บุรีรัมย์ - ตัวแทนชาวบ้าน 4 หมู่บ้าน อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ถูกหน่วยงานราชการกล่าวหาบุกรุกที่สาธารณะโคกหวายตั้งแต่ปี 2523 กว่า 500 ครัวเรือน เรียกร้องขอความเป็นธรรมให้รัฐรับผิดชอบเยียวยาค่าเสียโอกาสทำกินกว่า 30 ปี และออกโฉนดให้ หลังผลตรวจพิสูจน์ยืนยันไม่ได้บุกรุก แต่เป็นความผิดพลาดเจ้าหน้าที่รังวัดออก นสล.ทับที่อยู่อาศัยและที่ทำกินชาวบ้านที่มีเอกสารสิทธิถูกต้อง
วันนี้ (2 ต.ค.) ตัวแทนชาวบ้าน 4 หมู่บ้าน ประกอบด้วย บ้านดอนใหญ่ ม.9, บ้านหนองค่าย ม.10, บ้านโคกเพชร ม.16 ต.บ้านบัว และบ้านหนองโคลน ม.13 ต.สะแกโพรง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ที่ถูกหน่วยงานราชการกล่าวหาว่าบุกรุกที่สาธารณประโยชน์โคกหวาย กว่า 500 ครัวเรือน เนื้อที่กว่า 6,400 ไร่ ตั้งแต่ปี 2523 ได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้หน่วยงานรัฐแสดงความรับผิดชอบ โดยการจ่ายเงินชดเชยเยียวยาเป็นค่าเสียโอกาสในการทำการเกษตร และประกอบอาชีพในที่ดินของตัวเองมาเป็นเวลากว่า 30 ปี พร้อมทั้งเรียกร้องให้ที่ดินจังหวัดดำเนินการออกโฉนดที่ดินให้ชาวบ้านที่ถูกกล่าวหาด้วย
หลังจากผลตรวจพิสูจน์สิทธิของคณะกรรมการตรวจสอบที่ดินระดับจังหวัดได้สรุปยืนยันผลการตรวจสอบเมื่อปี 2555 แล้วว่าชาวบ้านไม่ได้บุกรุกที่สาธารณประโยชน์ตามที่ถูกกล่าวหา แต่เป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ที่ดินที่รังวัดเพื่อออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง หรือ (นสล.) ทับที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินของชาวบ้านที่มีเอกสารสิทธิ ทั้ง ส.ค.1, น.ส.3 และ น.ส.3 ก. ที่ออกให้โดยกรมที่ดินอย่างถูกต้อง
ประกอบกับทางกรมที่ดินได้มีหนังสือแจ้งถึงตัวแทนชาวบ้านว่ามีการรังวัดทับที่ ส.ค.1 และ น.ส.3 ของชาวบ้านจริงจึงให้ยุติเรื่อง และให้เป็นอำนาจของที่ดินจังหวัดเป็นผู้พิจารณา แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการเยียวยาจากภาครัฐกรณีที่ถูกละเมิดสิทธิจนต้องเสียโอกาสทำกินในที่ดินของตัวเองมากว่า 30 ปี
อีกทั้งชาวบ้านที่ยื่นเรื่องขอออกโฉนดที่ดินตามขั้นตอนและจ่ายค่าธรรมเนียมไปแล้ว แต่กลับไม่สามารถออกโฉนดได้ จึงได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม
นายนิตย์ เดชพระ อายุ 75 ปี ชาวบ้านโคกเพชร กล่าวว่า ชาวบ้านได้อาศัยและทำกินในที่ดินดังกล่าวมาตั้งแต่ปู่ย่าตายาย และมีเอกสารสิทธิ ส.ค.1 น.ส.3 และ น.ส.3 ก. ถูกต้อง แต่จู่ๆ หน่วยงานรัฐกลับมาบอกว่าชาวบ้านบุกรุกที่สาธารณะ ทำให้ชาวบ้านไม่กล้าไปทำกินในที่ดินของตัวเอง สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านเป็นอย่างมาก และหลังถูกกล่าวหาตั้งแต่ปี 2523 ชาวบ้านได้พยายามเรียกร้องขอความเป็นธรรมทั้งทางจังหวัด หน่วยงานภาครัฐ สำนักนายกฯ และรัฐบาล มาโดยตลอด พร้อมทั้งได้ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถึงความเดือดร้อนดังกล่าว
กระทั่งผลการตรวจสอบยืนยันออกมาแล้วว่าชาวบ้านไม่ได้บุกรุกที่สาธารณะ แต่เป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่รังวัด จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง และที่ดินจังหวัดออกมาแสดงความรับผิดชอบจ่ายค่าสินไหมเยียวยาให้แก่ชาวบ้านที่ต้องเสียโอกาสทำกินมากว่า 30 ปี ทั้งขอให้ออกโฉนดให้ชาวบ้านที่มีเอกสารสิทธิถูกต้องด้วย
ด้านนายรอด อะโขรัมย์ อายุ 66 ปี ชาวบ้านหนองโคลน กล่าวว่า ในเมื่อทางกรมที่ดินได้ยอมรับแล้วว่ามีการรังวัดที่ทับที่ดินของชาวบ้านจนทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนเสียโอกาสทำกิน จึงอยากให้ออกมาแสดงความผิดรับผิดชอบความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ทั้งจ่ายเงินเยียวยาค่าเสียโอกาส และตรวจสอบออกโฉนดที่ดินให้ชาวบ้านด้วย เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาขึ้นอีก ทั้งอยากให้กรณีนี้เป็นกรณีตัวอย่างไม่อยากให้ไปเกิดกับคนอื่นอีก