กาฬสินธุ์ - สองสามีภรรยาบุกร้องศูนย์ดำรงธรรม เชื่อลูกชายถูกกลุ่มวัยรุ่นไล่ทำร้ายก่อนขี่จักรยานยนต์ชนกำแพงเสียชีวิต ขณะที่ผู้ว่าฯ-ผู้การกาฬสินธุ์รับเรื่องเอง สั่งเร่งตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (1 พ.ค.) นายสิทธิพงษ์ จันทร์ประสิทธิ์ อายุ 45 ปี และนางชิน จันทร์ประสิทธิ์ อายุ 46 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 231 ม.1 ต.หนองแวง อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ เข้าร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ เพื่อขอความเป็นธรรม เนื่องจากเชื่อว่านายประชารักษ์ จันทร์ประสิทธิ์ อายุ 16 ปี ลูกชาย ถูกทำร้ายร่างกายก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกำแพงจนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา
โดยมีนายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ น.ส.ชุลีพร สมศรี ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ นายไชยา เครือหงส์ หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ นายวิชาญ แท่นหิน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ รับเรื่อง พร้อมยืนยันให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย
นายสิทธิพงษ์ จันทร์ประสิทธิ์ เล่าว่า เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 60 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 01.00 น. นายประชารักษ์ จันทร์ประสิทธิ์ ลูกชายเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกำแพงบนถนนสายกาฬสินธุ์-สมเด็จ บริเวณข้างร้านคูโบต้า หน้าบ้านเลขที่ 97 ม.9 ต.สมเด็จ อ.สมเด็จ ซึ่งในวันเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สมเด็จ เจ้าหน้าที่กู้ภัย และแพทย์มาร่วมกันชันสูตรศพ โดยบอกว่ามีแผลถลอกที่ศีรษะและลงความเห็นว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากศีรษะกระแทกกำแพงอย่างแรงและคอหัก
นายสิทธิพงษ์กล่าวต่อว่า จากนั้นทางญาติจึงนำศพกลับมาเพื่อฌาปนกิจตามประเพณีเนื่องจากเข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่ก่อนที่จะทำการฌาปนกิจกลับเห็นบาดแผลคล้ายรอยถูกของมีคมฟันที่บริเวณโหนกแก้มซ้าย และบาดแผลฉกรรจ์ที่ท้ายทอย ประกอบกับเพื่อนของลูกชายที่ไปด้วยกันมาบอกว่าก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 23.00 น. ลูกชาย พร้อมเพื่อนรวม 4 คน ขี่รถจักรยานยนต์ 4 คันไปเล่นที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.ก่อนถึง อ.สมเด็จ
ระหว่างนั่งคุยกันมีกลุ่มวัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาพร้อมกับชี้หน้า กลุ่มของลูกชายจึงพากันขี่รถจักรยานยนต์หนีไปคนละทิศละทางเพราะเกรงว่าจะถูกทำร้าย และวัยรุ่นอีกกลุ่มนั้นก็ขี่จักรยานยนต์ตามไล่ ก่อนที่จะมาพบว่าลูกชายกลายเป็นศพในตอนเช้าในสภาพรถจักรยานยนต์ชนกำแพงเสียชีวิต
นายสิทธิพงษ์กล่าวว่า เท่าที่สอบถามเหตุการณ์จากเพื่อนลูกชาย รวมทั้งบาดแผลบริเวณโหนกแก้มและท้ายทอย อีกทั้งยังมีคนเห็นเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นไล่ทำร้ายกัน ประกอบกับก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 22.00 น.ก็มีคนไปแจ้งความต่อตำรวจว่ากลุ่มลูกชายตนได้ปาแก้วใส่กลุ่มวัยรุ่นที่บริเวณหน้าโรงเรียนสมเด็จวิทยาคม จึงทำให้ครอบครัวและญาติเชื่อได้ว่านายประชารักษ์ ลูกชาย อาจจะถูกกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวไล่ทำร้ายก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ หรือถูกถีบรถจักรยานยนต์จนทำให้เกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิต
ดังนั้นจึงต้องการให้ตำรวจมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งหากลูกชายถูกทำร้ายก่อนเกิดอุบัติเหตุจริงก็ให้ติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องร้องทุกข์ไว้แล้ว ซึ่งทางผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ก็ได้กำชับให้เร่งดำเนินการ และให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย ดังนั้นจึงได้สอบถามไปยัง สภ.สมเด็จทราบว่าวันเกิดเหตุตำรวจได้รับแจ้งว่ามีการเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกำแพงเสียชีวิต ซึ่งจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ในสภาพล้อหน้าเบี้ยว โช้กงอ ชนกับกำแพงจริง
ส่วนสภาพศพจากการตรวจสอบของแพทย์พบว่าศีรษะชนกับกำแพงอย่างแรงจนคอหักทำให้เสียชีวิต และมีเส้นผมติดอยู่ที่กำแพง ทั้งนี้ หากผู้ปกครองติดใจกับการเสียชีวิต โดยบอกว่าพบบาดแผลที่โหนกแก้มและท้ายทอย และเชื่อว่าจะถูกทำร้ายก่อนเกิดอุบัติเหตุนั้น ทางตำรวจก็จะทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมกับประสานไปยังแพทย์ เจ้าหน้าที่กู้ภัย ว่าขณะตรวจสอบที่เกิดเหตุพบบาดแผลตามที่ผู้ปกครองบอก หรือมีใครถ่ายภาพไว้หรือไม่ เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นผ่านมานานแล้ว
จึงเข้ามาร้องทุกข์ แพทย์ชันสูตรก็ไม่พบบาดแผลตามที่ผู้ปกครองบอก อีกทั้งศพก็ได้ทำการฌาปนกิจไปแล้ว แต่ยืนยันว่าตำรวจจะต้องทำให้เกิดความกระจ่างชัดและให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน
