xs
xsm
sm
md
lg

จบแล้ว..“เมืองสปาฯ ปาย” อุทยานฯ ถอย ระงับโครงการ-ส่งงบกลับ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายธนกฤต ฉันทะจำรัสศิลป์ นายอำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน เป็นประธานการประชุมชี้แจงโครงการเมืองสปาและหมู่บ้านน้ำพุร้อนเพื่อการท่องเที่ยว เมื่อเร็วๆนี้
ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - คนเมืองปายยืนยันคัดค้าน “โครงการเมืองสปาและหมู่บ้านน้ำพุร้อนเพื่อการท่องเที่ยว” ทำอุทยานฯ ถอยเพื่อความปรองดองและลดความขัดแย้งกับชุมชน นายอำเภอฯ บอกต่างหวังดีมุ่งหวังประโยชน์ส่วนรวม ทุกอย่างจบลงด้วยดี โครงการถูกระงับ ส่งงบกลับกระทรวงฯ

รายงานข่าวแจ้งว่า อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังได้จัดเวทีประชุมชี้แจงโครงการเมืองสปาและหมู่บ้านน้ำพุร้อนเพื่อการท่องเที่ยว ขึ้นที่ห้องประชุมชั้น 2 ที่ว่าการอำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่ดำเนินการหลังเกิดข้อโต้เถียงกันมาระยะหนึ่ง

นายธนกฤต ฉันทะจำรัสศิลป์ นายอำเภอปาย ได้กล่าวเปิดการประชุมใจความว่า ทางอุทยานฯ มีโครงการเข้ามาด้วยความมุ่งหวังปรารถนาดี แต่ชาวบ้านก็รู้สึกไม่สบายใจ แม้จะเข้าใจว่าเจตนาดี ทุกอย่างต้องมีการพัฒนา แต่ก็ต้องมีความคิดเห็นที่ถูกต้องตรงกัน มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน ต้องได้รับความร่วมมือจากทั้งทางราชการและชาวบ้านด้วย เพื่อทำให้การพัฒนานั้นจะได้ดียิ่งๆ ขึ้นไป ชาวบ้านก็ต้องมีส่วนร่วมในการกำหนดแนวทางพัฒนาชุมชนของตนเองด้วย

นายบัญชา รามศิริ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง เปิดเผยว่า เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งหน้าที่ได้ 5 เดือน พร้อมๆ กับที่มีโครงการนี้มาลงในพื้นที่ ก็รับทราบร่วมกันมากับชาวบ้าน เห็นว่ายังมีความเข้าใจไม่ตรงกัน จึงขออนุญาตมาทางอำเภอเพื่อจัดประชุมชี้แจงในครั้งนี้เพื่อความโปร่งใสและชัดเจน ซึ่งถ้าจะมีโครงการเกิดขึ้น แล้วมีความขัดแย้งกับชุมชนก็เป็นสิ่งที่ไม่ควร ก็ต้องแล้วแต่ชาวบ้านว่ามีความต้องการอย่างไร ทางอุทยานฯ พร้อมที่จะรับฟัง

นายทวีศักดิ์ ขันธราช หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ ผู้จัดทำโครงการชี้แจงว่า ด้วยงานในหน้าที่พัฒนาการด้านยุทธศาสตร์ให้ตรงกับแผนพัฒนาประเทศ หลักการและเหตุผลตามที่รัฐบาลกำหนด มองว่าพื้นที่ตรงนี้สามารถพัฒนาได้ จึงมีโครงการนี้เกิดขึ้น โดยใช้งบประมาณเพิ่มเติมปี 60 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ยกระดับการท่องเที่ยว ตามมาตรฐานกรมการท่องเที่ยวไทย

แต่ด้วยระยะเวลาในการทำงานที่เร่งด่วนจำกัด เพราะต้องประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทำให้ไม่มีเวลามาพบ มาทำความเข้าใจกับชุมชน มีเพียงแต่มาดูพื้นที่-พบปะชาวบ้านร่วมกับทีมทำงานคณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่หน่วยพิทักษ์ป่าท่าปาย ในเวลาที่จำกัด ทำให้เกิดความไม่เข้าใจไม่สบายใจ

ซึ่งทางอุทยานฯ ก็พร้อมที่จะยกเลิกโครงการหากจะสร้างปัญหาแก่ชุมชน ชาวบ้านในพื้นที่ แต่ก็ขอโอกาสชี้แจงทำความเข้าใจกันก่อน ก่อนที่จะพิจารณากันต่อไป

ด้านชาวบ้านและผู้นำชุมชนต่างก็ได้ลุกขึ้นแสดงความเห็นคัดค้านอย่างหลากหลาย ด้วยเหตุผลในด้านสิ่งแวดล้อมที่จะเปลี่ยนไปถ้ามีการก่อสร้างอาคาร ปัญหาขยะ ปัญหาจากนักท่องเที่ยวที่จะตามมาสร้างผลกระทบต่อชุมชน และยังเป็นห่วงเรื่องของการจัดการน้ำด้วยว่าจะไม่เพียงพอ เพราะทุกวันนี้ก็มีปัญหากันอยู่แล้ว

ชาวบ้านได้แสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า สมัยก่อนที่ยังไม่มีอุทยานฯ เข้ามา บ่อน้ำร้อนท่าปายเป็นป่าชุมชนที่ชาวบ้านขึ้นไปหาของป่า หน่อไม้ ใช้น้ำในบ่อต้มหน่อไม้ เอาวัวควายไปปล่อยเลี้ยงไว้ ต่อมาเมื่ออุทยานฯ เข้ามาก็มีสิ่งปลูกสร้างขึ้นมา มีภูมิทัศน์ที่แปลกและเปลี่ยนไป

