ศูนย์ข่าวศรีราชา - มทบ.14 รับลูก คสช.รุดดูปัญหาท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย หวังทวงคืนพื้นที่สาธารณะ 17 ไร่ จี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งบริหารการใหม่เพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม ประกาศต้องเคลียร์พื้นที่เร่งด่วนแก้ปัญหาความเป็นระเบียบ รองรับงานสวนสนามทางเรือนานาชาติปลายปี 60
บ่ายวันนี้ (22 ก.ย.) พ.อ.ภพอนันฒ์ เหลืองภานุวัฒน์ รอง ผบ.มทบ.14 นำคณะเข้าร่วมประชุมพร้อมตรวจสอบพื้นที่บริเวณท่าเทียบเรือท่องเที่ยวแหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อดำเนินการตามนโยบายการจัดระเบียบพื้นที่ท่องเที่ยวอย่างจริงจัง โดยมีตัวแทนจากเมืองพัทยา ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สภ.เมืองพัทยา และกำลังเทศกิจ เข้าร่วม ทั้งนี้ หลังการหารือแล้วเสร็จได้นำคณะลงตรวจสอบพื้นที่จริงบริเวณลานจอดเรือ พร้อมทำการเก็บข้อมูล และบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานประกอบในการพิจารณา
พ.อ.ภพอนันต์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางคณะรักษาความสงบมั่นคงแห่งชาติ หรือ คสช.มีนโยบายอย่างเข้มงวดในการจัดระเบียบพื้นที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศ โดยเน้นย้ำให้แก้ไขปัญหาการบุกรุกที่สาธารณะ และการทวงคืนที่สาธารณประโยชน์ให้แผ่นดิน ซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่เมืองพัทยา ซึ่งถือเป็นพื้นทีท่องเที่ยวหลักที่สร้างรายได้เข้าสู่ประเทศปีละนับแสนล้านบาท
ทั้งนี้ ปัญหาอย่างหนึ่งคือ เรื่องพื้นที่จอดรถรับส่งนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังเกาะล้าน ซึ่งพบว่าที่ผ่านมา สภาพผิวการจราจรมีความคับแคบ ขณะที่การขนถ่ายนักท่องเที่ยวสูงถึงวันละหลายหมื่นคน ส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก ทั้งๆ ที่พื้นที่ของท่าเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ นี้มีขนาดใหญ่รวมกว่า 17 ไร่ ซึ่งสาเหตุสำคัญเป็นเพราะลานสาธารณะที่ควรจะให้ประโยชน์อย่างเต็มที่ มีการนำเรือสปีดโบต ซึ่งทราบว่ามีอยู่สูงถึง 800-900 ลำ มาทำเป็นลานจอดพักไว้
ซึ่งจากนี้จะต้องเข้ามาตรวจสอบ และบริหารจัดการใหม่ ทั้งกรณีในเรื่องของสัญญาสัมปทาน เรื่องของผลประโยชน์ และการจัดการพื้นที่ใหม่เพื่อให้ส่วนร่วมได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่งเท่านั้น ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำที่สุ่มเสี่ยงต่อความผิดก็พร้อมจะดำเนินการตามขั้นตอนโดยไม่ละเว้น จึงอยากร้องขอให้ทุกฝ่ายให้ความร่วมมืออย่าดื้อดึง
พ.อ.ภพอนันต์ กล่าวต่อไปว่า เรื่องนี้คงปล่อยให้เป็นปัญหาเรื้อรังต่อไปไม่ได้ เพราะพื้นที่แห่งนี้ถือเป็นที่สาธารณะ จึงต้องเข้ามาจัดระเบียบอย่างจริงจัง อีกทั้งในช่วงปลายปี 2560 นี้ จะมีการจัดกิจกรรมสวนสนามทางเรือนานาชาติ ซึ่งจะมีทัพเรือจากนานาประเทศเข้าร่วม โดยนายกรัฐมนตรีจะเดินทางเข้าร่วมงาน ซึ่งถือเป็นหน้าเป็นตา และจะมีการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ชายหาดเมืองพัทยาทั้งหมด จึงต้องเร่งรัดในการจัดระเบียบให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งจากนี้จะมี มทบ.14 เป็นผู้รับผิดชอบ พร้อมรายงานความคืบหน้าทัพภาค 1 และ คสช.ตามลำดับ โดยจะมีการจัดประชุมร่วมเพื่อพิจารณาอีกครั้ง
พ.อ.ภพอนันฒ์ เหลืองภานุวัฒน์ รอง ผบช.มทบ.14 เปิดเผยหลังเดินดูพื้นที่ดังกล่าวว่า มารับทราบความเป็นมาของปัญหาที่มีมาอย่างยาวนานเพื่อหาแนวทางการแก้ไข ซึ่งต้องให้เวลา อะไรที่มันไม่ถูกต้องก็ทำให้ถูกต้อง โดยในส่วนของเจ้าหน้าที่ต้องติดตามการดำเนินการแก้ไข หากไม่ทำจะถือว่าเป็นการละเว้น เราต้องเอาพื้นที่สาธารณะของเมืองพัทยากลับมาใช้ประโยชน์อย่างสูงสุด นอกจากนี้ ยังถือเป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรในเมืองพัทยา รวมถึงเป็นการรักษาภาพลักษณ์การท่องเที่ยว และเตรียมพื้นที่เพื่อรองรับการจัดแสดงสวนสนามทางเรือนานาชาติในปีหน้าต่อไปด้วย
