พังงา - ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา จี้หน่วยงานรัฐเร่งแก้ไขปัญหาเส้นทาง Walk Away เลียบแหล่งท่องเที่ยวเขาหลัก อ.ตะกั่วป่า หลังปล่อยให้พังเสียหายมานาน ก่อนเกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยว
หลังจากที่แขวงทางหลวงภูเก็ต ได้มีการดำเนินการก่อสร้างทาง หรือ Walk Away ทางเท้าเลียบแหล่งท่องเที่ยวเขาหลัก เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติได้ใช้สัญจรไปมา รวมถึงแวะชมความงามของหาดเขาหลัก แต่เมื่อเวลาผ่านไปพบว่า Walk Away เสียหาย ทรุดโทรม จนเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยว ซึ่งมีการร้องเรียน และทำหนังสื่อถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาดูแล แต่ก็ยังไม่พบการซ่อมแซมแต่อย่างใด
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยพบว่า เส้นทาง Walk Away ดังกล่าวตั้งอยู่ในเขตทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม ม.7 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ช่วง กม.798-อุทยานแห่งชาติเขาหลัก-ลำรู เป็นทางเดินเท้าที่สร้างเพิ่มออกมาจากถนน ด้านล่างเป็นหุบเหว ก่อนจะเป็นรีสอร์ต และชายหาด มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นจำนวนมากใช้เส้นทางดังกล่าวเพื่อเดินเท้าเข้ามายังบริเวณเขาหลัก เซ็นเตอร์
บางส่วนก็จะใช้เส้นทางดังกล่าวเดินเท้าไปศึกษาธรรมชาติ บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาหลัก-ลำรู หลายจุดของทางเท้ามีสภาพทรุดโทรม บางจุดรกทึบ บางจุดถึงกับพัง บางจุดมีการทรุดตัวของทางเท้า มีเพียงเจ้าหน้าที่นำกรวยมาตั้งเอาไว้เพียงบางจุดเพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวตกลงไปในหุบเหว
ด้าน นายธวัช นิรนาทวโรดม ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา เปิดเผยว่า แหล่งท่องเที่ยวเขาหลักเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลก มีห้องพักมากกว่า 11,000 ห้อง มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติเดินทางเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย สร้างรายได้ให้แก่ประเทศเป็นอย่างมาก แต่กลับพบว่า การพัฒนาของแหล่งท่องเที่ยวเขาหลักนั้นไม่ได้มีการบริหารการกระจายอำนาจของภาครัฐให้ตรงตามพื้นที่ เช่น แหล่งท่องเที่ยวเขาหลัก ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา แต่กลับไปขึ้นอยู่กับหมวดการทางท้ายเหมือง แขวงการทางภูเก็ต
จึงทำให้การดูแลพื้นที่ค่อนข้างที่จะมีปัญหา หรือที่ประชาชนเรียกว่า การดูแลไม่ทั่วถึง ซึ่งหากยกตัวอย่างง่ายๆ ก็คือ Walk Away ที่ตั้งอยู่บนเขาหลัก ซึ่งเป็นทางเท้าที่นักท่องเที่ยวใช้เดิน เมื่อเห็นสภาพแล้วมีความรู้สึกน่าใจหาย และเป็นอันตราย ซึ่งก็ได้ทำเรื่องไปที่แขวงการทางภูเก็ตแล้วว่า หากไม่รีบซ่อมก็ควรมีประกาศระงับการใช้เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ซึ่งหากนักท่องเที่ยวตกลงไปต้องมีการเสียชีวิตจนส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวอย่างแน่นอน ซึ่งในฐานะเป็นภาคเอกชนได้พยายามติดต่อไปหลายฝ่ายว่าต้องแก้ไขเป็นการด่วน แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับแต่อย่างใด
