อย่ายัดเยียด! ชายแต่งตัวคล้ายตำรวจตระเวนขายบัตรคอนเสิร์ตทั่วภูเก็ต ซื้อแล้วรู้สึกอึดอัดคืนได้

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กลุ่มบุคคลแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาเสนอขายบัตรกิจกรรมดนตรี คัมภีร์แผ่นดิน ให้กลุ่มผู้ประกอบการพื้นที่ฉลอง ชาวบ้านอึดอัดถูกยัดเยียดให้ซื้อ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ผกก.ฉลอง ระบุ สามารถคืนได้หากรู้สึกอึดอัดที่ถูกยัดเยียดให้ซื้อ

เมื่อเวลา 00.30 น. วันนี้ (16 พ.ย.) ศูนย์วิทยุ สภ.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต รับแจ้งจากผู้ประกอบการบันเทิง บาร์เบียร์ ริมอ่าวฉลอง ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่า มีกลุ่มบุคคลแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาเสนอขายบัตรกิจกรรมดนตรี “คัมภีร์แผ่นดิน” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 24 ธันวาคม 2560 ที่ห้องพระพิทักษ์แกรนด์บอลรูม ชั้น 3 โรงแรมเมโทรโพลภูเก็ต ขอให้เจ้าหน้าที่ตำตรวจเข้าไปตรวจสอบด้วย

จากนั้น พ.ต.ท.สุธรรม รัตนสว่างวงศ์ รอง ผกก.ป.สภ.ฉลอง พร้อมด้วย ร.ต.อ.อนันตชัย ปิยะปานันท์ รอง สวป.สภ.ฉลอง เดินทางไปตรวจสอบบุคคลกลุ่มดังกล่าว บอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่มาจากชมรมเพื่อนตำรวจช่วยเพื่อนตำรวจ และยังอ้างว่า ได้รับการอนุญาตขายบัตรจากผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฉลองแล้ว เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อไปยัง พ.ต.อ.ประชุม เรืองทอง ผกก.สภ.ฉลอง เพื่อสอบถามว่าสิ่งที่บุคคลดังกล่าวกล่าวอ้างนั้นจริงหรือไม่ ทางผู้กำกับการ สภ.ฉลอง บอกว่าไม่เคยอนุญาตให้ชมรมดังกล่าวมาดำเนินการแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวกลุ่มบุคคลดังกล่าวมาที่ สภ.ฉลอง พร้อมทั้งเชิญผู้ประกอบการที่ได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำดังกล่าวมาทำความเข้าใจกันที่ สภ.ฉลอง เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายมาถึง สภ.ฉลอง ก็มีการโต้เถียงกันอย่างดุเดือดหวิดบานปลาย แต่สุดท้ายทั้ง 2 ฝ่ายตกลงกันได้ และแยกย้ายกันในที่สุด

พ.ต.อ.ประชุม เรืองทอง ผกก.สภ.ฉลอง กล่าวว่า หลังจากที่ตำรวจได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ว่า มีกลุ่มบุคคลแต่งกายลักษณะคล้ายตำรวจ มีโลโก้คล้ายตำรวจสีเลือดหมูน้ำตาล สวมเสื้อสีดำ บางคนอ้างว่าเป็นตำรวจ บางครั้งก็บอกว่ามาจากชมรมเพื่อนช่วยเพื่อนตำรวจแห่งชาติ นำบัตรแสดงคอนเสิร์ตมาขาย ซึ่งผู้ประกอบการรู้สึกไม่สบายใจเนื่องจากถูกยัดเยียดให้ซื้อ สร้างความอึดอัดให้แก่ผู้ประกอบการ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญตัวมาตรวจสอบ มาถึงเขาอ้างว่าเป็นสมาชิกของชมรมเพื่อนตำรวจช่วยเพื่อนตำรวจแห่งชาติ ต้องการจำหน่ายบัตรเพื่อการกุศลเพื่อช่วยตำรวจ ตนได้ตรวจสอบแล้ว พบว่า มีบัตรมาจากชมรมดังกล่าวจริง แต่ลักษณะการเสนอขายบัตรของกลุ่มดังกล่าวอาจจะมีการปัญหาไปรบเร้า ยัดเยียด สร้างความอึดอัดให้ประชาชน ซึ่งในพื้นที่ภูเก็ตขณะนี้อ่อนไหวเรื่องภาพลักษณ์ของตำรวจเพราะว่ามีบุคคลแต่งเครื่องแบบ หรือลักษณะเครื่องหมายคล้ายตำรวจ สร้างความเสื่อมเสียแก่วงการตำรวจได้

