xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มโพสต์คลิป! แค่ยืนพิงรถถูกรุมซ้อมเกือบตาย อ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - แชร์สนั่นกันอีกแล้ว หลังหนุ่มโพสต์ภาพ และคลิปวิดีโอผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุ แค่ยืนพิงรถถูกซ้อมเกือบตาย 10 รุม 1 อ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ขณะเข้าแจ้งความตำรวจให้ไปหาหลักฐานก่อน

แชร์กันสนั่นอีกแล้ว หลังหนุ่มโพสต์ภาพ และคลิปวิดีโอผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ กิตติพันธ์ กลมพันธ์ แล แชร์ยังเพจดัง เสียงประชาชนคนภูเก็ต โดยมีภาพผู้ชายมีอาการบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้า กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง พร้อมความระบุว่า #แค่พิงรถซ้อมพี่ชายผมเกือบตาย ขอเรียกร้องความเป็นธรรม และไม่อยากให้เรื่องนี้เงียบ

ผมขออธิบาย เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ม.ค.2561 เวลาประมาณ 1.30 น. หน้าผับแห่งหนึ่งย่านกลางเมืองภูเก็ต ติดสะพานตลิ่งชัน พี่ชาย นายวิชัย ได้ไปยืนคุยโทรศัพท์หน้ารถกระบะ 4 ประตูคันหนึ่ง แล้วเผลอไปพิงหน้ารถ ทำให้สัญญาณกันขโมยดังขึ้น เจ้าของรถคนนั้นไม่พอใจ จึงเดินมาต่อว่าพี่ชายผมว่า อย่ามาพิงรถกู ทางพี่ชายผมได้กล่าวขอโทษ แต่เจ้าของรถไม่พอใจ จึงมีปากเสียงกัน

จากคำบอกเล่าของพี่ชาย บอกว่า เจ้าของรถเป็นคนชกต่อยก่อน แต่เสียเปรียบทางรูปร่างจึงล้มลง เมื่อสู้ไม่ได้จึงร้องเรียกกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 10 คน มาช่วย พี่ชายผมเห็นท่าไม่ดีจึงวิ่งหนี กลุ่มชายฉกรรจ์ก็วิ่งไล่ทำร้ายโดยการจับขาจับแขน กระทืบต่อหน้าประชาชนซึ่งมาเที่ยว แต่ไม่มีใครกล้าเขาห้าม

พี่ชายผมคนเดียวโดนรุมทำให้ฟันหลุด 3 ซี่ ดั้งจมูกหัก ขอบดวงตา 20 เข็ม ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถมองเห็นเป็นปกติ จึงขอความเป็นธรรมให้แก่ นายวิชัย ที่ตอนนี้ยังจับผู้กระทำผิดไม่ได้ หรือไม่อยากจับก็ไม่ทราบแน่ชัด และหากมีความผิดจริงหวังว่าคงจะไม่ใช่รับโทษแค่ย้ายออกนอกพื้นที่นะครับ

อย่างไรก็ตาม หลังมีการโพสต์ภาพดังกล่าวออกไป ปรากฏว่า เพียงชั่วข้ามคืนมีผู้เข้าแสดงความคิดเห็น และกดถูกใจจำนวนมาก รวมทั้งเพจดังต่างๆ ก็นำไปโพสต์ต่อ จนกลายเป็นกระแสสังคม ทางผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามไปยังผู้ที่โพสต์ข้อความ และภาพดังกล่าว คือ นายกิตติพันธ์ กลมพันธ์ น้องชายของผู้บาดเจ็บ

นายกิตติพันธ์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุพี่ชายของตน คือ นายวิชัย กลมพันธ์ อายุ 35 ปี ทำงานสายส่งของหนังสือพิมพ์แห่งหนึ่ง ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนให้ขับรถไปรับเนื่องจากเพื่อนที่ไปเที่ยวสถานบันเทิงใกล้ที่เกิดเหตุเมา หลังรับโทรศัพท์ก็เดินทางไปหาเพื่อนที่สถานบันเทิง เมื่อเข้าไปนั่งได้สั่งพักก็มีคนโทร.เข้ามาที่มือถือของพี่ชาย จึงเดินออกไปคุยโทรศัพท์ด้านนอน และไปยืนพิงรถกระบะคันหนึ่งโดยไม่ทราบว่าเป็นของใคร ขณะที่กำลังยืนพิงรถเสียงสัญญาณกันขโมยก็ดังขึ้น

ต่อมา เจ้าของรถก็เดินมาที่รถ และมีการต่อว่า ว่าไปทำอะไรที่รถ ซึ่งพี่ชายของตนก็พยายามที่จะขอโทษ ซึ่งตอนนั้นมีเจ้าของรถเดินออกมาคนเดียว ต่อมา ก็มีปากเสียงกันจนถึงขั้นทำร้ายร่างกายกัน แต่เจ้าของรถซึ่งตัวเล็กกว่าสู้ไม่ได้ ต่อมา มีชายฉกรรจ์จำนวนหนึ่งกรูกันออกมาจากสถานบันเทิง เมื่อพี่ชายตนเห็นก็พยายามวิ่งหนี กลุ่มชายฉกรรจ์ก็วิ่งไล่ตามซึ่งในช่วงดังกล่าวมีภาพในกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้ แต่ก็มีการไล่กันไปจนพ้นรัศมีกล้องวงจรปิด และพี่ชายตนถูกคนนับสิบคนรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ท่ามกลางสายตาของประชาชนที่เห็นเหตุการณ์

หลังจากที่พี่ชายตนถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ก็มีคนเข้าไปห้าม และเรียกรถมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ให้นำตัวไปส่งโรงพยาบาล เมื่อไปถึงโรงพยาบาล พบว่า คู่กรณีที่เป็นเจ้าของรถก็เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่จึงประสานไปยังเจ้าหน้าตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ให้เข้ามาดูแล เพราะทั้ง 2 ฝ่าย มาโรงพยาบาลเดียวกัน กลัวว่าจะมีเรื่องกันอีก เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายมีพรรคพวกตามมาดูด้วย และทราบว่า กลุ่มที่ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานราชการหน่วยหนึ่ง

นายกิตติพันธ์ ยังได้กล่าวต่อไปว่า หลังเกิดเหตุประมาณ 2 วัน เมื่อพี่ชายตนรู้สึกตัว ตนจึงไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่งกลับบอกให้ตนกลับไปหาหลักฐานมาก่อน ขณะที่ในส่วนของฝ่ายคู่กรณีทราบว่า มีการแจ้งความดำเนินคดีต่อพี่ชายตน ในขณะที่ตนจะไปแจ้งความกรณีพี่ชายถูกทำร้าย กลับต้องไปหาพยานหลักฐานมาก่อน

ส่วนเรื่องของความรับผิดชอบจากกลุ่มที่รุมทำร้ายพี่ชายตนนั้นยังไม่ได้รับการติดต่อแต่อย่างใด ซึ่งอาการของพี่ชายถือว่าหนัก แต่ขอออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปรักษาตัวต่อที่บ้านเนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย

นายกิตติพันธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ (10 ม.ค.) ได้รับการประสานจากเจ้านายของกลุ่มผู้ก่อเหตุขอให้ตนลบคลิป และภาพ รวมทั้งข้อความออกจากเฟซบุ๊ก และขอนัดเจรจากันวันนี้ ซึ่งตนก็ยังไม่ทราบว่าจะมีการเจรจากันเรื่องอะไร นอกจากนั้น วันนี้ตนจะไปแจ้งความดำเนินดีอีกครั้ง


กำลังโหลดความคิดเห็น