xs
xsm
sm
md
lg

ยกเกาะละวะ เป็นแหล่งเรียนรู้ สร้างจิตสำนึกเยาวชนรักธรรมชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พังงา - ยกเกาะละวะ ในอ่าวพังงา เป็นห้องเรียนธรรมชาติ เกาะแห่งการเรียนรู้ หวังสร้างจิตสำนึกให้เยาวชนได้รู้จักการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ พร้อมให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยว

วันนี้ (22 ม.ค.) นายศรายุทธ ตันเถียร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา เปิดเผยว่า อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก เห็นได้จากสถิตินักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติฯ เพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยในปี 2559 มีนักท่องเที่ยวมากกว่า 1.6 ล้านคน สร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชนมากมาย ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นฐานสำคัญในการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน และการพัฒนาอย่างยั่งยืน จึงจำเป็นที่จะต้องปลูกฝังเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้หวงแหนดูแลรักษาทรัพยากรในบ้านตัวเองเพื่อการใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืนในอนาคต

เพื่อกระตุ้นให้เยาวชน และชุมชนรอบแนวเขตอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา เห็นความสำคัญ และมีจิตสำนึกในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นตน รวมถึงเป็นการสร้างเครือข่ายด้านอนุรักษ์ในระดับเยาวชน และชุมชนรอบแนวเขตอุทยานแห่งชาติ จึงจำเป็นที่จะต้องจัดสร้าง “ห้องเรียนธรรมชาติ” บริเวณเกาะละวะใหญ่ อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา จังหวัดพังงา ขึ้นเพื่อเป็นต้นแบบ และแหล่งเรียนรู้สำหรับเยาวชน

ด้าน ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า หากคุณอยากให้เด็กที่อยู่ข้างทะเลรักทะเล คุณต้องทำอย่างไร? นี่คือคำถาม โดยเริ่มแรก เราต้องเลือกพื้นที่ให้เหมาะสม ซึ่งอุทยานอ่าวพังงา เป็นหนึ่งอุทยานท่องเที่ยวของชุมชน โดยแต่ละวันจะมีชาวบ้านไม่ต่ำกว่า 2,000 คน จาก 7 อบต. หากินกับการท่องเที่ยวในอ่าวพังงา ทั้งพายเรือแคนู ขับเรือหางยาว ขายของที่ระลึก และอาหาร ทำให้ชาวบ้านหลายพันครอบครัวรวมกันมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท จึงถือเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมที่สุด เมื่อชุมชนหากินกับอ่าวพังงา ความรู้ความรักทะเลจึงจำเป็นยิ่ง โดยเฉพาะน้องๆ ที่อยู่รอบอ่าว ปัญหาคือ ทำอย่างไรให้น้องรู้ และรักอ่าว แต่อยู่ที่การเรียนรู้จากทะเลของจริง ในรูปแบบของ “สถานีทะเลศึกษา”

ต้องหาสถานที่เหมาะสมได้เป้าหมายกว้างๆ เกาะที่แห่งการเรียนรู้ คือ “เกาะวะใหญ่” หรือ “เกาะละวะ” ซึ่งตั้งอยู่ตอนกลางอ่าว ไม่ไกลจากร่องน้ำสารสิน น้ำทะเลใสมาก มีแนวปะการัง และแหล่งหญ้าทะเลน้ำตื้น มีหาดทราย หาดหิน และยังมีป่าบนเกาะสมบูรณ์พูนสุข อีกทั้งเกาะละวะอยู่ใกล้ฝั่ง นั่งเรือหางยาวแค่สิบนาทีเศษ หรือถ้ามาจากภูเก็ต นั่งเรือเร็ว 15 นาทีก็ถึง จึงเรียกว่าเป็นศูนย์กลางเรียนรู้ทะเลแถบนี้ได้เลยทีเดียว ที่สำคัญเกาะแห่งนี้ยังเป็นของอุทยานทั้งหมด และยังคงความเป็นธรรมชาติแท้ แม้มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาบ้าง แต่ก็แค่บางเวลา อยู่รวมกันบนหาดแห่งเดียว รอบด้านจึงยังสวยสงบจึงเป็นที่มากของ “เกาะแห่งการเรียนรู้

จากนั้นก็เริ่มทำการวางแผนลงสำรวจรอบเกาะ ทำแผนที่ปะการัง หญ้าทะเล หาสัตว์น่าสนใจ จนพอบอกได้ว่าที่นี่คือตัวแทนของแนวปะการังน้ำตื้นชั้นยอด แน่นอนว่า น้ำที่เกาะละวะขุ่นหน่อย ไม่ใสเหมือนเกาะไข่ เกาะราชา หรือเกาะพีพี แต่หากพูดถึงความสมบูรณ์ตามธรรมชาติ ความสงบเงียบ แนวปะการังที่นี่กินขาด การดำน้ำโดยไม่มีคนอื่นอีกร้อยพันอยู่ใกล้ๆ ซึ่งหายากมากในเมืองไทย เมื่อเราสำรวจจนบอกเป้าได้รู้จักสัตว์ที่จะไปสอนน้อง เราก็พร้อมเดินหน้าไปประสานงานต่อไป
จึงได้มีการประสานกับอุทยานฯ และชาวบ้าน พร้อมกับเล่าถึงความฝันในการทำ “เกาะแห่งการเรียนรู้” และพบว่า ทุกคนชอบใจอยากให้เกิดขึ้นเป็นที่แรกของไทย ในเกาะละวะ ด้านอุทยานฯ ก็สนับสนุนเต็มที่ จากนั้นก็เริ่มที่จะเตรียมการ ซึ่งการที่เราจะสอนเด็กได้นั้นเราก็ต้องเข้าใจเด็กก่อน เพราะฉะนั้น ตลอด 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลายคนช่วยกันลงไปเตรียมการที่เกาะตั้งแต่เตรียมป้ายข้อมูลความรู้ ตั้งสถานีทะเลศึกษาโดยแบ่งเป็นจุด หาดทราย ปะการัง แหล่งหญ้าทะเลที่สวยงาม จากนั้นก็สอนให้เด็กเข้าใจถึงทุกอย่างที่อยู่บนชายหาดให้เข้าใจ และพร้อมที่จะเผยแพร่ความรู้ให้แก่ผู้คนที่มาเยี่ยมชมสถานีทะเลศึกษา


กำลังโหลดความคิดเห็น