บ่ายวันนี้ (22 ก.ย.) พ.อ.ภพอนันฒ์ เหลืองภานุวัฒน์ รอง ผบ.มทบ.14 นำคณะเข้าร่วมประชุมพร้อมตรวจสอบพื้นที่บริเวณท่าเทียบเรือท่องเที่ยวแหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อดำเนินการตามนโยบายการจัดระเบียบพื้นที่ท่องเที่ยวอย่างจริงจัง โดยมีตัวแทนจากเมืองพัทยา ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สภ.เมืองพัทยา และกำลังเทศกิจ เข้าร่วม ทั้งนี้ หลังการหารือแล้วเสร็จได้นำคณะลงตรวจสอบพื้นที่จริงบริเวณลานจอดเรือ พร้อมทำการเก็บข้อมูล และบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานประกอบในการพิจารณา
พ.อ.ภพอนันต์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางคณะรักษาความสงบมั่นคงแห่งชาติ หรือ คสช.มีนโยบายอย่างเข้มงวดในการจัดระเบียบพื้นที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศ โดยเน้นย้ำให้แก้ไขปัญหาการบุกรุกที่สาธารณะ และการทวงคืนที่สาธารณประโยชน์ให้แผ่นดิน ซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่เมืองพัทยา ซึ่งถือเป็นพื้นทีท่องเที่ยวหลักที่สร้างรายได้เข้าสู่ประเทศปีละนับแสนล้านบาท
ทั้งนี้ ปัญหาอย่างหนึ่งคือ เรื่องพื้นที่จอดรถรับส่งนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังเกาะล้าน ซึ่งพบว่าที่ผ่านมา สภาพผิวการจราจรมีความคับแคบ ขณะที่การขนถ่ายนักท่องเที่ยวสูงถึงวันละหลายหมื่นคน ส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก ทั้งๆ ที่พื้นที่ของท่าเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ นี้มีขนาดใหญ่รวมกว่า 17 ไร่ ซึ่งสาเหตุสำคัญเป็นเพราะลานสาธารณะที่ควรจะให้ประโยชน์อย่างเต็มที่ มีการนำเรือสปีดโบต ซึ่งทราบว่ามีอยู่สูงถึง 800-900 ลำ มาทำเป็นลานจอดพักไว้
ซึ่งจากนี้จะต้องเข้ามาตรวจสอบ และบริหารจัดการใหม่ ทั้งกรณีในเรื่องของสัญญาสัมปทาน เรื่องของผลประโยชน์ และการจัดการพื้นที่ใหม่เพื่อให้ส่วนร่วมได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่งเท่านั้น ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำที่สุ่มเสี่ยงต่อความผิดก็พร้อมจะดำเนินการตามขั้นตอนโดยไม่ละเว้น จึงอยากร้องขอให้ทุกฝ่ายให้ความร่วมมืออย่าดื้อดึง
พ.อ.ภพอนันต์ กล่าวต่อไปว่า เรื่องนี้คงปล่อยให้เป็นปัญหาเรื้อรังต่อไปไม่ได้ เพราะพื้นที่แห่งนี้ถือเป็นที่สาธารณะ จึงต้องเข้ามาจัดระเบียบอย่างจริงจัง อีกทั้งในช่วงปลายปี 2560 นี้ จะมีการจัดกิจกรรมสวนสนามทางเรือนานาชาติ ซึ่งจะมีทัพเรือจากนานาประเทศเข้าร่วม โดยนายกรัฐมนตรีจะเดินทางเข้าร่วมงาน ซึ่งถือเป็นหน้าเป็นตา และจะมีการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ชายหาดเมืองพัทยาทั้งหมด จึงต้องเร่งรัดในการจัดระเบียบให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งจากนี้จะมี มทบ.14 เป็นผู้รับผิดชอบ พร้อมรายงานความคืบหน้าทัพภาค 1 และ คสช.ตามลำดับ โดยจะมีการจัดประชุมร่วมเพื่อพิจารณาอีกครั้ง
พ.อ.ภพอนันฒ์ เหลืองภานุวัฒน์ รอง ผบช.มทบ.14 เปิดเผยหลังเดินดูพื้นที่ดังกล่าวว่า มารับทราบความเป็นมาของปัญหาที่มีมาอย่างยาวนานเพื่อหาแนวทางการแก้ไข ซึ่งต้องให้เวลา อะไรที่มันไม่ถูกต้องก็ทำให้ถูกต้อง โดยในส่วนของเจ้าหน้าที่ต้องติดตามการดำเนินการแก้ไข หากไม่ทำจะถือว่าเป็นการละเว้น เราต้องเอาพื้นที่สาธารณะของเมืองพัทยากลับมาใช้ประโยชน์อย่างสูงสุด นอกจากนี้ ยังถือเป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรในเมืองพัทยา รวมถึงเป็นการรักษาภาพลักษณ์การท่องเที่ยว และเตรียมพื้นที่เพื่อรองรับการจัดแสดงสวนสนามทางเรือนานาชาติในปีหน้าต่อไปด้วย