ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้ประกอบการรถตู้รับจ้างภาคเหนือกว่า 100 คนเข้าพบและร้องเรียนขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ให้ทบทวนกฎหมายบังคับติดตั้งจีพีเอส (GPS) และจำกัดความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชั่วโมง ชี้สร้างความเดือดร้อนหนักเพราะขัดแย้งกับสภาพความเป็นจริง เผยบางรายโดนใบสั่งขับรถเร็วเกินและให้ไปเสียค่าปรับเดือนละ 40 กว่าครั้ง ขณะที่ขนส่งเชียงใหม่ย้ำเจตนามุ่งลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ
วันนี้ (1 พ.ค.) ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ชมรมรถตู้ภาคเหนือ นำโดย วิเชียร ทองสุข ประธานชมรมรถตู้ภาคเหนือ พร้อมด้วยตัวแทนผู้ประกอบการธุรกิจรถตู้รับจ้างไม่ประจำทางกว่า 100 คน รวมตัวร้องเรียนกรณีที่ทางกรมการขนส่งทางบกมีการบังคับให้รถตู้ส่วนบุคคล 36 และรถ 30 รับจ้างไม่ประจำทางติดตั้งจีพีเอส (GPS) และมีการบังคับใช้กฎหมายควบคุมความเร็วของรถไม่ให้เกิน 90 กม./ชั่วโมง
โดยมี นายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย พันโท ณัฐนันม์ สุขะหุต รองหัวหน้ากำลังพลกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย มณฑลทหารบกที่ 33 และ พันตำรวจโท ศุภชัย จันทรา สารวัตรกลุ่มงานจราจรตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้เข้าร่วมรับฟังข้อร้องเรียนดังกล่าว
ประธานชมรมรถตู้ภาคเหนือเปิดเผยว่า จากการที่กรมการขนส่งทางบกได้มีการบังคับใช้กฎหมายกำหนดความเร็วรถตู้ส่วนบุคคล 36 และรถ 30 รับจ้างไม่ประจำทาง 10-13 ที่นั่งในปัจจุบันให้ติดตั้งเครื่องรูดบัตรจีพีเอส ซึ่งทางกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจรถตู้รับจ้างไม่ประจำทางก็ได้ยอมรับกฎหมายดังกล่าว
แต่การบังคับใช้กฎหมายควบคุมความเร็วของรถไม่ให้เกิน 90 กม./ชั่วโมง ได้ส่งผลกระทบทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจรถตู้รับจ้างไม่ประจำทางได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก โดยบางรายต้องได้รับจดหมายให้เสียค่าปรับเนื่องจากขับรถเร็วมากกว่า 44 ฉบับต่อเดือน ซึ่งเห็นว่า พ.ร.บ.จราจรฉบับนี้ออกมาตั้งแต่ปี 2522 ขัดแย้งกับสภาพความเป็นจริงของการใช้รถในปัจจุบัน ที่มีการพัฒนาสมรรถนะของรถไปมาก และสภาพถนนในปัจจุบันที่ได้มีการพัฒนาเพื่อรองรับความเร็วเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ การที่วิ่งเกินระดับ 90 ซึ่งทำให้การวิ่งรถในบางเส้นทางช้าเกินไป เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ เช่น ทำให้คนขับรู้สึกง่วงซึมในการใช้เวลาขับที่ยาวนาน ทำให้ลูกค้าเกิดความไม่สะดวก และอาจจะลดการใช้บริการลง สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ประกอบการต่างๆ ที่มีรถตู้บริการเชิงพาณิชย์ จึงกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ทำให้ลูกค้าบางกลุ่มหันไปใช้บริการรถรับจ้างเถื่อนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นจึงอยากจะขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการทบทวนปรับเปลี่ยนระดับความเร็วให้เหมาะสมกับรถตู้ชนิดต่างๆ รวมถึงการปรับระดับการออกใบสั่งจากสัญญาณเครื่องจีพีเอส ซึ่งคิดว่าควรจะปรับให้มีการใช้ความเร็วอยู่ที่ไม่เกิน 100 ถึง 110 ในเส้นทางหลวง, มอเตอร์เวย์
ขณะที่นายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังจากที่ทราบข่าวทางขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการประสานทางกรมการขนส่งทางบกถึงแนวทางการปฏิบัติในการตรวจรถที่มีการติดตั้งจีพีเอสที่ชัดเจน โดยอธิบดีกรมการขนส่งทางบกได้มีการสั่งการให้ขนส่งทุกจังหวัดในระยะเริ่มขอให้เน้นประชาสัมพันธ์ ทำความเข้าใจ ตักเตือน เน้นมาตรการการป้องกัน เนื่องจากปัจจุบันการติดตั้งจีพีเอสยังไม่ครอบคลุมรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท
จึงอยากจะทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการว่า การที่กรมการขนส่งทางบกได้มีการนำจีพีเอสมาใช้ไม่ได้มีเจตนาที่จะเอามาจับกุมเพื่อหวังค่าปรับในกรณีที่มีการขับรถเร็วเกินกว่าที่กำหนด แต่เป็นการป้องปรามมิให้ผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ลดการสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สิน ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์หลัก
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้หากพบว่าผู้ประกอบการรายใดได้ฝ่าฝืนขับเร็วเกินกว่ากำหนด ก็จะมีการเรียกมาตักเตือน และถ้าเกิดอุบัติเหตุรุนแรง และตรวจพบว่ามีการใช้ความเร็วเกินก็จะดำเนินการลงโทษขั้นสูงสุดอย่างแน่นอน