xs
xsm
sm
md
lg

ชาวสวนน้ำตาตก! ราคายางแย่สัปดาห์เดียวลดฮวบ 15 บาท ซ้ำร้ายเจอฝนตกแทบทุกวัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ตรัง - ชาวสวนยางตรัง น้ำตาตก! หลังราคาร่วงหนักสัปดาห์เดียวลดฮวบ 15 บาท ซ้ำร้ายยังเจอวิกฤตฝนตกแทบทุกวัน จนรายได้ไม่พอต่อรายจ่าย ขณะที่อดีต ส.ส.ตรัง เสนอ กยท.จัดตั้งบริษัทค้ายางเพื่อแก้ปัญหา

วันนี้ (19 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจตามจุดรับซื้อน้ำยางสดต่างๆ ใน จ.ตรัง หลังจากราคาตกลงมาอย่างต่อเนื่องถึง 15 บาทในรอบสัปดาห์ หรือจาก กก.ละ 60 บาท ลงมาเหลือ กก.ละ 45 บาท จนทำเอาชาวสวนยางน้ำตาตกไปตามๆ กัน โดย นายชัยรัตน์ อ่อนสนิท อายุ 52 ปี เกษตรกรชาว ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง กล่าวด้วยความรู้สึกรันทดใจว่า ตนเองยึดอาชีพรับจ้างกรีดยางมานานแล้ว และหลังขายน้ำยางแบ่งกับเจ้าของสวนจะมีรายได้แค่วันละ 300 บาท ในขณะที่มีภาระที่ต้องรับผิดชอบมากมายในช่วงวิกฤตเช่นนี้

ถ้าตัวคนเดียวคงสามารถอยู่ได้ แต่ครอบครัวไม่สามารถอยู่ได้ เพราะตนมีลูก 3 คน และอยู่ในวัยเรียนทั้งหมด ซึ่งถ้าน้ำยางอยู่ในราคา กก.ละ 60 บาท ก็พออยู่ไหว อีกทั้งในปีนี้สัปดาห์หนึ่งๆ จะมีฝนตกลงมาถึง 4 วัน จึงได้กรีดยางแค่ 3 วัน เลยต้องไปหาอาชีพเสริม ไม่อย่างนั้นครอบครัวตนจะอยู่ไม่ได้ จึงอยากฝากไปยังผู้ที่มีอำนาจ รวมถึงรัฐบาลว่า ที่ผ่านมาช่วยเหลือแบบไฟไหม้ฟางเท่านั้น แต่ในระยะยาวไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย
 

 
ขณะที่ นางกรรณิกา บุญชู อายุ 37 ปี เจ้าของสวนยางรายหนึ่งใน จ.ตรัง ก็กล่าวว่า ครอบครัวของตนมีอยู่ 4 คน และมียางอยู่ 700 ต้น แต่ช่วงนี้ต้องยอมรับว่ารายรับไม่พอต่อรายจ่าย แต่โชคดีที่มีสวนเป็นของตัวเอง ไม่ต้องแบ่งกับใคร แต่ก็อยากวิงวอนขอให้ราคาขึ้นกว่านี้หน่อย อีกทั้งในปีนี้ดินฟ้าอากาศก็ไม่ปกติ เพราะฝนจะตกแดดจะออกไม่สามารถกำหนดได้ ยิ่งหากฝนตกติดต่อกันทุกวัน จะไม่มีรายได้เข้ามาเลย ขณะที่ข้าวของช่วงนี้ก็มีราคาแพง อย่างเนื้อหมู ขึ้นไปเป็น กก.ละ 103 บาทแล้ว ดังนั้น ผู้คนจึงอยู่ยากลำบาก ถ้าหากยึดอาชีพกรีดยางเพียงอย่างเดียว นอกจากจะต้องยึดหลักตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่ ๙ จึงจะสามารถอยู่รอดได้

ส่วน นางเจริญ กวางทะวาย อายุ 49 ปี แม่ค้าขายเนื้อหมูรายหนึ่งใน จ.ตรัง กล่าวว่า ช่วงนี้หมูขายยากมาก โดยมีผลพวงมาจากการที่ราคายางตกต่ำ ขนาดแค่ซีกตัวยังขายไม่หมดเลย และส่วนหนึ่งก็ขอค้างค่าหมูไว้ก่อนจนกว่าจะกรีดยางได้ ทั้งๆ ที่แผงขายหมูของตนตั้งอยู่ใกล้กับจุดรับซื้อน้ำยาง และเคยขายดีมาก่อนหน้านี้
 

 
นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ปัญหาราคายางในปัจจุบันคือความไม่มีเสถียรภาพ เพราะจะขึ้นลงรวดเร็วมาก โดยเฉพาะเวลาลง ซึ่งบางวันลงไปตั้ง 5 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้เห็นได้ชัดว่า ราคายางขึ้นลงตามใจของพ่อค้า มากกว่าจะสะท้อนอุปสงค์อุปทานที่แท้จริง และที่พ่อค้าทำเช่นนี้ได้เพราะไม่มีกลไกอะไรที่จะไปถ่วงดุล จึงหากำไรได้ตามอำเภอใจ หรือทำความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรมาโดยตลอด

ส่วนการยางแห่งประเทศไทย หรือ กยท.มีหน้าที่ตามกฎหมายในการรักษาราคายางให้มีเสถียรภาพ แต่ที่ผ่านมา ไม่เคยทำได้ และดูเหมือนจะยิ่งแย่กว่าในอดีตตอนที่ไม่มี กยท.เสียด้วยซ้ำ ตนจึงขอเสนอให้ กยท.ตั้งบริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชน เพื่อทำธุรกิจค้าขายยางตาม พ.ร.บ.การยางมาตรา 10 ซึ่งจะทำให้ กยท.ได้เข้าไปแข่งขันกับบริษัทเอกชน เพื่อเป็นการถ่วงดุลราคา และเพื่อความมั่นคง ตนได้ขอเสนอให้รัฐบาลเข้าไปถือหุ้นด้วย ส่วน 4 มาตรการที่รัฐบาลเสนอมาก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อเกษตรกร และพ่อค้า แต่ไม่สามารถทำให้ราคายางดีขึ้นได้แต่อย่างใด
 


กำลังโหลดความคิดเห็น