ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ถึงกับออกหน้าร่อนจดหมายเชิญสื่อมวลชนมาทำข่าวกลุ่มชาวบ้านที่อ้างว่าสนับสนุนโรงไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่งจะไปยื่นหนังสือ ณ ที่ว่าการอำเภอเทพา ขณะที่ชาวบ้านฝ่ายคัดค้านโครงการกลับโดนกดดันจากเจ้าหน้าที่รัฐตลอดการเคลื่อนไหวคัดค้านโครงการ
วันนี้ (27 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ชาวบ้านซึ่งได้รับความเดือดร้อน และผลกระทบจากโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินที่จะมาสร้างใน อ.เทพา จ.สงขลา ซึ่งชาวบ้านกลุ่มนี้ได้ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านโครงการอย่างต่อเนื่อง
เพราะผลกระทบหนักสุดคือ ชาวบ้านกว่า 1,000 คน จะต้องถูกย้ายออกจากชุมชนดั้งเดิมที่อยู่อาศัยมาหลายชั่วคน จึงรวมตัวกันเดินเท้าจาก อ.เทพา เพื่อไปยื่นหนังสือต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมาประชุม ครม.สัญจร ที่ จ.สงขลา ในวันที่ 28 พ.ย.นี้
โดยขณะนี้ ชาวบ้านกลุ่มคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา เดินเท้าเข้าสู่พื้นที่ อ.เมืองสงขลา แล้ว โดยมีรายงานว่า ตลอดการเคลื่อนไหวคัดค้านโครงการที่ผ่านมา ถูกข่มขู่คุกคามทั้งจากเจ้าหน้าที่รัฐ และบุคคลที่ทำงานให้แก่ฝ่ายสนับสนุนโครงการมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด คืนที่ผ่านมา มีตำรวจมาห้ามไม่ให้พักค้างคืนที่มัสยิดแห่งหนึ่ง ทั้งที่อิหม่ามประจำมัสยิดยินยอมให้ชาวบ้านพักค้างแรมได้
ขณะเดียวกัน พบว่า ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภ.4 สน.) ได้ออกหนังสือเชิญสื่อมวลชน จ.สงขลา ให้ไปทำข่าวกลุ่มสนับสนุนโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ซึ่งจะไปยื่นหนังสือที่ที่ว่าการอำเภอเทพา
โดยในจดหมายเชิญสื่อมวลชนมีรายละเอียดว่า “เรียนสื่อมวลชนใน จ.สงขลา เนื่องด้วยประชาชนในพื้นที่อำเภอเทพา และพื้นที่ใกล้เคียง รวมกลุ่มกันเพื่อสนับสนุนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเทพา จังหวัดสงขลา ในวันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2560 เวลา 10.30 นาฬิกา ในการนี้ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า จึงขอความร่วมมือจากท่านร่วมติดตามทำข่าวประชาสัมพันธ์ตามวัน และเวลาดังกล่าว”
นายบรรจง นะแส ที่ปรึกษาคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ (กป.อพช.ใต้) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ที่ผ่านมา หลายสิบปีภาครัฐไม่เคยเห็นใจชาวบ้านผู้ที่จะต้องได้รับผลกระทบหนักหนาสาหัสจากโครงการใหญ่ๆ ตรงกันข้ามกลับพยายามขัดขวางการแสดงออกตามกฎหมายของชาวบ้านมาโดยตลอด ชาวบ้านกลุ่มที่เห็นต่างกับรัฐถูกข่มขู่คุกคามสารพัดจากคนของการไฟฟ้า และมาถูกทำแบบเดียวกันอีกจากเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งควรจะวางตัวเป็นกลาง
“แต่นี่หน่วยงานที่ดูแลความมั่นคงของประเทศชาติ กลับทำตัวเป็นเหมือนกับเป็นทาสพ่อค้านายทุนถ่านหินที่จะมาสร้างโรงไฟฟ้า เริ่มโครงการด้วยการไล่ชาวบ้านออกไปจากที่อยู่อาศัย พอชาวบ้านเดือดร้อนจะไปร้องเรียนนายกฯ ก็ถูกขัดขวางข่มขู่คุกคามมาตลอด แต่ขณะเดียวกัน กลับพบว่า กอ.รมน.มีการสนับสนุนโครงการอย่างออกนอกหน้าเสมือนทำงานให้แก่บริษัทเอกชนที่ผลักดันโรงไฟฟ้าถ่านหิน อยากรู้เหมือนกันว่าท่านรับเงินเดือนจากใคร จากเงินภาษีประชาชน หรือจากบริษัทที่จะสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน เพราะท่านควรจะวางตัวเป็นกลางแต่กลับทำตัวให้ประชาชนไม่เคารพศรัทธา นี่เป็นอีกมิติหนึ่งในความไม่ชอบธรรมของโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินที่จะมาสร้างใน อ.เทพา” นายบรรจง กล่าว