นราธิวาส - ผงะพบศพหนุ่มใหญ่วัย 45 ปี ถูกรัวยิง 7 นัดซ้อนเสียชีวิตคาที่ภายในป่าริมถนน ใน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ตำรวจคาดปมสังหารขัดแย้งเรื่องส่วนตัว แต่ยังไม่ตัดประเด็นความไม่สงบทิ้ง
วันนี้ (21 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ท.วัฒนา ธุรารัตน์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุพบศพคนถูกยิงเสียชีวิตในป่าริมถนนบริเวณทางเดินเข้าไปที่บ่อปลาร้าง บ้านโคกคู ม.3 ต.พร่อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมร่วมเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุกับ พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ สวัสดิ์รักษา รอง ผกก.ป.สภ.ตากใบ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารจำนวนหนึ่ง รวมทั้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิธารน้ำใจสุไหงโก-ลก
โดยในที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตนอนคว่ำหน้า จมกองเลือดอยู่ที่บริเวณทางเดิน สวมใส่กางเกงยีนส์ขาสั้น สวมเสื้อยืดสีฟ้า และใส่หมวกสีขาว พร้อมสะพายเป้ 1 ใบ จากการตรวจสอบทราบชื่อต่อมาคือ นายมาหามะรอมือซี มะลี อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 992/116 ถนนประชาวิวัฒน์ ซอย 17 ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกขนาด 9 มม. ที่บริเวณศีรษะ หัวไหล่ แผ่นหลัง และน่องขวา รวม 7 นัด โดยในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบหัวกระสุนปืนพกขนาด 9 มม. ตกอยู่ที่บริเวณข้างขาขวา 1 หัว
จากการตรวจสอบบริเวณป่าอย่างละเอียด เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบร่องรอยคล้ายลักษณะมีการต่อสู้ โดยกระสุนปืนของคนร้ายได้ยิงพลาดไปถูกกิ่งไม้หัก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะมอบศพผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยธารน้ำใจสุไหงโก-ลก ส่งโรงพยาบาลตากใบ เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบให้ญาติรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ สวัสดิ์รักษา รอง ผกก.ป.สภ.ตากใบ เปิดเผยว่า จากการประเมินเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คาดว่า กลุ่มคนร้ายซึ่งน่าจะรู้จักมักคุ้นกันดีกับผู้ตาย และน่าจะมีมากกว่า 1 คน ได้ร่วมกันวางแผนลวง หรืออาจจะขู่บังคับผู้ตายขึ้นรถยนต์มาตกลงปัญหาบางอย่าง ณ จุดเกิดเหตุ แต่ทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ และผู้ตายอาจจะมีการต่อสู้ หรือขัดขืนกับกลุ่มคนร้าย จึงถูกกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 มม. ยิงใส่จำนวน 7 นัดซ้อน จนเสียชีวิต ซึ่งกระสุนปืนบางนัดของคนร้ายได้พลาดเป้าไปถูกกิ่งไม้บริเวณจุดเกิดเหตุหัก และก่อนจะพากันหลบหนี คนร้ายได้ช่วยกันเก็บปลอกกระสุนปืนซึ่งเป็นหลักฐานไปด้วย
เรื่องที่เกิดขึ้นคาดว่าน่าจะมาจากปัญหาความขัดแย้งส่วนตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกพยานบุคคลที่พบศพคนแรก ที่กำลังเดินทางนำปุ๋ยไปใส่แตงโมที่ปลูกไว้บริเวณใกล้เคียง รวมทั้งเครือญาติของผู้เสียชีวิตมาสอบสวน และให้ปากคำ เพื่อหาข้อเท็จจริงถึงปมเหตุของการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่า สาเหตุมาจากขัดแย้งเรื่องส่วนตัว หรือจากเหตุความไม่สงบหรือไม่อย่างไร นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตามกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป