xs
xsm
sm
md
lg

ศอ.บต.ควงผู้แทนพิเศษของรัฐบาล นำนักวิจัยลงพื้นที่แก้ปัญหากล้วยหินที่ยะลา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ยะลา - คณะ ศอ.บต. พร้อมด้วยผู้แทนพิเศษของรัฐบาล นำนักวิชาการ และนักวิจัยลงพื้นที่แก้ไขปัญหากล้วยหินในพื้นที่ จ.ยะลา

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดยะลา ว่า ที่ศูนย์การเรียนรู้พืชสวน อ.ธารโต จ.ยะลา นายจำนัล เหมือนดำ ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล พร้อมด้วย พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ลงพื้นที่ติดตามแผนการป้องกันกำจัดโรคเหี่ยวในกล้วยหิน โดยมีนักวิชาการ และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรจังหวัดยะลา ผู้อำนวยการวิทยาลัยชุมชนจังหวัดยะลา ตัวแทนเกษตรอาสาฯ ประจำตำบล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันลงพื้นที่ อ.ธารโต และ อ.บันนังสตา เพื่อการศึกษา และติดตามแผนการป้องกันกำจัดโรคเหี่ยวในกล้วยหิน ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว
 

 
พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร กล่าวว่า กล้วยหิน ถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ จ.ยะลา และมีพื้นที่ปลูกกล้วยหินจำนวนกว่า 3 พันไร่ แต่ในห้วง 3-4 ปีที่ผ่านมา กลับประสบปัญหาโรคเหี่ยวในกล้วยหิน ซึ่งจะมีการติดเชื้อได้ 2 ทาง ทั้งทางราก และทางหัวปลีด้านบน ส่งผลให้ผลผลิตตกต่ำ ทั้งนี้ มีข้อสั่งการจากรัฐบาลให้เร่งแก้ไขปัญหาโดยด่วน โดย ศอ.บต.ได้รวบรวมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมศึกษา และหาแนวทางในการป้องกันและแก้ปัญหาในระยะยาว

ซึ่งขณะนี้ ทางสำนักงานการเกษตรจังหวัดได้ดำเนินการมาระยะหนึ่ งและเริ่มได้ผล แต่ทั้งนี้เพื่อให้เป็นการขับเคลื่อนที่รวดเร็วขึ้น จึงมีการบูรณาการทุกภาคส่วนจึงนำนักวิชาการลงพื้นที่จนนำมาสู่การเห็นภาพที่ชัดเจนในการสร้างแนวทางการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคเหี่ยวในกล้วยหิน รวมถึงวิธียุติการแพร่ระบาดดังกล่าว อีกทั้งแนวทางการปลูกที่ไม่ติดเชื้อ เน้นการใช้แบคทีเรีย และลดการใช้สารเคมี ถือเป็นการใช้วิธีการแบบประชารัฐด้วยการที่ประชาชนมีภูมิความรู้เดิมจากปราชญ์ที่มีอยู่ในพื้นที่ สู่การรวมองค์ความรู้จากนักวิชาการด้านการเกษตร ทั้งจากสำนักงานเกษตรจังหวัด นักวิชาการ และนักวิจัยมหาวิทยาลัยสงลานครินทร์
 

 
อีกทั้งวิทยาลัยชุมชนที่พร้อมเป็นกระบอกเสียงสำคัญในการให้ความรู้แก่เกษตรกรในพื้นที่ ดังนั้น การแก้ไขปัญหากล้วยหินในครั้งนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการแก้ไขปัญหา และบูรณาการการทำงานที่แท้จริง ซึ่งในขณะที่ราคายางตกต่ำ รัฐบาลได้มีการส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาทำเกษตรแบบผสมผสาน สู่การเป็นเกษตรที่สามารถสร้างหลักประกันรายได้ตลอดปี จึงฝากให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สร้างทางเลือกด้วยการทำเกษตรผสมผสาน ซึ่งหากประสบปัญหาทาง ศอ.บต. รวมถึงภาครัฐที่เกี่ยวข้องพร้อมที่จะขับเคลื่อนในการแก้ปัญหาร่วมกันต่อไป
 




กำลังโหลดความคิดเห็น