ชุมพร - ศึกชิงพื้นที่ป่าสงวนทุ่งเลี้ยงสัตว์บ้านทุ่งเบี้ย หมู่ที่ 8 ต.ขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร ทหาร ท้องถิ่นจัดทำประชาคมสร้างป่าชุมชน แต่ชาวบ้านงง ยังไม่พร้อมโหวต ขณะที่อีกฝ่ายขอใช้พื้นที่เตรียมสร้างมหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติ ตามมติ ครม.
กรณีสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชุมพร ขอใช้พื้นที่ป่าสงวนทุ่งเลี้ยงสัตว์ บ้านทุ่งเบี้ย หมู่ที่ 8 ต.ขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร พร้อมปลูกป่ากันถูกบุกรุกไว้เตรียมสร้างมหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติ ตามมติ ครม.แต่แล้วจู่ๆ ฝ่ายทหาร ร่วมเทศบาลตำบลลงตรวจสอบพื้นที่อ้างเอาไปทำป่าชุมชน สุดท้ายการทำประชาคมล่ม
เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.00-12.00 น.วันนี้ (5 ก.พ.) ที่ศาลาอเนกประสงค์บ้านทุ่งเบี้ย หมู่ที่ 8 ตำบลขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร ได้มีการประชุมทำประชาคมหมู่บ้านเรื่องป่าชุมชน ในพื้นที่ครอบครองของสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชุมพร โดยมี นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอเมืองชุมพร เป็นประธาน ร่วมกับ พ.ท.ดุสิต เกสรแก้ว หน.ฉก.แก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ บก.ควบคุม มทบ.44 นายอภิชัย รอดศิริ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลขุนกระทิง นายนพรัตน์ สัมฤทธิ์ ส่วนจัดการป่าชุมชนสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (สุราษฎร์ธานี) นายสมชาย เมฆีนุรักษ์ กำนันตำบลขุนกระทิง และชาวบ้านในพื้นที่กว่า 50 คนเข้าร่วม และมีนักศึกษา อาจารย์ พร้อมกับชาวบ้านพื้นที่ข้างเคียงอีกจำนวนหนึ่งร่วมสังเกตการณ์
สืบเนื่องจากพื้นที่สาธารณประโยชน์ทุ่งเบี้ย อยู่ในตำบลขุนกระทิง รวมพื้นที่กว่า 3,000 ไร่ ซึ่งในปัจจุบันพื้นที่หมู่ 8 ตำบลขุนกระทิง เป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการ ประกอบด้วย สถานบันการพลศึกษา วิทยาเขตชุมพร กองกำกับการ ตชด.41 ค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ แขวงทางหลวงชนบท เทศบาลตำบลขุนกระทิง และสถานีวิทยุแห่งประเทศไทยระบบเอเอ็ม รวมพื้นที่กว่า 600 ไร่ ส่วนที่เหลือในพื้นที่อื่นๆ ถูกบุกรุกยึดครองทำกินจากชาวบ้าน นักการเมือง นายทุน นักธุรกิจ จนเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์
ต่อมา สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.ชุมพร ซึ่งปัจจุบันเช่าอาคารพาณิชย์เป็นที่การอยู่ ได้ทำหนังสือขอให้ชุดเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ บก.ควบคุม มทบ.44 เข้าดำเนินการสำรวจพื้นที่สาธารณะทุ่งเบี้ย เพื่อใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.ชุมพร และอยู่ระหว่างขั้นตอนการขออนุญาตใช้พื้นที่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้ตั้งงบประมาณแล้ว โดยก่อสร้างในพื้นที่บ้านดอนรวบ และบ้านหนองหมอก ในพื้นที่ตำบลบากหมาก อ.เมืองชุมพร ได้เนื่องจากทั้ง 2 แห่ง มีชาวบ้านประท้วงไม่ให้ก่อสร้างเพราะกลัวว่าจะมีผลกระทบในอนาคตกรณีมีการก่อจลาจล ความวุ่นวายเหมือนที่เป็นข่าวอยู่เป็นประจำ