“เมื่อผู้ประกอบการเขาเดือดร้อนก็มาที่โรงพักด้วยกลุ่มนี้จะต้องปรับเปลี่ยนวิธีต้องการนำเสนออย่ารบเร้า อย่างสร้างความอึดอัด เมื่อผู้ประกอบการมาคืนบัตร เพราะซื้อบัตรไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ บางทีเข้าใจผิดว่าเป็นของตำรวจ หากผู้ประกอบการรายใดรู้สึกว่าซื้อเพราะอึดอัดใจอยากจะคืนขอเชิญมาแจ้งที่โรงพักได้ ก็จะมีการรวบรวมยอดบัตรทั้งหมดแล้วลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจะรายงานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ให้ทราบต่อไป และย้ำว่า ในการดำเนินการนี้ตำรวจภูเก็ตไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด”

ด้าน นายเฉลิม กอบธัญการณ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.8 ต.ฉลอง กล่าวว่า ได้รับร้องเรียนจากผู้ประกอบการ 2 วันติดต่อกัน ว่า มีกลุ่มบุคคลแต่งตัวคล้ายกับตำรวจมาเสนอขายบัตรคอนเสิร์ตอ้าง บัตรใบละ 2,000 บาท ซึ่งวันนี้กลุ่มที่แต่งตัวคล้ายตำรวจมาเดินขายบัตรแก่ผู้ประกอบการสถานบันเทิงในตำบลฉลอง บังเอิญเจอกับตน ซึ่งหากประชาชนทั่วไปเห็นเขาก็มองว่ากลุ่มนี้คือตำรวจ เพราะแต่งตัวคล้ายตำรวจมาก ตนจึงสอบถามเขาบอกว่า มาจากชมรมเพื่อนช่วยเพื่อนตำรวจแห่งชาติ นำบัตรคอนเสิร์ตมาขายเพื่อช่วยเหลือตำรวจ ตนก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จึงได้ประสานตำรวจ สภ.ฉลอง นำตัวมาตรวจสอบ ซึ่งรูปแบบการนำเสนอขายบัตรของกลุ่มดังกล่าวเป็นการยัดเยียดการขาย จะตื๊อให้ผู้ประกอบการ เช่น คาราโอเกะ ผับ บาร์ ให้ซื้อบัตร หากมาวันแรกผู้ประกอบการไม่ซื้อก็จะเปลี่ยนให้คนอื่นมาขายในร้านเดินอีก เมื่อผู้ประกอบการรำคาญประกอบกับคิดว่าเขาเป็นตำรวจ จึงซื้อบัตรเพราะเกรงใจ บางรายร้านค้าขายไม่ได้ ไม่มีลูกค้า ขอต่อรองจากใบละ 2,000 บาท จะซื้อราคาใบละ 500 บาท กลุ่มดังกล่าวก็จะไม่ยอม จะอ้างว่าผู้การสั่งมา พฤติกรรมเหล่านี้ที่ประชาชนสงสัยจึงมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ

ด้าน น.ส.รุ่งทิวา ชัยกิม อายุ 45 ปี เจ้าของร้านแองเจิ้ลบาร์ กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา มีกลุ่มดังกล่าวแต่งกายคล้ายตำรวจได้เดินไปที่ร้านแล้วสอบถามหาเจ้าของร้าน พนักงานในร้านบอกว่าตนนอนอยู่ที่ร้านเสริมสวยซึ่งอยู่ติดกับร้านตน จากนั้นผู้ชาย ผู้หญิงแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็เดินไปเปิดประตูร้านเสริมสวยบุกเข้าไปหาตน พูดจาลักษณะหว่านล้อมให้ตนซื้อบัตรคอนเสิร์ตดังกล่าว จำนวน 2 ใบ แต่ตนไม่ยอมซื้อ และรู้สึกรำคาญ ตนถึงทำทีเข้าห้องน้ำ เขาก็ยังรอให้ตนออกมา เมื่อเขารู้ว่าตนไม่ยอมซื้อ ผู้หญิงเขาก็พูดโวยวาย จนกระทั่งมีการเรียกให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบดังกล่าว