ชุมพร - พ่อแม่ “เก่ง” มือลั่นไกฆ่าว่าที่เจ้าสาว เดินทางจากบุรีรัมย์เยี่ยมลูกที่ สภ.สลุย ยันทอง 10 บาท สินสอดแต่งงานลูกชายกู้มาเอง 1 ล้านบาท สมุดธนาคาร เอทีเอ็มฝ่ายหญิงยึดไว้ทั้งหมด ยันส่งเสียลูกเรียนเอง สอบเข้าทำงานเอง ไม่ใช่ฝ่ายหญิงส่งเสีย ยอมรับลูกชายคิดสั้น มีอะไรไม่พูด ถ้าปรึกษาพ่อแม่คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ ;
จากกรณี นายรณชัย ปานชาติ หรือ “เก่ง” อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าอำเภอหลังสวน จ.ชุมพร ว่าที่เจ้าบ่าว สวมหมวกไอ้โม่งไหมพรมอำพรางใช้ปืนลูกซองสั้นบุกยิง น.ส.นนทิญา ครัวจัตุรัส หรือ “หมอปอ” อายุ 25 ปี เจ้าพนักงานทันตสาธารณสุข รพ.สต.สลุย ว่าที่เจ้าสาวที่จะแต่งงานกันในอีก 5 วัน ตายภายในห้องนอนชั้น 2 บ้านพักข้าราชการ ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เมื่อกลางดึกวันจันทร์ที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ลงมือก่อเหตุได้ และทำให้ทราบสาเหตุการฆาตกรรมในครั้งนี้ว่า ไม่อยากแต่งงาน เนื่องจากมีกิ๊กคนใหม่อยู่ทำงานอยู่ที่เดียวกัน ตามข่าวที่เสนอนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 .น.วันนี้ (21 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า นางยุพเยาว์ อายุ 51 ปี และนายวินัย ปานชาติ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 หมู่ 1 ตำบลโคกม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ พ่อ และแม่ของ นายรณชัย ปานชาติ ได้เดินทางมาเยี่ยมลูกชายที่ถูกคุมขังอยู่บน สภ.สลุย
นางยุพเยาว์ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นต่างก็เสียใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย ส่วนสาเหตุมาจากเรื่องใดตนไม่รู้ แต่ยอมรับว่า ลูกชายตนคิดสั้นเกินไป ทำให้เกิดความสูญเสียเกิดขึ้น เพราะลูกชายตนเป็นคนไม่พูด เป็นคนนิ่ง และเป็นคนซื่อ ปัญหานี้ถ้าลูกชายเข้ามาพูด หรือปรึกษากับตน เหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน เพราะเขาจะเชื่อฟังพ่อแม่
“ข่าวที่ออกไปฝ่ายดิฉันได้รับความเสียหายอย่างมาก ว่าฝ่ายหญิงเป็นคนส่งเสียช่วยเหลือลูกของดิฉันนั้นไม่เป็นความจริง แม้ครอบครัวจะมีฐานะยากจน แต่เราก็ทำงานส่งเสียให้ลูกเรียนจนจบ และสอบเขาทำงานได้ด้วยตัวเอง”
ส่วนทอง สินสอดทองหมั้นก็เป็นเงินของเก่งลูกชายตน ซึ่งได้ไปกู้ธนาคารออมสิน จำนวน 4 แสนบาท ซื้อทองคำหนัก 10 บาท ซึ่งส่วนหนึ่งไม่เกิน 5 หมื่น นำไปใช้กับงานบวชของตัวเอง และก่อนจะแต่งงานในปีนี้ก็ไปกู้เงินสวัสดิการจากการฟ้าภูมิภาคมาอีก 6 แสน เพื่อนำไปใช้ในงานแต่งงาน รวมทั้ง 2 ครั้ง ลูกชายตนกู้เงินมา 1 ล้าน ทุกอย่างมีหลักฐานการกู้ และยังชดใช้ไม่หมด
โดย ลูกชายตน บอกว่า สมุดบัญชีธนาคาร บัตรเอทีเอ็ม เงินทั้งหมดจะให้น้องปอ เป็นคนเก็บไว้และเป็นผู้จัดการดูแลเรื่องเงินเองทั้งหมด แต่ช่วงหลังรู้ว่า ทั้งสองคนมักจะมีปากเสียงทะเลาะกันบ่อย เพราะลูกชายบอกว่าฝ่ายหญิงเป็นคนขี้หึงมาก
ด้าน นายวินัย ปานชาติ ผู้เป็นพ่อกล่าวว่า ตนเดินทางมาจาก จ.บุรีรัมย์ ระยะทางกว่า 800 กิโลเมตร เพื่อมาเยี่ยมลูกชาย และขอความเป็นธรรมจากสื่อมวลชนด้วย หลังตกเป็นข่าวทำให้เสียหาย ถูกประณามจากประชาชน ทั้งที่เป็นข้อมูลเพียงด้านเดียว ที่ผ่านมา น้องปอ ก็ไปๆ มาๆ คุ้นเคยกับครอบครัวตนมาตลอด บางครั้งก็มานอนอยู่ที่บ้านตนเป็นเดือน ตนเองก็รักเหมือนลูก
“ส่วนเรื่องเงินเรื่องทองที่ฝ่ายพ่อแม่ ญาติพี่น้องของ น้องปอ เข้าใจนั้น ผมเข้าใจว่าบางเรื่องน้องปอ ไม่ได้บอกให้ใครรู้ จึงทำให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้นมา ส่วนเรื่องงานศพน้องปอ ครอบครัวผมคงไม่กล้าไปเพราะฝ่ายผู้ตายยังมีความโกรธอยู่ และไม่ขอประกันตัวลูกชายเพราะผมมีหลักทรัพย์ไม่เพียงพอ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางยุพเยาว์ และนายวินัย ได้เข้าเยี่ยมนายรณชัย ลูกชายที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขังบนโรงพักใช้เวลาประมาณ 10 นาที เมื่อทั้งสองฝ่ายเจอหน้ากันถึงกับร้องไห้น้ำตาคลอ และสอบถามเรื่องราวปัญหาต่างๆ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวเขาไปยังห้องสอบสวนเพื่อขอรายละเอียด และประวัติส่วนตัวของผู้ต้องหา เพื่อเป็นข้อมูลประกอบคดีดังกล่าว และในวันที่ 22 ธ.ค.ทางตำรวจจำนำตัว นายรณชัย ผู้ต้องหาไปไปขออำนาจศาลฝากขังระหว่างดำเนินคดีต่อไป