“อยากให้นำงบประมาณที่จะสร้างใหม่นำมาปรับปรุงส่วนที่มีอยู่ให้ใช้งานได้ดีขึ้น มีประโยชน์มากขึ้น ทั้งในส่วนของห้องน้ำ และห้องบริการน้ำร้อน ที่ดูไม่ดีจนไม่มีคนเข้าไปใช้บริการเลย และเคยเห็นในหลายๆ พื้นที่ที่มีการสร้างอาคารต่างๆ ขึ้นมาแล้วไม่มีการใช้งานกลายเป็นอนุสาวรีย์ทิ้งร้างไว้ เป็นการเปลืองงบประมาณ จึงไม่ต้องการให้มีการก่อสร้างโครงการนี้ขึ้นมา”

ผู้นำชุมชนได้ชี้แจงต่อว่า ชาวชุมชนท่าปายและโป่งเดือดอยู่ในพื้นที่ของ ต.แม่ฮี้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ส่วนใหญ่มีอาชีพทางเกษตรกรรม และเลี้ยงชีพอยู่ได้แบบพอเพียง สมถะกันมาโดยตลอด ต่อมาเมื่อกระแสการท่องเที่ยวเมืองปายบูมก็สร้างผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวบ้าน

ซึ่งบางส่วนก็ยอมรับว่าดี แต่ก็มีบางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนไป ชาวบ้านจึงเห็นพ้องต้องกันว่าไม่อยากจะให้มีการเปลี่ยนแปลงมากไปกว่านี้อีกแล้ว เพราะที่ผ่านมาก็เปลี่ยนไปมากเหลือเกิน ส่งผลกระทบหลายๆ อย่างทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม วิถีชีวิต ทั้งได้ให้ความเห็นว่าการพัฒนาเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ต้องดูความต้องการจากฐานรากคือชาวบ้าน การจะทำอะไรสักอย่างในพื้นที่ก็ต้องให้ชาวบ้านรับรู้และยอมรับ

“แต่ครั้งนี้เหมือนเป็นการสั่งมา ซึ่งไม่ได้ตรงตามความต้องการของชาวบ้านชุมชนท่าปายและโป่งเดือดเลย การพัฒนาต้องดูความพร้อมและความต้องการของคนในพื้นที่เป็นหลัก จะทำอะไรสักอย่างก็ต้องพูดคุยกันตั้งแต่เริ่มต้น การพัฒนาด้านการท่องเที่ยวนั้นส่วนมากสร้างความเจริญให้กับคนที่อื่นส่วนชาวบ้านยังคงเป็นเกษตรกรเช่นเดิม ทั้งยังเป็นการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติ มีสิ่งปลูกสร้างขึ้นมาเพิ่มเติมในพื้นที่ป่า

ซึ่งสังเกตจากนักท่องเที่ยวที่มาแล้ว ส่วนใหญ่จะแสวงหาธรรมชาติมากกว่าสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ถ้าหากจะส่งเสริมการท่องเที่ยวแล้ว ก็ควรที่จะรักษาสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติไว้จะดีกว่าที่จะมีโครงการก่อสร้างต่างๆ ขึ้นมา

ด้านนายทวีศักดิ์ ขันธราช หัวหน้าผู้ดำเนินการโครงการ ได้กล่าวต่อว่า ชื่นชมที่ได้เห็นความสามัคคีของชาวบ้าน เป็นพลังการแสดงออกที่สมบูรณ์แบบ ห่วงใยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่วนในเรื่องของโครงการนั้นก็พร้อมที่จะระงับ ถ้าชาวบ้านไม่เอาก็ไม่ทำ แต่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สร้าง ถ้าชาวบ้านต้องการที่จะพัฒนาอะไร หรือส่วนไหนในเขตอุทยานฯ ก็ยินดีที่จะน้อมรับ ให้สำรวจและเขียนโครงการขึ้นมา ทางอุทยานฯ พร้อมที่จะพิจารณา

นายธนกฤตได้กล่าวสรุปการประชุมว่า ก็ให้เป็นไปตามความต้องการชุมชน และถ้าชาวบ้านเห็นว่าควรมีการพัฒนาในส่วนใดก็สามารถเขียนโครงการยื่นให้ทางอุทยานฯ ได้

ทั้งนี้ บรรยากาศการประชุมครั้งนี้เป็นไปด้วยดี เข้าใจกันทุกๆ ฝ่าย หลังผู้นำชุมชนและตัวแทนชาวบ้านรับฟัง และร่วมแสดงความคิดเห็น ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ต่างคัดค้านโครงการ ก็ได้ยื่นหนังสือ-รายนามผู้คัดค้านต่อนายอำเภอปาย ก่อนที่นายอำเภอจะยื่นหนังสือดังกล่าวต่อทางอุทยานฯ อีกทอดหนึ่งทันที
ผู้นำชุมชน และชาวบ้าน ต.แม่ฮี้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เข้าร่วมรับฟังและแสดงจุดยืนคัดค้านโครงการ ก่อนยื่นหนังสือ พร้อมรายนามชาวบ้านที่ลงชื่อคัดค้านโครงการฯ

นายธนกฤต ฉันทะจำรัสศิลป์ นายอำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน ส่งต่อหนังสือคัดค้านให้กับทางอุทยานฯ


กำลังโหลดความคิดเห็น