ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จากลูกสุนัขจรจัด ถูกทิ้งในป่าข้างถนน โชคดีนางแบบดัง “ลูกเกด เมทินี” รับเลี้ยงให้ชีวิตใหม่ กลายเป็นสมาชิกตัวน้อยของบ้าน “ชาร์ปเพิลส์”
เมื่อปลายเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย ที่จังหวัดภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านให้ช่วยเหลือสุนัขพันธ์ผสมแม่ลูกที่ถูกทิ้งในป่าข้างถนน ใกล้ห้างซุปเปอร์ชีป ใหญ่ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นสุนัขเพศผู้ สีขาวนวล หลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่จึงให้การช่วยเหลือ และนำกลับมาดูแลที่มูลนิธิ เพื่อหาบ้าน และผู้อุปการะต่อไป
เป็นที่น่าโชคดีที่นางแบบชื่อดัง ลูกเกด เมทินี (กิ่งโพยม) ชาร์ปเพิลส์ และครอบครัว ได้เข้าเยี่ยมมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย (Soi Dog Foundation) ต.ไม้ขาว จ. ภูเก็ต เพื่อขออุปการะสุนัข และการขอรับอุปการะสุนัขในครั้งนี้ น้องสกาย ลูกชายวัย 9 ขวบ ของ “ลูกเกด” นางแบบชื่อดังได้ตัดสินใจเลือกลูกสุนัขสีขาวนวล ที่ถูกทิ้งอยู่ในป่าข้างทางกลับไปเลี้ยง พร้อมกับตั้งชื่อว่า เจ้าเลโก้ ซึ่งตั้งชื่อตามกิจกรรมสุดโปรดของน้องสกาย
หลังจากรับลูกสุนัขกลับไปเลี้ยงที่บ้านได้ไม่นาน เจ้าเลโก้ กลายเป็นคู่ซี้ที่ตัวติดกันทุกวัน ภาพเจ้าเลโก้ สุนัขพันธุ์ผสมสีครีมตัวจิ๋วที่วิ่งเล่นซุกซนไปทั่วอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ได้กลายเป็นสีสันใหม่ของบ้านชาร์ปเพิลส์ไปแล้ว
ลูกเกด เล่าว่า “หลังจากรับอุปการะเจ้าเลโก้ “น้องสกาย” มีความรับผิดชอบมาก ตื่นเช้ามาเขาก็จะไปหา เลโก้ เลย ไปให้อาหาร ก่อนนอนก็จะคอยดูแลจัดที่นอนให้เลโก้ และที่สำคัญจะพากันออกไปเดินที่ทะเลเกือบทุกวัน สกายกับเลโก้ เข้ากันได้ดีมากเลยค่ะ อาจจะเพราะเลโก้เป็นสุนัขตัวแรกที่เขาได้เลือกเอง ก็เลยมีความผูกพันกันเป็นพิเศษ”
สำหรับน้องสกาย เขาได้เลี้ยงสุนัขตั้งแต่เด็กๆ เห็นมาตั้งแต่เกิด ตอนนี้ที่บ้านมีสุนัขทั้งหมด 3 ตัว โดย เลโก้ เป็นสุนัขตัวที่ 3 ของบ้าน เมื่อเลโก้ เข้ามาอยู่ในบ้านก็เหมือนมีเด็กแรกเกิดเลยค่ะ เลโก้ มีแรงเยอะ อยากเล่นตลอดเวลา ทั้งกระโดด ทั้งวิ่ง อยากกัดโน่นกัดนี่ไปหมด และกลายเป็นขวัญใจของคนในบ้านทุกคน
“ลูกเกด กล่าวต่อไปว่า เหตุผลหนึ่งที่เราเลือกรับ เลโก้ มาเลี้ยงเพราะเขามีความคล้ายกับสุนัขอีก 2 ตัวที่บ้าน ดูจากหน้าตาเขาแล้วคิดว่าเขาน่าจะมีส่วนผสมของลาบราดอร์อยู่บ้าง ซึ่งตอนนี้สุนัขที่เลี้ยงอยู่ ตัวหนึ่งกำลังรักษาโรคมะเร็งอยู่ การรับเลโก้มาเลี้ยง นอกจากจะได้ช่วยเหลือสุนัขแล้ว เลโก้ เองก็ยังเข้ามาช่วยในเรื่องจิตใจของเราได้ด้วย”
ลูกเกด ยังกล่าวอีกว่า ตนเองรู้จักมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยมานานแล้ว เพราะรู้จักกับนายจอห์น และนางจิลล์ดัลลีย์ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิฯ ซึ่งรู้สึกประทับใจในการทำงาน และการที่ชาวต่างชาติสนใจอุปการะสุนัขในมูลนิธิฯ หลายๆ ตัว และที่ผ่านทาง มูลนิธิก็เคยบอกกับตนว่า ถ้าวันหนึ่งอยากจะรับเลี้ยงสุนัขเพิ่มให้มารับสุนัขที่มูลนิธิไปเลี้ยง เพราะปัจจุบันยังมีสุนัขที่ถูกทิ้งจำนวนมาก”
และเมื่อต้นเดือนที่ผ่าน และครอบครอบคุยกันว่า จะรับสุนัขมาดูแลเพิ่ม เราก็จะมาที่มูลนิธิ เมื่อไปถึงพบว่า มีสุนัขหลายตัวที่ไม่สามารถเลือกมาเลี้ยงได้ เนื่องจากมีคนจองแล้ว ซึ่งมีหลายตัวมากที่รอที่จะไปอังกฤษ และแคนาดา ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีแม้แต่ชาวต่างชาติยังให้ความสนใจมารับเลี้ยงสุนัขในเมืองไทยเราเลย เพราะฉะนั้นคนไทยเราเองทำไมไม่หันมาลองอุปการะสุนัขกันดูบ้าง
สำหรับ “เลโก้” พบว่า เป็นลูกสุนัขที่ทางมูลนิธิรับมาจากป่าข้างทางเพียงแค่ 9 วัน ซึ่งเป็นลูกสุนัขตัวเล็กๆ สีขาว ตน และครอบครัวเห็นแล้วรัก จึงรับกลับมาอุปการะที่บ้าน และตั้งใจจะเลี้ยงให้ดีที่สุด และตนอยากฝากถึงผู้ที่ต้องการซื้อ หรืออุปการะสุนัข ว่า การเลี้ยงสุนัขนั้นต้องอาศัยความรับผิดชอบในระยะยาว จึงอยากให้ใคร่ครวญให้มั่นใจก่อนที่จะเลี้ยง
ขอให้คิดเสมอว่า สุนัขก็มีชีวิต มีความรู้สึก ไม่ใช่ว่าพอเขาโตแล้ว หรือเบื่อแล้วก็เอาเขาไปทิ้งหรือไปปล่อยวัด เค้าก็จะกลายเป็นสุนัขจรจัด เพราะฉะนั้น ก่อนจะเลี้ยงสุนัข หรือแมวจะต้องตัดสินใจ และคิดดีๆ ก่อนว่าเขาจะอยู่กับเรา อาจจะเป็นสิบปี เราจะสามารถเลี้ยงเขาได้ไหม เราจะมีเวลาไหม แล้วค่อยตัดสินใจ เพราะถ้าเลี้ยงแล้วเลี้ยงไม่ได้ และนำไปปล่อยทิ้ง สุนัขเหล่านี้ก็จะกลายเป็นสุนัขจรจัด และสร้างปัญหาให้สังคมต่อไป