ตรัง - นักโบราณคดีลงพื้นที่ตรวจสอบวัตถุโบราณที่ ต.นาพละ อ.เมืองตรัง พบชิ้นส่วนภาชนะเครื่องใช้โบราณ สันนิษฐานเป็นสมัยอยุธยา คาดมีอายุระหว่าง 300-400 ปี เร่งส่งพิสูจน์ยืนยันอีกครั้ง
วันนี้ (5 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระครูสมุห์ สุรศักดิ์ เจ้าอาวาสวัดหัวถนน พร้อมด้วย นายสำเริง นิลละออ นายก อบต.นาพละ นายครองภิชญ์ ชัยภักดี กำนัน ต.นาพละ น.ส.สุนทรี สังข์อยุทธ์ ผู้ศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่นตรัง นายประยูร หนูสุก วัฒนธรรม จ.ตรัง ร่วมถึงผู้นำท้องถิ่น นำคณะเจ้าหน้าที่โบราณคดี จากสำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา และเจ้าหน้าที่จากหอจดหมายเหตุแห่งชาติฯ ตรัง
ลงตรวจสอบพื้นที่บริเวณคลองชลประทาน ม.6 ต.นาพละ อ.เมือง จ.ตรัง หลังได้รับแจ้งจาก นายวิระชัย รุ่งเรือง ผู้ใหญ่บ้าน ม.8 ต.นาพละ ว่า พบวัตถุโบราณ เช่น ถ้วย ชาม กระเบื้อง ไห อิฐทับซ้อนกันเป็นลักษณะคล้ายกำแพง หรือฐานของสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งถูกดินทับถมอยู่ในพื้นที่นาของ นายจิตรวิชัย หนูเริก ชาวบ้าน ม.10 ต.นาพละ จำนวนมาก ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่ชาวบ้าน และผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก ต่างมีการวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา ว่า อาจะเป็นวัตถุโบราณยุคประวัติศาสตร์
โดยบริเวณที่พบวัตถุโบราณดังกล่าวเป็นแนวคลองดินชลประทานที่ถูกขุดขึ้นเมื่อกว่า 40 ปีที่แล้ว และแนวคลองผ่านพื้นที่นาเพื่อช่วยชาวนาในช่วงหน้าแล้ง โดยขณะนี้มีปริมาณน้ำลดลงเนื่องจากหน้าแล้ง ชาวบ้านก็จะมีการลงไปหาปลา จับสัตว์น้ำ นำมาบริโภคเป็นครั้งคราว
นายจิตรวิชัย หนูเริก ชาวบ้าน ม.10 ต.นาพละ อ.เมือง จ.ตรัง เจ้าของพื้นที่นาที่พบวัตถุโบราณ กล่าวว่า ตนเห็นวัตถุโบราณดังกล่าวมานานมากแล้วประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา ก็ไม่คิดอยากจะบอกให้ใครทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเกรงว่าจะมีผลกระทบต่อพื้นที่นาของตนเอง จนกระทั่งเพื่อนตน คือ นายวิระชัย รุ่งเรือง ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน ม.8 มาทราบเรื่องก็นำเรื่องนี้ไปแจ้งให้แก่ พระครูสมุห์ สุรศักดิ์ เจ้าอาวาสวัดหัวถนน รับทราบ จึงทำให้คณะเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบในครั้งนี้ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา ตนก็ไม่เคยเก็บของโบราณในที่นาไปเก็บไว้ ก็ยังคงปล่อยให้อยู่แบบเดิม แบบธรรมชาติต่อไป
ด้าน นายประยูร หนูสุก วัฒนธรรม จ.ตรัง กล่าวว่า เบื้องต้น ให้ นายก อบต.นาพละ ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ และมีหน้าที่โดยตรง มีการกันบริเวณที่พบวัตถุโบราณไว้ก่อนทั้งหมด เพื่อให้เจ้าหน้าที่โบราณคดีตรวจสอบให้แน่ชัด และห้ามมีการขุด หรือขนย้ายวัตถุทั้งหมดทุกกรณี เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าเป็นวัตถุโบราณสมัยใด
นายสำราญ สมาธิ ชาวบ้านที่ทำนา ต.นาพละ กล่าวว่า การศึกษาที่มาของจังหวัดตรัง มีความเชื่อมาตลอดว่า ตรังเป็นเมืองสำคัญ และมีเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่สำคัญ และน่าสนใจ ชุมชนดั้งเดิมแถบนี้อาจจะเคยมีความเจริญรุ่งเรือง ทั้งด้านศาสนา วัฒนธรรม การค้าขาย ตรังไม่ใช่แค่เมืองที่ตั้งใหม่มีอายุแค่ 200 ปี แต่ จ.ตรัง น่าจะมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้น่าสนใจ และอาจเป็นหลักฐานยืนยันได้ว่า ตรัง เป็นเมืองโบราณที่มีการเกี่ยวพันกันกับเมืองสำคัญทางปักษ์ใต้ตั้งแต่อดีตกาล
ส่วนด้าน น.ส.เพลงเมธา ขาวหนูนา นักโบราณดคีปฏิบัติการ สำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา กล่าวว่า วัตถุโบราณที่พบในบริเวณพื้นที่แถบนี้ทั้งหมด ประกอบด้วย เศษถ้วย ชาม เครื่องใช้ดินเผา และแบบเคลือบ ซึ่งเท่าที่เห็นด้วยตาเปล่า เครื่องกระเบื้องเคลือบมีลาย ดอกสีน้ำเงินที่นิยมกันในสมัยอยุธยา ส่วนชิ้นส่วนอื่นๆ ที่พบก็ต้องนำไปทำความสะอาด และตรวจสอบดูว่าเป็นภาชนะเครื่องใช้ในสมัยใด เพื่อยืนยันอีกครั้ง
