ตรัง - คืบหน้าครอบครัวพี่น้องฝาแฝดปีนรั้วไปโรงเรียน ศาลจังหวัดตรัง เลื่อนนัดไต่สวนมูลฟ้อง 26 มิ.ย.นี้ ขณะที่ครอบครัวยังรอทางเทศบาลนาเมืองเพชร เปิดทาง หลังครบ 7 วัน ยังเงียบ ผู้เดือดร้อนวอนถ้าไม่มีข้อมูลจริงอย่าใส่ร้ายกุเรื่องสร้างภาพ เผยดีใจทุกฝ่ายช่วยแก้ปัญหา
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเด็กนักเรียน ป.1 สองพี่น้องฝาแฝด ด.ช.อดิศร กิ้มเฉี้ยง หรือน้องเพชร และ ด.ญ.ศรสวรรค์ กิ้มเฉี้ยง หรือน้องพลอย อายุ 7 ขวบ โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 39 (บ้านนาโต๊ะหมิง) จ.ตรัง ถูกกั้นกำแพงสูงขึงลวดหนามปิดกั้นทางเข้าออก ต้องปีนข้ามรั้วไปโรงเรียนทุกวัน
ล่าสุด วันนี้ (19 มิ.ย.) นางคล่อง อายุ 69 ปี และ น.ส.จิราภรณ์ ชูชีพ อายุ 36 ปี ยาย และป้าของพี่น้องฝาแฝด พร้อมด้วย นายยุทธนา วจนะสาระ ทนายความ ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดตรัง ตามนัดที่ครอบครัวผู้เดือดร้อนเป็นโจทก์ยื่นฟ้องภาระยินยอม เมื่อวันที่ 5 เม.ย.60 ที่ผ่านมา ต่อนางแพร้ว คีรีรัตน์ เจ้าของที่ดินที่ปิดกั้นรั้วกำแพงพร้อมลวดหนาม เพื่อให้เปิดรั้วที่ได้มีการก่อสร้างปิดกั้นทางเดินเข้าออกบ้านพักมานานกว่า 10 ปี และอีกด้านของบ้านเป็นทางสาธารณประโยชน์ก็ถูกเพื่อนบ้านอีกหลังปลูกต้นไม้บนขอบทาง จนทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ถึงขั้นพี่น้องฝาแฝดจำเป็นต้องปีนรั้วเพื่อหาทางออกไปโรงเรียน
น.ส.จิราภรณ์ ชูชีพ กล่าวว่า วันนี้ศาลจังหวัดตรัง ได้แจ้งให้ทราบว่า ทนายฝ่ายจำเลยของนางแพร้ว คีรีรัตน์ ได้มีการฟ้องแย้งว่า ครอบครัวตนมีที่ดินติดทางสาธารณประโยชน์ ซึ่งมีการตรวจสอบแนวเขตถูกต้องแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องให้ฝ่ายจำเลยทำลายกำแพงเพื่อให้เปิดทางเข้าออกบ้านอีกต่อไป และร้องต่อศาล ว่า ห้ามครอบครัวตนปีนรั้ว ซึ่งเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคลอีกต่อไป หากฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งตนก็ยอมรับได้ เพราะจริงๆ ก็ไม่ได้อยากมีเรื่องมีราวกับฝ่ายใดอยู่แล้ว ในเมื่อทางสำนักงานที่ดินจังหวัดตรัง ได้มีการชี้แนวเขตที่ดินเป็นที่ประจักษ์แล้ว ตนก็ไม่ติดใจอะไร ซึ่งก่อนที่ตน และครอบครัวจะยื่นฟ้องภาระจำยอมนั้น เพราะไม่ทราบว่าที่ดินติดกับที่สาธารณะมาก่อน แต่เพิ่งมาทราบภายหลังจากยื่นฟ้องไปแล้ว
อีกทั้งตนก็เพิ่งทราบวันนี้ว่า สำนักงานที่ดินจังหวัดตรัง มีการส่งหนังสือถึงสำนักงานเทศบาลตำบลนาเมืองเพชร อ.สิเกา ลงวันที่ 12 มิ.ย.60 เพื่อขอให้ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันที่ดินสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน พ.ศ.2553 เพื่อแก้ไขปัญหาให้ผู้เดือดร้อนต่อไป โดยมีกำหนด 7 วัน นับจากวันที่ออกหนังสือฉบับดังกล่าว โดยทางเทศบาลตำบลนาเมืองเพชร ได้มีการทำหนังสือถึง น.ส.อุษาห์ ทองย้อย ซึ่งเป็นผู้ก่อสร้างสินทรัพย์บนที่ดินสาธารณะเพื่อขอให้รื้อถอนทรัพย์สินทั้งหมดที่อยู่ในที่สาธารณะ ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ซึ่งครบกำหนดในวันที่ (19 มิ.ย.60) เพื่อเปิดทางสาธารณะดังกล่าวให้พลเมืองได้ใช้ร่วมกัน ตามเจตนารมณ์ของลักษณะที่ดิน ทั้งนี้ หากไม่ดำเนินการ ทางเทศบาลตำบลนาเมืองเพชร จะดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อไป แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้
น.ส.จิราภรณ์ กล่าวอีกว่า ปัญหาความเดือดร้อนของตนมาถึงวันนี้นับว่าคลี่คลายไปมาก ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่รัฐที่ให้การช่วยเหลือ และที่สำคัญคือ สื่อมวลชนที่ช่วยนำเสนอข่าวนี้อย่างต่อเนื่อง ทำให้หลานของตนทั้ง 2 คน และครอบครัวได้มีทางเข้าออกอีกครั้ง ส่วนกรณีที่ นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าฯ จ.ตรัง ให้สัมภาษณ์สื่อวิทยุ ว่า ครอบครัวตนไม่ได้เดือดร้อนจริง แต่สมคบกับสื่อ เป็นการกุเรื่องสร้างภาพนั้นว่า คิดไม่ถึงว่าผู้บริหารระดับจังหวัดจะพูดแบบนี้ ท่านไม่ช่วยแต่กลับซ้ำเติม เพราะท่านไม่เคยเดินเข้าไปดูในบ้าน ไม่เคยลงไปเห็นกับตาว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ท่านพูดไปตามรายงานที่ได้รับ ทำให้รู้สึกเสียใจ และเสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 26 มิ.ย.60 นี้ ศาลจังหวัดตรัง จะนัดไต่มูลฟ้องอีกครั้ง เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม และวันที่ 4 ก.ค.60 จะมีการตัดสินเกี่ยวกับคดีนี้ต่อไป