ปัตตานี - กอ.รมน.ภาค 4 ชี้แจงเหตุวิสามัญ “เปายี ตาสะเมาะ” พบผู้ตายมีเอี่ยวก่อเหตุคาร์บอมบ์ห้างบิ๊กซีปัตตานี
วันนี้ (14 ก.ค.) พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ จ.ปัตตานี พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ฝ่ายปกครอง และ พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความปลอดภัยภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ร่วมกันแถลงข่าวกรณีเหตุวิสามัญ นายเปายี ตาสะเมาะ ในพื้นที่ หมู่ 4 ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี เมื่อเช้าที่ผ่านมาว่า
จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2560 หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมจังหวัดปัตตานี และฝ่ายกำลังร่วม 3 ฝ่าย ได้บังคับใช้กฎหมายควบคุมผู้ต้องสงสัยตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก ผู้ให้ที่พักพิงผู้ก่อเหตุรุนแรง นายสุดิง มามะ และพวก บริเวณหมู่ 5 ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี คือ นายเปายี ตาสะเมาะ ควบคุมตัวเพื่อทำการซักถาม จากผลการซักถาม นายเปายี ตาสะเมาะ ให้การว่า เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรง และแนวร่วมให้การสนับสนุนที่พักพิงแก่ผู้ก่อเหตุรุนแรงจริงเข้าร่วมขบวนการเมื่อปี 2554 โดยการสาบานตนเข้าร่วมขบวนการกับ นายมะนาเซ ไซดี รวมถึงยืนยันว่า รถจักรยานยนต์ที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้ที่บ้านพักของตนเองคือ รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุลอบวางระเบิดห้างบิ๊กซีปัตตานี และยังให้ข้อมูลแหล่งซุกซ่อนอาวุธ ซึ่งตนเองได้รับมาจาก นายมะนาเซ ไซดี และได้นำไปเก็บรักษาไว้
โดยเมื่อเช้าวันนี้ หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมจังหวัดปัตตานี และกำลังร่วม 3 ฝ่าย นำตัว นายเปายี ตาสะเมาะ ไปชี้จุดที่ซุกซ่อนอาวุธ บริเวณพื้นที่ป่า ม.4 ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี ซึ่งในขณะขุดปืน นายเปายี ตาสะเมาะ ได้อาศัยจังหวะหยิบปืนพกสั้นขนาด .38 ที่ซุกซ่อนไว้ในพงหญ้าใกล้พื้นที่ดังกล่าวยิงใส่เจ้าหน้าที่ 1 นัด แล้ววิ่งหลบหนีไปทางริมคลองชลประทาน และกระโดดลงน้ำข้ามคลองไปยังฝั่งตรงข้าม เจ้าหน้าที่ที่วางกำลังได้ไล่ติดตามจนมาพบ นายเปายี ตาสะเมาะ ได้ใช้อาวุธยิงใส่เจ้าหน้าที่อีก 2 นัด เจ้าหน้าที่ได้ยิงตอบโต้ หลังจากเสียงปืนสงบจึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่า นายเปายี ตาสะเมาะ เสียชีวิต และพบอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 ตกอยู่ในมือของ นายเปายี ตาสะเมาะ จากเหตุการณ์ดังกล่าวหากนายเปายี ตาสะเมาะ ไม่ตัดสินใจนำอาวุธปืนที่ซุกซ่อนอยู่มาปะทะกับเจ้าหน้าที่เพื่อทำการหลบหนี ทางเจ้าหน้าที่น่าจะสามารถทำการขยายผลในกรณีเกิดเหตุระเบิดที่บิ๊กซีปัตตานีได้
จากการวิเคราะห์เหตุที่ นายเปายี ตาสะเมาะ ตัดสินใจยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ และหลบหนี อาจเป็นเพราะเกรงกลัวต่อการร่วมรับผิดในกรณีระเบิดบิ๊กซีปัตตานี ทางเจ้าหน้าที่มีความจำเป็นที่จะต้องป้องกันตัวเอง และพยายามติดตามผู้ร่วมก่อเหตุวางระเบิดบิ๊กซีปัตตานี คาดหวังว่า นายเปายี ตาสะเมาะ น่าจะเป็นผู้ให้ข้อมูลที่สำคัญ นอกจากนั้น ยังมีวัตถุพยานอย่างอื่นที่คาดว่าสถานที่ดังกล่าวจะเป็นแหล่งซุกซ่อนบุคคล และอาวุธ เนื่องจากได้พบที่ประกอบอาหารอยู่ในป่าใกล้ริมน้ำ ทำให้เจ้าหน้าที่มีความมั่นใจว่า กลุ่มที่ก่อเหตุระเบิดบิ๊กซีปัตตานี น่าจะเตรียมการก่อเหตุอย่างอื่นอีก ทางผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจังหวัดปัตตานี ได้มีการสั่งการให้ขยายผล และเก็บข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติม
จากเหตุการณ์ดังกล่าว พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิต และขอเชิญชวนผู้ที่หลงผิด หรือมีความเห็นต่างที่ต้องการแสดงตน เพื่อเข้าร่วมสร้างสันติสุขในพื้นที่ สามารถติดต่อโดยตรงได้ที่หมายเลข 092-532-4989 ซึ่งเป็นหมายเลขโทรศัพท์ของแม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โดยตรง หรือประสานหน่วยงานความมั่นคงใกล้บ้าน เพื่อที่จะได้ช่วยกันพัฒนาพื้นที่สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
