ระนอง - หนุ่มกู้ภัยระนองมึนโดนใบสั่งขับรถเร็วทางไปรษณีย์ ทั้งที่รถจอดอยู่ในบ้านแจ้ง ตร. ขนส่งให้ถอนใบสั่ง วอนให้เร่งจับรถติดทะเบียนปลอม หวั่นไปก่ออาชญากรรม
นายเฉลิมพล ช่างตรึก อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/1 ม.4 ต.ลำเลียง อ.กระบุรี จ.ระนอง ได้เข้าร้องต่อสื่อ พร้อมกับแสดงเอกสารการเป็นเจ้าของรถยนต์ฮอนด้า แจ๊ซ สีดำ ทะเบียน ฌก 2958กรุงเทพมหานคร ว่า เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2559 ตนได้รับใบสั่งทางไปรษณีย์ ว่า รถเก๋งฮอนด้า แจ๊ซ สีดำ ทะเบียน ฌก 2958 กรุงเทพมหานคร ขับด้วยความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด 1 ใบ มาถึง นายเฉลิมพล ช่างตรึก อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 21/1 ม.4 ต.ลำเลียง อ.กระบุรี จ.ระนอง ในฐานะที่ตนเป็นเจ้าของรถให้ไปชำระค่าปรับ
เนื่องจากขับรถด้วยความเร็วสูง โดยใบสั่งประกอบไปด้วย ว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2560 เวลาประมาณ 07.49 น. โดนใบสั่งสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ฐานความผิดขับรถด้วยความเร็ว 131 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผู้ออกใบสั่ง พ.ต.ท.จิรวุฒิ ขวัญคุ้ม บริเวณถนนมอเตอร์เวย์ กิโลเมตรที่ 44 ขาเข้า ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา
นายเฉลิมพล กล่าวว่า ปกติตนขับรถเก๋งอยู่ภายในพื้นที่จังหวัดระนอง ช่วงระหว่างอำเภอกระบุรี-ระนอง เพราะตนทำหน้าที่ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และเป็นอาสาที่กู้ภัยของมูลนิธิระนองสงเคราะห์ จังหวัดระนอง ส่วนก่อนหน้าวันที่มีใบสั่งออกมานั้นรถคันดังกล่าวไม่ได้ขับไปไหน จอดไว้ในโรงจอดรถ
โดยตนจะใช้รถเก๋งอีกคันในการเดินทางไปปฎิบัติหน้าที่ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นได้พยายามประสานงานกับทางตำรวจพื้นที่เกิดเหตุ และขนส่งจังหวัดระนอง เพื่อให้ถอนคำสั่ง ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานรับปากว่าจะดำเนินการถอนใบสั่งออกจากระบบ ซึ่งยังไม่แน่ใจ เพราะยังไม่เกิดความชัดเจนจึงได้แจ้งความไว้เป็นหลักฐานอีกที่ สภ.กระบุรี และเข้าร้องสื่อในพื้นที่จังหวัดระนองด้วย
“จากการที่มีใบสั่งออกมาตนก็กังวลใจ สำหรับภาพถ่ายในใบสั่งนั้นเป็นรถรุ่นเดียวกัน แต่ยังมีจุดที่ไม่เหมือนกัน 3 จุด ที่เด่นชัด คือ เสาอากาศ รถคันที่สวมทะเบียนนั้นอยู่ด้านหลัง แต่รถคันของตนอยู่ตรงกลางด้านหน้า และเสารับสัญญาณทีวีคันที่สวมทะเบียนนั้นไม่มี แต่ของตนมีเสารับสัญญาณอยู่หลังคาด้านซ้าย สุดท้ายกรอบป้ายทะเบียนรถ ของคันที่สวมทะเบียนมีสีดำ ส่วนรถของตนกรอบจะเป็นสีแดง”
จึงได้มีการประสานงานกับตำรวจพื้นที่เกิดเหตุ และขนส่งจังหวัดระนอง เพื่อแก้ไขปัญหาไปแล้ว อย่างไรก็ตาม อยากให้ตำรวจเร่งดำเนินการจับกุมรถเก๋งคันดังกล่าวด้วย เนื่องจากคาดว่ารถคันดังกล่าวน่าจะมีการใช้ทะเบียนปลอม หรือเจ้าของรถอาจจะไม่ทราบว่ารถของตนถูกสวมทะเบียน จึงอยากจะให้ทางสื่อช่วยในการตามหาเจ้าของรถคันดังกล่าวมาพบเพื่อทำการพิสูจน์ทราบเกี่ยวกับการครอบครองรถโดยถูกต้อง เพราะหากไปก่อเหตุอาชญากรรมความเดือดร้อนก็จะมาตกที่เจ้าของรถอีก จึงอยากให้ตำรวจเร่งดำเนินการจับกุมเพื่อป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
