ชุมพร - คนร้ายย่องทุบกระจกประตูห้องทำงานคณะผู้บริหารสถาบันการพลศึกษาชุมพร 6 ห้องรวด กวาดซองกฐินหนีลอยนวล
เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (28 เม.ย.) ร.ต.อ.ดนัย จันทร์กลั่น รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งจาก ผศ.เสนีย์ นิลทจันทร์ รองอธิการบดี สถาบันการพลศึกษาประจำวิทยาเขตชุมพร ว่า มีเหตุคนร้ายพังประตูบุกลักทรัพย์สินภายในห้องทำงานของคณะผู้บริหาร และห้องอาจารย์ประจำคณะ ตั้งอยู่ถนนเอเชีย 41 หมู่ 8 ตำบลขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร จึงไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารคู่ขนานระหว่างอาคารเรียนคณะวิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพกับอาคารสำนักงานรองอธิการบดี ซึ่งเป็นที่ทำการของคณะผู้บริหารสถาบันดังกล่าว จากการตรวจสอบที่ชั้น 2 ห้องทำงานอาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพ ถูกคนร้ายทุบกระจกประตูเปิดเข้าไป และชั้น 3 ห้องสื่อการเรียนการสอน ซึ่งทั้ง 2 ห้องมีร่องรอยงัดลิ้นชัก และรื้อค้นหาสิ่งของกระจายไปทั่ว ส่วนอาคารที่ทำการสำนักงานรองอธิการบดี ห้องหัวหน้าสำนักงานผู้ช่วยรองอธิการบดี ห้องหัวหน้าฝ่ายบุคคล และห้องงานสารบรรณ ที่อยู่ชั้นล่างบริเวณห้องโถงใกล้ประตูทางเข้าถูกทุบกระจกประตูเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สิน ส่วนกล้องวงจรปิดทางตรงจุดประตูทางผ่านเข้า-ออกระหว่างอาคารคู่ขนาดสูงประมาณ 3 เมตร คนร้ายเอาใช้ฝ้าปิดคลุมไว้ทำให้จับภาพคนร้ายไม่ได้ นอกจากนี้ กล้องวงจรปิดตรงเสากลางของห้องโถงซึ่งเป็นจุดสำคัญอยู่ตรงกลางระหว่างห้องสำนักงานรองอธิการบดี และห้องคณะผู้บริหาร ชำรุดถูกช่างถอดออกไปซ่อม
จากการสอบสวนพบว่า ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา มีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน ได้เข้าไปงัดหน้าต่างกระจกบานสวิงห้องเก็บของชั้นล่างอาคารเรียนคณะวิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพ ซึ่งมี 3 ชั้น อาคารนี้ไม่มีกล้องวงจรปิดแล้วคนร้ายได้ขึ้นไปชั้น 2 และชั้น 3 ทุบกระจกประตูห้องทำงานอาจารย์ประจำคณะ และห้องอุปกรณ์สื่อการเรียนการสอน จากนั้นค้นร้ายได้เดินผ่านชั้นลอยข้ามไปยังอาคารสำนักงานรองอธิการบดีซึ่งเป็นที่ทำการของฝ่ายหัวหน้าบริหาร ผู้ช่วยฝ่ายบริหาร ฝ่ายบุคคล และงานสารบรรณ ทุบกระจกประตูเข้าไปรื้อค้นหาทรัพย์สิน จนทรัพย์สินราชการเสียหายหลายรายการ รวม 2 อาคารคนร้ายบุกพังประตูเข้าไปลักทรัพย์สินถึง 6 ห้องด้วยกัน
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะรู้ทางเข้าออก และช่องทางภายในอาคารเป็นอย่างดี เนื่องจากใช้ผ้าปิดกล้องวงจรปิดจนไม่สามารถจับภาพได้ และรู้ว่ากล้องวงจรปิดตรงจุดสำคัญเสียช่างได้ถอดออกไปซ่อมแซม โดยคนร้ายประสงค์เอาแต่เงินสดที่เก็บไว้ในลิ้นชักของผู้บริหารส่วนใหญ่เป็นเหรียญ และธนบัตรฉบับละ 20 บาท รวมทั้งหมดประมาณ 260 บาท และเงินสดในซองกฐินอีก จำนวน 373 บาท ทรัพย์สินราชการถูกทุบทำลายเสียหายกว่า 2 หมื่นบาท ส่วนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โน้ตบุ๊ก และทรัพย์สินอื่นๆ ที่เป็นวัตถุมีค่าคนร้ายไม่ได้แตะต้อง หรือเอาไปแม้แต่ชิ้นเดียว ซึ่งคนร้ายอาจจะเป็นกลุ่มเพื่อนๆ ของคนงานที่เข้ามาก่อสร้างอาคารกีฬา และซ่อมบำรุงอยู่หายจุดภายในสถาบัน และพวกขี้ยาที่ปืนกำแพงรั้วเข้ามา เจ้าหน้าที่จะได้รวบรวมหาพยานหลักฐานจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป