กระบี่ - เรือขนขยะถูกคลื่นซัดติดโขดหิน หน้าเกาะพีพี งานงอกทำปะการังเสียหายยับกว่า 100 ตารางเมตร จนท.อุทยานฯ พีพี แจ้งความดำเนินคดีฐาน พร้อมประสานนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่สำรวจอีกครั้ง
วันนี้ (14 มี.ค.) นายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานประจำเกาะพีพี เข้าแจ้งความที่ สภ.เกาะพีพี เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หลังพบว่าแนวปะการังน้ำตื้นบริเวณจุดที่เรือขนขยะเกยตื้นได้รับความเสียหายจำนวนมาก ซึ่งหลังจากนี้จะประสานนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และสรุปความเสียหายอีกครั้งเพื่อที่จะดำเนินคดีต่อผู้ประกอบการเรือลำดังกล่าวต่อไป เนื่องจากทางอุทยานฯ มีหน้าที่ปกป้องดูแลทรัพยากรธรรมชาติในเขตอุทยานทุกพื้นที่ ตามนโยบายของกรมอุทยานฯ
ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 9 ได้ดำน้ำสำรวจบริเวณที่จุดเรือขนขยะเกยตื้น ที่บริเวณหินแพหน้าเกาะพีพีดอน พบร่องรอยการครูดไถลของตัวเรือบนแนวปะการังโขด ขนาดกว้าง 5 เมตร ยาวกว่า 20 เมตร เนื้อที่ประมาณ 100 ตารางเมตร ปะการังเสียหายเป็นจำนวนมาก และพบขยะตกกระจายอยู่ในแนวปะการังใกล้ตัวเรือ จากการสำรวจโดยรอบตัวเรือ และรอบบริเวณจุดที่เรือเกยตื้นไม่พบการรั่วไหลของน้ำมัน และคราบน้ำมัน
ด้าน นายสุรศักดิ์ มงคลไชยสิทธิ์ นักวิชาการขนส่งชำนาญการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขากระบี่ เปิดเผยกรณีที่มีการระบุว่า มีน้ำมันอยู่ในเรือที่ประสบเหตุกว่า 150 ลิตรนั้น เกรงจะรั่วลงทะเลตามที่หลายฝั่งกังวลนั้น จากการตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามีน้ำมันจำนวนดังกล่าวอยู่ในลำเรือแต่อย่างใด สำหรับเหตุเรือบรรทุกขยะของบริษัทเอกชน ชื่อเรือ “ชาจันดี” ถูกคลื่นลมแรงพัดเรือไปชนกันโขดหิน ทำให้ท้องเรือแตก น้ำเข้าเรือ และเกยตื้นอยู่บนโขดหิน ที่บริเวณหน้าอ่าวพีพีดอน เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา
หลังเกิดเหตุทางผู้ประกอบการเจ้าของเรือลำดังกล่าวพยายามกู้ซากเรือ แต่เป็นไปด้วยความลำบาก และพบว่าเรือได้ส่งผลกระทบแนวปะการังน้ำตื้นบริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหายด้วย เนื่องจากเรือมีขนาดใหญ่ มีน้ำหนัก 106 ตันกรอส ทางเจ้าท่าภูมิภาค สาขากระบี่ และผู้ประกอบการได้วางแผนการกู้เรือขึ้นจากน้ำ จะใช้เรือบรรทุกเครนขนาดใหญ่ยกเรือขึ้น ลากออกจากพื้นที่ เพื่อไม่ให้กระทบแนวปะการัง คาดว่า 2-3 วัน ช่วงน้ำทะเลขึ้นสูงสุดจะสามารถดำเนินการได้
วันนี้ (14 มี.ค.) นายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานประจำเกาะพีพี เข้าแจ้งความที่ สภ.เกาะพีพี เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หลังพบว่าแนวปะการังน้ำตื้นบริเวณจุดที่เรือขนขยะเกยตื้นได้รับความเสียหายจำนวนมาก ซึ่งหลังจากนี้จะประสานนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และสรุปความเสียหายอีกครั้งเพื่อที่จะดำเนินคดีต่อผู้ประกอบการเรือลำดังกล่าวต่อไป เนื่องจากทางอุทยานฯ มีหน้าที่ปกป้องดูแลทรัพยากรธรรมชาติในเขตอุทยานทุกพื้นที่ ตามนโยบายของกรมอุทยานฯ
ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 9 ได้ดำน้ำสำรวจบริเวณที่จุดเรือขนขยะเกยตื้น ที่บริเวณหินแพหน้าเกาะพีพีดอน พบร่องรอยการครูดไถลของตัวเรือบนแนวปะการังโขด ขนาดกว้าง 5 เมตร ยาวกว่า 20 เมตร เนื้อที่ประมาณ 100 ตารางเมตร ปะการังเสียหายเป็นจำนวนมาก และพบขยะตกกระจายอยู่ในแนวปะการังใกล้ตัวเรือ จากการสำรวจโดยรอบตัวเรือ และรอบบริเวณจุดที่เรือเกยตื้นไม่พบการรั่วไหลของน้ำมัน และคราบน้ำมัน
ด้าน นายสุรศักดิ์ มงคลไชยสิทธิ์ นักวิชาการขนส่งชำนาญการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขากระบี่ เปิดเผยกรณีที่มีการระบุว่า มีน้ำมันอยู่ในเรือที่ประสบเหตุกว่า 150 ลิตรนั้น เกรงจะรั่วลงทะเลตามที่หลายฝั่งกังวลนั้น จากการตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามีน้ำมันจำนวนดังกล่าวอยู่ในลำเรือแต่อย่างใด สำหรับเหตุเรือบรรทุกขยะของบริษัทเอกชน ชื่อเรือ “ชาจันดี” ถูกคลื่นลมแรงพัดเรือไปชนกันโขดหิน ทำให้ท้องเรือแตก น้ำเข้าเรือ และเกยตื้นอยู่บนโขดหิน ที่บริเวณหน้าอ่าวพีพีดอน เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา
หลังเกิดเหตุทางผู้ประกอบการเจ้าของเรือลำดังกล่าวพยายามกู้ซากเรือ แต่เป็นไปด้วยความลำบาก และพบว่าเรือได้ส่งผลกระทบแนวปะการังน้ำตื้นบริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหายด้วย เนื่องจากเรือมีขนาดใหญ่ มีน้ำหนัก 106 ตันกรอส ทางเจ้าท่าภูมิภาค สาขากระบี่ และผู้ประกอบการได้วางแผนการกู้เรือขึ้นจากน้ำ จะใช้เรือบรรทุกเครนขนาดใหญ่ยกเรือขึ้น ลากออกจากพื้นที่ เพื่อไม่ให้กระทบแนวปะการัง คาดว่า 2-3 วัน ช่วงน้ำทะเลขึ้นสูงสุดจะสามารถดำเนินการได้