xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุไฟใต้เมื่อปี 50 เข้าให้ปากคำต่อ ป.ป.ช.ยะลา อ้างได้รับเงินไม่ครบจำนวน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ยะลา - ชาวบ้านบันนังสตา จ.ยะลา ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบเมื่อปี 2550 โร่เข้าให้ปากคำต่อทาง ป.ป.ช.ยะลา หลังไม่ได้รับเงิน 7.5 ล้านบาท ตามจำนวน เตรียมร้อง คสช.ยื่นมือช่วยเหลือ

วันนี้ (13 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2550 ในพื้นที่หมู่ 5 บ้านภักดี ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา จำนวน 8 คน และชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ตากใบ เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2547 จำนวน 2 คน เดินทางเข้าพบ นายพายัพ คชพลายุก ผอ.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จังหวัดยะลา (ป.ป.ช.ยะลา) เพื่อให้ปากคำถึงการรับเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ผู้ได้รับผลกระทบทั้ง 10 คน ระบุว่าได้รับเงินเยียวยาไม่ครบจำนวน
 

 
นายฮาลีม อาลีมามะ อายุ 32 ปี หนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์บ้านภักดี ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2550 เปิดเผยว่า ในการเดินทางมาครั้งนี้เพื่อขอความเป็นธรรมจาก คสช. หลังจากที่ตน และชาวบ้านถูกยิงตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 11 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรทางคดี และทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่ได้ให้ความสำคัญ และดูแล จนถึงวันนี้เมื่ออยู่ในช่วงของรัฐบาล คสช. จึงต้องออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม ให้มาดูแล และติดตามให้คดีสิ้นสุด เพราะคดีบ้านภักดี ในความรู้สึกของชาวบ้าน และของตนเองรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม เนื่องจากคดีไม่มีความคืบหน้า ไม่เคยถึงชั้นศาล เนื่องจากตนเองถูกลอบยิง และตนเองก็เป็นพยานชี้ภาพผู้ที่กระทำ แต่คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้าจนถึงปัจจุบัน นี่คือสิ่งที่ชาวบ้านไม่เข้าใจ จึงมาขอให้ทาง คสช.ช่วยเหลือ

“กรณีเหตุที่บ้านภักดี ก็ได้มีการเดินเรื่องตั้งแต่สมัยนายกยิ่งลักษณ์ ที่ประกาศให้เงินเยียวยา 7.5 ล้านบาท สำหรับกรณีที่ถูกเจ้าหน้าที่กระทำ จึงได้รวมตัวไปประสานที่ ศอ.บต.เพื่อขอความเป็นธรรม และเงินเยียวยาที่รัฐบาลประกาศให้ แต่ทาง ศอ.บต.ในช่วงแรก ซึ่งขณะนั้น พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ศอ.บต. ก็รับปากว่าเข้าข่ายว่าเป็นผู้ถูกกระทำจากเจ้าหน้าที่ และสุดท้ายก็มาแจ้งว่าไม่เข้าข่ายดังกล่าว และได้จ่ายเงินเยียวยาเพียง 4.5 ล้านบาทเท่านั้น และชาวบ้านทั้งหมดก็ได้สรุปบัญชีว่า ยอดเงินที่ได้มาเป็นจำนวนเท่าไหร่ บางรายได้รับครบ บางรายได้ไม่ครบ จึงอยากให้ทาง คสช.ตรวจสอบให้ชัดเจนว่า เงินเยียวยาที่จะให้ครบหรือไม่ และยอดเงินจาก 7.5 ล้านบาท ทำไมถึงให้ 4.5 ล้านบาท เรื่องนี้ชาวบ้านไม่เข้าใจ ว่าเมื่อบอกว่าไม่เข้าข่ายได้รับ 7.5 ล้านบาท แล้วทำไมถึงได้ 4.5 ล้านบาท” นายฮาลีม กล่าว
 

 
นายฮาลีม ยังกล่าวอีกว่า ตั้งแต่เกิดเหตุที่ผ่านมา ตนเองยังไม่เคยไปขึ้นศาลแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งๆ ที่ตนเองเป็นเจ้าทุกข์ และเจ้าหน้าที่ได้เรียกไปให้ปากคำเพียงครั้งเดียว หลังจากนั้น ก็ไม่ได้มีความคืบหน้าอะไร ชาวบ้านจึงรวมตัวกันไปขอความช่วยเหลือจากทนายความมุสลิม ให้ลงมาช่วยติดตาม แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า ตนเองอยากให้มีความคืบหน้าทางคดี และที่อยากได้ที่สุดคืออยากได้ความเป็นธรรม และ คสช.ได้รับปากว่าจะช่วยเหลือชาวบ้านที่ทุกข์ร้อน และจะคืนความเป็นธรรมให้แก่ชาวบ้าน

ด้าน นายพายัพ คชพลายุกต์ ผอ.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติจังหวัดยะลา (ป.ป.ช.ยะลา) เปิดเผยว่า ทาง ป.ป.ช.ได้รับเรื่องการจ่ายเงินเยียวยาของผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบ โดยประเด็นอยู่ที่ว่า การจ่ายเงินเยียวยาไม่ครบ หรือได้รับไม่ครบถ้วนตามสิทธิที่เจ้าตัวเข้าใจ และเมื่อมีการร้องเรียนเข้าสู่กระบวนการ ป.ป.ช. เหมือนคล้ายกับว่ามีการทุจริต จึงเป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช.ยะลา ในการรวบรวมพยานหลักฐานว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

ในเบื้องต้น ยังไม่สามารถชี้มูลความผิดว่าฝ่ายใดผิด จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อความเป็นธรรมของทั้งสองฝ่าย และในเบื้องต้น ได้รับข้อมูลจากชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบประมาณ 10 กว่าราย แต่อย่างไรก็ตาม ทาง ป.ป.ช.ยะลา ก็จะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย เพราะ ป.ป.ช.ไม่มีหน้าที่ตั้งข้อสันนิษฐานว่าใครผิดใครถูก ต้องทำข้อเท็จจริงให้ปรากฏชัดว่าผิดหรือถูกให้ชัดเจน และเมื่อสำนวนเสร็จสอบสวนเสร็จก็จะมีกระบวนการขั้นต่อไป
 




กำลังโหลดความคิดเห็น