นายเฉลิมพล ช่างตรึก อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/1 ม.4 ต.ลำเลียง อ.กระบุรี จ.ระนอง ได้เข้าร้องต่อสื่อ พร้อมกับแสดงเอกสารการเป็นเจ้าของรถยนต์ฮอนด้า แจ๊ซ สีดำ ทะเบียน ฌก 2958กรุงเทพมหานคร ว่า เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2559 ตนได้รับใบสั่งทางไปรษณีย์ ว่า รถเก๋งฮอนด้า แจ๊ซ สีดำ ทะเบียน ฌก 2958 กรุงเทพมหานคร ขับด้วยความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด 1 ใบ มาถึง นายเฉลิมพล ช่างตรึก อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 21/1 ม.4 ต.ลำเลียง อ.กระบุรี จ.ระนอง ในฐานะที่ตนเป็นเจ้าของรถให้ไปชำระค่าปรับ
เนื่องจากขับรถด้วยความเร็วสูง โดยใบสั่งประกอบไปด้วย ว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2560 เวลาประมาณ 07.49 น. โดนใบสั่งสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ฐานความผิดขับรถด้วยความเร็ว 131 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผู้ออกใบสั่ง พ.ต.ท.จิรวุฒิ ขวัญคุ้ม บริเวณถนนมอเตอร์เวย์ กิโลเมตรที่ 44 ขาเข้า ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา
นายเฉลิมพล กล่าวว่า ปกติตนขับรถเก๋งอยู่ภายในพื้นที่จังหวัดระนอง ช่วงระหว่างอำเภอกระบุรี-ระนอง เพราะตนทำหน้าที่ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และเป็นอาสาที่กู้ภัยของมูลนิธิระนองสงเคราะห์ จังหวัดระนอง ส่วนก่อนหน้าวันที่มีใบสั่งออกมานั้นรถคันดังกล่าวไม่ได้ขับไปไหน จอดไว้ในโรงจอดรถ
โดยตนจะใช้รถเก๋งอีกคันในการเดินทางไปปฎิบัติหน้าที่ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นได้พยายามประสานงานกับทางตำรวจพื้นที่เกิดเหตุ และขนส่งจังหวัดระนอง เพื่อให้ถอนคำสั่ง ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานรับปากว่าจะดำเนินการถอนใบสั่งออกจากระบบ ซึ่งยังไม่แน่ใจ เพราะยังไม่เกิดความชัดเจนจึงได้แจ้งความไว้เป็นหลักฐานอีกที่ สภ.กระบุรี และเข้าร้องสื่อในพื้นที่จังหวัดระนองด้วย
“จากการที่มีใบสั่งออกมาตนก็กังวลใจ สำหรับภาพถ่ายในใบสั่งนั้นเป็นรถรุ่นเดียวกัน แต่ยังมีจุดที่ไม่เหมือนกัน 3 จุด ที่เด่นชัด คือ เสาอากาศ รถคันที่สวมทะเบียนนั้นอยู่ด้านหลัง แต่รถคันของตนอยู่ตรงกลางด้านหน้า และเสารับสัญญาณทีวีคันที่สวมทะเบียนนั้นไม่มี แต่ของตนมีเสารับสัญญาณอยู่หลังคาด้านซ้าย สุดท้ายกรอบป้ายทะเบียนรถ ของคันที่สวมทะเบียนมีสีดำ ส่วนรถของตนกรอบจะเป็นสีแดง”
จึงได้มีการประสานงานกับตำรวจพื้นที่เกิดเหตุ และขนส่งจังหวัดระนอง เพื่อแก้ไขปัญหาไปแล้ว อย่างไรก็ตาม อยากให้ตำรวจเร่งดำเนินการจับกุมรถเก๋งคันดังกล่าวด้วย เนื่องจากคาดว่ารถคันดังกล่าวน่าจะมีการใช้ทะเบียนปลอม หรือเจ้าของรถอาจจะไม่ทราบว่ารถของตนถูกสวมทะเบียน จึงอยากจะให้ทางสื่อช่วยในการตามหาเจ้าของรถคันดังกล่าวมาพบเพื่อทำการพิสูจน์ทราบเกี่ยวกับการครอบครองรถโดยถูกต้อง เพราะหากไปก่อเหตุอาชญากรรมความเดือดร้อนก็จะมาตกที่เจ้าของรถอีก จึงอยากให้ตำรวจเร่งดำเนินการจับกุมเพื่อป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคต