พังงา - เจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำตัวแม่ และเด็กหญิง 15 ปี คดีรุมโทรมข่มขืนเข้าพบแพทย์จิตเวชตรวจอาการและรับยา หลังมีอาการเคลียดกับปัญหาที่เกิดขึ้น ขณะที่ชาวบ้านเกาะแรดต้องการให้สอบสวนพ่อเลี้ยงเด็กและอย่าโยนบาปมาให้ชาวบ้าน
วันนี้ (7 ก.ย.) ที่โรงพยาบาลตะกั่วป่า อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพังงา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาหลัก ได้นำตัว น.ส.จ๊ะ (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี แม่ของเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี เข้าพบแพทย์จิตเวช โรงพยาบาลตะกั่วป่า เพื่อตรวจสุขภาพร่างกายทั้ง 2 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่พบว่าเด็กหญิงเอ อายุ 15 ปี มีอาการหวาดผวาจนทางแพทย์ให้การรักษา พร้อมให้ยาผ่อนคล้ายความเครียดจนมีอากาศดีขึ้น ส่วนแม่ น.ส.จ๊ะ พบว่าขณะนี้ได้มีอาการเครียดกับปัญหาที่เกิดขึ้น
โดยแหล่งข่าวระบบว่าการเข้าพบแพทย์โรงพยาบาลในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นการเข้าพบแพทย์ และนักจิตวิทยาของศูนย์พึ่งได้โรงพยาบาลตะกั่วป่า เพื่อตรวจสุขภาพทางด้านร่างกาย และจิตใจ เพื่อประเมินอาการผวาดผวาของเด็กหญิงเอ อายุ 15 ปี ซึ่งเป็นก่อนหน้านี้ แต่จากการตรวจเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่วันนี้พบว่า เด็กหญิงเอ มีอาการดีขึ้นไม่หวาดกลัวเหมือนครั้งที่ผ่านมา โดยในเวลากลางคืนไม่นอน ร้องไห้ ส่วนทางแม่ ขณะนี้พบว่าเริ่มมีอาการเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทางแพทย์ และเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาและความมั่นคงของมนุษย์ได้ให้คำแนะนำพร้อมให้ยารักษาการผ่อนคลายความเครียด
อย่างไรก็ตาม ต่อจากนี้ทางพนักงานสอบสวน และกลุ่มสหวิชาชีพ เตรียมนัดสอบปากคำครอบครัวเด็กเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง ส่วนด้านคดีเป็นเรื่องของสหวิชาชีพว่าผลสรุปการสอบปากคำจะเป็นอย่างไร คาดว่าจะสามารถสรุปได้ในเร็ววันนี้ ซึ่งทางจังหวัดมีการดูแลผู้เสียหายมาตลอดพร้อมให้ความเป็นธรรมทั้ง2ฝ่ายต่อไป
ขณะที่ชาวบ้านหมู่บ้านเกาะแรด ต้องการให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจหาหลักฐานพ่อเลี้ยงของเด็กก่อนที่จะตรวจชาวบ้านผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 40 คน ซึ่งครอบครัวดังกล่าวอยู่ในหมู่บ้านเป็นคนไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร เป็นคนขยันทำงาน ซึ่งทางพ่อเลี้ยงมีการเข้ารักษาอาการป่วยและต้องกินยาต่อเนื่องที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดพังงา
นายอรุณโรจน์ สุเด็นสัน อิหม่ามประจำหมู่บ้าน กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านตนเองเชื่อว่าเป็นการแบล็คเมล์หรือเรียกร้องความสนใจของสังคมหรืออาจจะเป็นการกุเรื่องขึ้นมา เพราะว่าจริงๆแล้วครอบครัวนี้ เขามีพ่อเลี้ยง เพราะฉะนั้นพ่อเลี้ยงกับลูกเลี้ยงมีอะไรมากกว่าความเป็นลูก โดยบางครั้งที่ชาวบ้านเห็น แม่จะให้ลูกไปกับพ่อเลี้ยงเพื่อไปลากอวนในทะเล ซึ่งเรื่องที่ผิดปกติ และอีกอย่างแม่เป็นคนฉลาดกว่าพ่อเลี้ยง และอาจจะเป็นไปได้ว่าแม่จะเอาลูกเป็นเหยื่อ หากินแบบมีผลประโยชน์ให้มีการช่วยเหลือ ซึ่งคดีนี้เป็นคดีเด็กมีกฎหมายที่คุ้มครอง
โดยคิดว่าอาจจะมีการสอนจากแม่เด็ก เพราะตามที่แม่เด็กออกมาบอกว่าบางครั้งลูกนอนผวา ซึ่งการที่ลูกนอนผวา แม่ไม่ได้คิดเลยหรือว่า บางครั้งอาจจะเกิดจากลูกกับพ่อเลี้ยง ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นอาจจะเกิดจากแม่ต้องการเบี่ยงเบนประเด็น เพื่อให้คนอื่นมาก็เลยรับสถานการณ์นี้ด้วย แต่ตนเองยังเชื่อในความยุติธรรม จึงต้องการให้ทางเจ้าหน้าที่ได้แยกเด็กออกจากแม่ และพ่อเลี้ยง และนำไปสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง เพราะตนเชื่อว่า เด็กจะมีแม่ คอยเสี้ยมสอน.เพราะตนทราบถึงประวัติแม่ดีความจริงจะออกมาปรากฏแน่