การสำรวจพื้นที่สาธารณะทุ่งเบี้ยว ของชุดเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ บก.ควบคุม มทบ.44 และเทศบาลตำบลขุนกระทิง พบว่า พื้นที่ข้างสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชุมพร ประมาณกว่า 100 ไร่ ยังเป็นป่าที่สมบูรณ์ ควรจะกันไว้เป็นป่าชุมชน จนนำไปสู่การทำประชาคมดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนทำประชาคมลงมติกรณีดังกล่าวได้ให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงข้อมูลและแสดงความคิดเห็น โดยมี ผศ.เสณีย์ นิลจันทร์ รองอธิการบดี สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชุมพร กล่าวว่า ที่ผ่านมา ทางสถาบันฯ ได้เคยขอกันพื้นที่ไว้ จำนวน 302 ไร่ ตั้งปี พ.ศ.2519 สมัยที่ น.อ.จำลอง ประเสริฐยิ่ง ผวจ.ชุมพร เป็นผู้อนุญาตให้ใช้พื้นที่ดังกล่าว รวมทั้งสำนักงานที่ดินจังหวัดชุมพร ก็อนุญาตให้ใช้ มีเอกสารยืนยันชัดเจน และที่ผ่านมา ทางสถาบันได้ใช้ก่อสร้างอาการเรียน อาคารกิจกรรมต่างๆ ไปแล้วประมาณ 200 ไร่ เหลืออีกประมาณ 102 ไร่ ทางสถาบันได้กันไว้เพื่อขยายในอนาคต โดยการปลูกป่าทดแทนป่าเสื่อมโทรม และป่าที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเพื่อป้องกันการบุกรุก จนถึงวันนี้พวกเราดูแลรักษากันไว้นานกว่า 40 ปีแล้ว ไม่เช่นนั้นคงถูกบุกรุกยึดครองไปจนหมดสิ้น
ผศ.เสณีย์ กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวขณะนี้ได้เตรียมไว้สร้างมหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรี ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี โดยกำหนดให้ภาคใต้ตอนบนสร้างมหาวิทยาลัยดังกล่าวที่ จ.ชุมพร แต่จู่ๆ ทางฝ่ายทหาร และท้องถิ่นจะนำไปเป็นป่าชุมชน ซึ่งจะทำให้จังหวัดชุมพร เสียโอกาสทางการศึกษา ซึ่งตนได้ทำหนังสือคัดค้านไปที่นายณรงค์ พลละเอียด ผวจ.ชุมพร และทำหนังสื่อไปถึงรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ต้นสังกัดได้รับทราบแล้ว หากมีการสร้างมหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติ ป่าที่สมบูรณ์ดังกล่าวก็ยังจะอยู่เหมือนเดิมไม่ได้ทำลายทั้งหมด ซึ่งสามารถออกแบบก่อสร้างให้ป่ากับสถานศึกษาสามารถอยู่ร่วมกันได้
ด้าน นายประทวน ดิษรพงษ์ อายุ 75 ปี กล่าวว่า เรื่องนี้เราอย่ามองแค่ป่าชุมชนของชาวบ้านหมู่ 8 ตำบลขุนกระทิงเท่านั้น แต่เราต้องมองถึงอนาคตของคนทั้งจังหวัด และประเทศชาติ หากสร้างมหาวิทยากีฬาแห่งชาติ ตามมติ ครม.จะเป็นโอกาสที่ดีของจังหวัด เพราะการศึกษาคืออนาคตของชาติ โลกเราพัฒนาได้เพราะการศึกษา นอกจากนั้น กีฬายังส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวอีกด้วย จึงอยากให้ทุกฝ่ายคิดให้ดีๆ ก่อนจะตัดสินใจในเรื่องใด
ขณะที่ นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอเมืองชุมพร กล่าวว่า เรื่องนี้หากจะพูดไปแล้วในพื้นที่สาธารณะทุ่งเบี้ยว ทั้งราษฎร และหน่วยงานราชการที่ตั้งอยู่ทั้งหมดผิดกฎหมายด้วยกันทั้งสิ้นเพราะยังไม่ได้มีการถอนสภาพป่า และขอใช้พื้นที่ให้ถูกต้องอย่างสมบูรณ์ จึงจะต้องมีการดำเนินการขอให้ถูกต้องทั้งหมดด้วย ส่วนเรื่องป่าชุมชนจะเอากันอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านที่มาร่วมประชุมส่วนใหญ่ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆเนื่องจากยังไม่รู้ข้อมูลที่เพียงพอ นอกจากนั้น ยังพบว่าราษฎรของหมู่ 8 ตำบลขุนกระทิง ที่มีสิทธิออกเสียงมากกว่า 700 คน แต่มาเข้าร่วมประชาคมกว่า 50 คนเท่านั้น และส่วนหนึ่งได้ทยอยกลับบ้านไปบ้าง นายสมชาย เมฆีนุรักษ์ กำนันตำบลขุนกระทิง จึงได้สอบถามชาวบ้านที่มาร่วมประชุมว่าจะมีการทำประชาคมหรือไม่ ซึ่งทุกคนต่างยกมือเป็นเสียงเดียวกันว่า ขอเลื่อนการทำประชาคมออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากชาวบ้านมาน้อย และส่วนหนึ่งเดินทางกลับไปแล้ว และต้องการศึกษาเปรียบเทียบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องป่าชุมชน และการสร้างมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ตามมติ ครม.ให้ชัดเจนเสียก่อน