อ่างทอง - ลูกชาย นายก อบต.ย่านซื่อ ถูกวัยรุ่นคู่อริขี่ จยย.ไล่ยิงกลางกลางเมืองอ่างทอง เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ด้านเพื่อนผู้บาดเจ็บเผยผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มคู่อริที่เคยมีเรื่องผิดใจกันมาก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 02.00 น. วันนี้ (16 พ.ค.) ร.ต.ท.คุณภัทร ผิวบัวคำ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง ได้รับแจ้งเหตุวัยรุ่นไล่ยิงกันจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณเชิงสะพานอ่างทอง หน้าคลินิกหมอสมพงษ์ฝั่งตลาด ตำบลตลาดหลวง อำเภอเมืองอ่างทอง หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองอ่างทอง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย
ในที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส 1 ราย กำลังนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดอยู่บนถนน ทราบชื่อคือ นายชนิษร หรือปอนด์ พิทักษ์เขต อายุ 17 ปี บุตรชายของ นายชัยวัฒน์ พิทักษ์เขต นายกองค์การบริหารส่วนตำบลย่านซื่อ ซึ่งถูกอาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงเข้าที่สะโพกขวากระสุนฝังใน ขาด้านขวาหัก ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซูเปอร์คับ สีครีม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนล้มคว่ำอยู่ บนพื้นถนนยังพบเศษวัตถุระเบิดแบบไทยประดิษฐ์ตกอยู่กระจัดกระจาย เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาลอ่างทอง
จากการสอบสวน นายฮาริม หรือริม ปาทาน อายุ 19 ปี เพื่อนที่มาด้วยกันทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ได้รับบาดเจ็บได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพร้อมตน และกลุ่มเพื่อนรวม 5 คัน เมื่อขี่รถจักรยานยนต์มาถึงหน้า บขส.อ่างทอง ได้มีกลุ่มวัยรุ่นคู่อริใช้รถจักรยานยนต์ 3 คัน ไล่ประกบรถจักรยานยนต์ของกลุ่มตนจนหนีมาถึงเชิงสะพานอ่างทอง จึงได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด พร้อมกับเสียงระเบิด จากนั้นจึงทราบว่า นายปอนด์ ถูกยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนคู่อริได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปในความมืด
ร.ต.ท.คุณภัทร กล่าวว่า จากการสอบสวนพ่อ และเพื่อนของผู้ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้น คาดว่าแก๊งที่ไล่ทำร้ายน่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นคู่อริที่เข้าใจว่า นายชนิษร หรือปอนด์ ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าจับกุมในข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง จึงเกิดความแค้น เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้หาเบาะแสพร้อมติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาสอบสวนขยายผล ส่วนระเบิดแบบไทยประดิษฐ์ที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ยังไม่ทราบว่าเป็นของใคร เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจหาลายนิ้วมือ
โดยจะเร่งติดตามตัวผู้ต้องสงสัย และพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุมาสอบสวน พร้อมทั้งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อหาตัวกลุ่มผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนขยายผล ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป