยจนถูกควบคุมตัวนั้น ตนเองก็ยืนยันความบริสุทธิ์ใจให้แก่ผู้เป็นสามี