ยะลา - สพป.ยะลา เขต 3 จัดปฐมนิเทศนักเรียนตามโครงการส่งเสริมประสบการณ์อาชีพของนักเรียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อพัฒนาทักษะอาชีพ และให้นักเรียนมีรายได้ระหว่างเรียน ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองในช่วงปิดภาคเรียน
วันนี้ (26 มี.ค.) ห้องประชุมโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 94 (บ้านบ่อน้ำร้อน) ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา นายโกมุท รุยอ่อน รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 3 ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 3 เป็นประธานเปิดการปฐมนิเทศนักเรียน ตามโครงการส่งเสริมประสบการณ์อาชีพของนักเรียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปีงบประมาณ 2561 ระดับเขตพื้นที่การศึกษา สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 7 โรงในสังกัด รวมทั้งสิ้น 90 คน เพื่อพัฒนาทักษะอาชีพ และให้นักเรียนมีรายได้ระหว่างเรียน ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองช่วงปิดภาคเรียน โดยมี น.ส.ปิยวรินทร์ สินน้อย นักวิชาการศึกษาชำนาญการ กลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา กล่าวรายงาน
นายโกมุท รุยอ่อน รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 3 กล่าวว่า การปฐมนิเทศนักเรียนในโครงการส่งเสริมประสบการณ์อาชีพของนักเรียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระดับเขตพื้นทีการศึกษาครั้งนี้ กำหนดจัดขึ้นสำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นในสังกัดจำนวน 7 โรง ประกอบด้วย โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 94 (บ้านบ่อน้ำร้อน) จำนวน 13 คน โรงเรียนบ้านด่านสันติราษฎร์ จำนวน 13 คน โรงเรียนบ้านราโมง จำนวน 11 คน โรงเรียนบ้านอัยเยอร์เวง จำนวน 21 คน โรงเรียนบ้านเยาะจำนวน 15 คน โรงเรียนบ้านโต จำนวน 6 คน และโรงเรียนบ้านจุโป จำนวน 11 คน รวมทั้งสิ้นจำนวน 90 คน
ทั้งนี้ เพื่อชี้แจง และทำความเข้าใจต่อนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการได้ทราบถึงวัตถุประสงค์ของโครงการในการที่จะให้นักเรียนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ มีความรู้ ความเข้าใจที่จะพัฒนาทักษะด้านอาชีพ มีรายได้ระหว่างเรียน เพื่อเป็นการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายแก่ผู้ปกครอง รวมถึงการมีส่วนร่วมของเครือข่ายหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถานศึกษา และท้องถิ่นที่เข้มแข็ง ในความร่วมมือที่จะช่วยให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ด้านอาชีพ เห็นคุณค่าในการทำงานของเยาวชนที่เป็นกำลังสำคัญของชาติในการพัฒนาสู่อาชีพอย่างเป็นระบบ และยั่งยืน
สำหรับการฝึกประสบการณ์ด้านอาชีพของนักเรียนปีนี้ ได้กำหนดการทำงานช่วงปิดภาคเรียนในห้วงระหว่างวันที่ 1-25 เมษายน 2561 เป็นเวลา จำนวน 15 วัน โดยมีค่าตอบแทนวันละ 200 บาท ตามหน่วยงาน สถานประกอบการในพื้นที่ เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล องค์การบริหารส่วนตำบล ร้านอาหาร ร้านค้า อู่ซ่อมรถ หน่วยบริการแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งถือว่าเป็นแนวทางที่ดีที่ควรส่งเสริมสนับสนุน และคาดหวังว่า หลังจากที่นักเรียนได้ผ่านการฝึกประสบการณ์แล้ว นักเรียนสามารถนำความรู้ ประสบการณ์ดีๆ ที่ได้รับไปใช้ให้เกิดประโยชนต่อตนเอง ครอบครัว สังคมและประเทศชาติต่อไป