xs
xsm
sm
md
lg

ขู่! ชาวประมงอวนล้อมจับภูเก็ต ยื่นหนังสือจี้รัฐแก้ปัญหาความเดือดร้อน นัดหยุดหาปลา 9 เม.ย.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ชมรมอวนล้อมจับ จังหวัดภูเก็ต ยื่นหนังสือผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตถึงรองนายกรัฐมนตรี ขอให้ช่วยเหลือแก้ปัญหาความเดือดร้อนจากการออกประกาศของภาครัฐเพื่อแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขู่จะนัดหยุดหาปลาทั่วประเทศในวันที่ 9 เม.ย.61 นี้

วันนี้ ( 5 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดภูเก็ต สมาชิกชมรมอวนล้อมจับ จังหวัดภูเก็ต จำนวนประมาณ 20 คน นำโดย นายอิศรพงษ์ ศรีสุภาวดี ประธานชมรมอวนล้อมจับจังหวัดภูเก็ต ได้เข้ายื่นหนังสือถึงพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ผ่านทาง นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อขอให้ช่วยเหลือแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวประมง อันเนื่องมาจากการออกประกาศของภาครัฐ เพื่อแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย โดยมี นายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ตร่วมรับเรื่องด้วย

นายอิศรพงษ์ ศรีสุภาวดี ประธานชมรมอวนล้อมจับจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการที่กลุ่มสหภาพยุโรปหรืออียู ได้ประกาศให้ใบเหลืองกับไทยจากปัญหา IUU Fishing เพื่อแก้วิกฤติสถานการณ์อย่างเร่งด่วน รัฐบาลจึงออกประกาศพระราชบัญญัติการประมงปีพุทธศักราช 2558 จัดตั้งศูนย์บัญชาการแก้ไขการทำประมงผิดกฎหมายเพื่อการปฏิรูปกิจการประมงไทย ต่อมากรมประมงและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้มีประกาศบังคับใช้กฎหมายหลายร้อยฉบับต่อเนื่องอย่างเร่งรีบในระยะเวลาอันสั้น โดยมิได้มีกระบวนการการเข้ามามีส่วนร่วมของภาคประชาชนและผู้ประกอบกิจการประมงที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบอย่างแท้จริง ไม่มีการทำการศึกษาทดลองความเหมาะสมว่าสอดคล้องในวิธีปฏิบัติของลักษณะการประมงไทยแต่อย่างใดทั้งสิ้น

นายอิศรพงษ์ กล่าวต่อ ด้วยข้อกฎหมายที่ถูกกำหนดและประกาศใช้โดยนักวิชาการที่ขาดองค์ความรู้ขาดข้อมูลข้อเท็จจริงในภาคปฏิบัติ จึงทำให้กฎหมายไม่สามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้จริงและต้องทำการออกประกาศแก้ไขตามมาอย่าง ต่อเนื่องจนเกิดเป็นความซ้ำซ้อนและย้อนแย้งในตัวเอง อีกทั้งรายละเอียดของข้อบังคับที่ออกประกาศใช้มานั้นมีระดับมาตรฐานสูงเกินการปฏิบัติได้จริง การเพิ่มบทลงโทษทั้งทางแพ่งทางอาญาที่รุนแรง ไม่ให้ระยะเวลาในการปรับตัวทำให้เกิดความหวาดกลัว วิตกกังวล เกิดความเสียขวัญกับผู้ประกอบกิจการประมงทั่วประเทศ และเกิดความอ่อนแอจนเข้าขั้นวิกฤตของระบบประมงไทย

เพื่อการแก้ไขวิกฤติปัญหาในกิจการประมงไทยให้การปฏิรูปเกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ และนำไปสู่การปฏิบัติได้จริงและสร้างความเชื่อถือของกลุ่มสหภาพยุโรปต่อประเทศไทย และเป็นกฎหมายที่ได้รับการยอมรับจากชาวประมงและนำไปสู่การปฏิบัติได้จริง สร้างความมั่นคงอย่างยั่งยืนของทรัพยากรสัตว์น้ำ จึงเห็นควรให้ทบทวนประกาศที่สร้างความเดือดร้อน แก่ชาวประมงที่ต้องสุ่มเสี่ยงในการกระทำผิดกฎหมาย คือ การจ่ายค่าแรงผ่านบัญชีธนาคาร ซึ่งเป็นการสร้างภาระค่าใช้จ่ายไม่สมควรจะเกิดขึ้นกับนายจ้างและแรงงานเป็นอย่างมาก

เนื่องจากในระหว่างเดือนแรงงานมีการเบิกค่าใช้จ่ายล่วงหน้า, การจ่ายค่าจ้างเป็นรายเดือนเป็นการจ่ายที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากอาชีพประมงต้องขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศ และได้มีการประกาศจากกรมประมงให้เครื่องมือบางประเภททำประมงได้เพียง 240 วันต่อปี และมีการเคลื่อนย้ายของแรงงานเป็นประจำ, การจดบันทึกเวลาพักของแรงงานซึ่งไม่สอดคล้องกับวิถีการทำประมง, ขอให้รัฐบาลได้ทบทวนประกาศหรือคำสั่งต่างๆ ที่สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวประมงที่สุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย, ขอให้ชาวประมงได้มีส่วนร่วมในการทบทวนประกาศคำสั่งต่างๆ ที่สร้างเงื่อนไขจนขัดแย้งกับวิถีการทำประมงของชาวประมงไทย และบั่นทอนความมั่นคงในกิจการประมงไทยที่สืบทอดมายาวนานจากบรรพบุรุษ, ขอให้ตรวจสอบประกาศ คำสั่ง กฎกระทรวงที่ออกโดยมิชอบและขอให้หยุดการออกประกาศ คำสั่ง กฎกระทรวงใดๆ ในระหว่างการทบทวนประกาศ รวมทั้งขอให้ช่วยเหลือเรื่องการขาดแคลนแรงงานในกิจการประมงด้วย

นาย อิศรพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ในส่วนของชาวประมงทั่วประเทศได้มีการนัดนำเรือเข้าจอดตามท่าเทียบเรือต่างๆ ในวันที่ 9 เมษายนนี้ ด้วยเกรงว่าหากออกไปทำการประมงก็สุ่มเสี่ยงที่จะทำผิดกฎหมายจนกว่าปัญหาของพี่น้องชาวประมงจะได้รับการแก้ไข

ด้าน นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ตนได้สั่งการให้มีการประชุมเพื่อรับทราบปัญหาก่อนที่ทางชาวประมงจะนัดรวมตัวกันนำเรือเข้าจอดเทียบท่า และหยุดการทำประมงในวันที่ 9 เมษายน 61 นี้ และจะแจ้งเรื่องดังกล่าวให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น