ศูนย์ข่าวภาคใต้ - เลขาธิการ ปปท.เข้าติดตาม และรับข้อมูลจากผู้ปกครองแฉคลิปฉาวจ่ายเงินแป๊ะเจี๊ยะโรงเรียนดังแล้ว ผู้ปกครองอุ่นใจนายกรัฐมนตรีทราบเรื่องเร่งทั้งหมดแล้ว
วันนี้ (19 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากการเปิดเผยคลิปภาพการจ่ายเงิน จำนวน 4 แสนบาท ให้แก่ผู้บริหารโรงเรียนชื่อดัง จนเป็นที่สนใจในแวดวงการศึกษาอย่างมาก รวมทั้งยังเป็นที่สนใจของผู้ปกครองจำนวนมาก
ความคืบหน้าล่าสุด ในวันนี้ นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ปปท.ได้ติดตามข้อมูล และประสานโดยตรงกับผู้ปกครองที่เป็นเจ้าของคลิป เพื่อขอข้อมูล โดยผู้ปกครองได้เข้าพบกับนายประยงค์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
และได้ส่งมอบคลิปภาพฉบับเต็มให้แก่ นายประยงค์ พร้อมทั้งให้บันทึกถ้อยคำไว้เป็นหลักฐานเพื่อการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ปปท. ขณะที่ผู้ปกครองยังยืนยันในข้อมูล และต้องการหาความชัดเจนในคำถามที่ถูกตั้งไว้คือ เงินที่ผู้ปกครองต่างสนับสนุนเข้าไปให้บุตรหลานได้เข้าเรียนโดยวิธีพิเศษนั้นได้นำเงินเข้าเป็นรายได้เพื่อใช้ประโยชน์แก่โรงเรียน หรือใช้ไปการส่วนตัวหรือไม่อย่างไร
ขณะที่ นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการ ปปท.ระบุว่า เรื่องนี้ทราบถึงนายกรัฐมนตรีแล้ว และนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญมาก โดยมีข้อสั่งการให้เร่งสอบสวนหาข้อเท็จจริง ซึ่งหลังจากนี้จะมีการรายงานไปตามลำดับ อาจมีการพิจารณาอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ส่วนผู้ปกครองนั้นมีความสบายใจมากขึ้นซึ่งการจะเปิดเผยตัวหรือไม่ของผู้ปกครองนั้นขอให้เป็นสิทธิส่วนตัว
อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวล่าสุดของผู้บริหารโรงเรียน พร้อมภรรยา และคณะที่เดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศแถบยุโรป ได้เดินทางกลับมาถึงประเทศไทย ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้วเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา โดยเลี่ยงที่จะพบผู้สื่อข่าว โดยมีผู้สื่อข่าวหลายสำนักพยายามติดต่อแต่ไม่สามารถติดต่อได้
ขณะเดียวกัน ได้มีเอกสารการชี้แจงด้วยลายมือซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าเป็นลายมือของผู้บริหารรายนี้หรือไม่ออกมาเผยแพร่ แต่ไม่มีการลงนาม หรือที่มาของเอกสารชี้แจงไปในทำนองว่าเป็นการฝากเด็กของศิษย์เก่ากลุ่มเดิมๆ ที่ไม่พอใจเนื่องจากไม่สามารถฝากนักเรียนเข้าเรียนได้ และยังบอกในทำนองว่า เป็นการจงใจทำให้โรงเรียนเสียชื่อเสียง พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่า มีการเตรียมการมาเป็นอย่างดี และตั้งคำถามในทำนองว่าไม่มีการดำเนินการภายหลังวันที่ 19 เม.ย.60 หลังจากการบันทึกภาพ
ขณะที่ผู้ปกครองผู้ร้องต่อผู้สื่อข่าวระบุว่า เจตนาของการจ่ายเงินนั้นเพื่อให้แก่โรงเรียน ไม่ได้ให้เพื่อไปใช้ส่วนตัว และที่น่าสังเกตคือ ไม่มีใบเสร็จ ดังนั้น คำถามที่ต้องตอบมาคือ เงินจำนวนมากที่ได้จากการนี้เอาไปใช้ในโรงเรียนอย่างไร พัฒนาส่วนไหน ซึ่งหากใช้ในโรงเรียนทุกคนพร้อมสนับสนุนเพราะต่างก็รักสถาบันทั้งนั้น
แต่ถ้าเอาไปใช้ส่วนตัวยกตัวอย่างเช่น การนำเงินไปซื้อรถหรูราคาแพงอย่างเบนซ์ บีเอ็มดับเบิลยู หรือนาฬิกาโรเล็กซ์ แน่นอนว่าผิดวัตถุประสงค์แน่ๆ เจ้าของเงินที่จ่ายไปย่อมเสียดายเงินเป็นธรรมดา เพียงแต่ท่านตอบว่าเอาเงินไปใช้จ่ายเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์แก่โรงเรียนอย่างไรเท่านั้น
