บุรีรัมย์ - กสทช.ร่วมตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง นำหมายศาลบุกจับ 3 สถานีวิทยุชุมชนเถื่อนที่บุรีรัมย์ ลักลอบเปิดโดยไม่ได้รับอนุญาตพร้อมแจ้ง 4 ข้อหาหนัก เผยยังมีสถานีวิทยุชุมชนที่ลักลอบเปิดโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือดำเนินการไม่เป็นไปตามที่ขออนุญาตทั้งประเทศกว่า 1,370 สถานี
วันนี้ (15 ก.ย.) นายพงษ์ศักดิ์ ทรัพยาคม ผู้อำนวยการสำนักกำกับการใช้คลื่นความถี่ในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พร้อม พ.ต.อ.พลพิพัฒน์ สมบูรณ์สุข รองผู้บังคับการกองคดีอาญา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ , พ.ต.ท.กัมพล วงษ์สงวน รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนภูธรจ.บุรีรัมย์ ได้นำหมายศาลจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่จาก กสทช. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง เข้าทำการตรวจค้นจับกุมและตรวจยึดอุปกรณ์ ทั้งเครื่องรับ-ส่งสัญญาณวิทยุ เสาอากาศ ของสถานีวิทยุชุมชนเถื่อนในพื้นที่ 3 อำเภอที่จ.บุรีรัมย์ ประกอบด้วย อ.เมือง อ.นางรอง และ อ.พุทไธสง
หลัง กสทช.ได้รับแจ้งว่าสถานีวิทยุชุมชนทั้ง 3 แห่ง มีการลักลอบตั้งสถานีและออกอากาศโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจากตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าทั้ง 3 แห่ง เคยใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการกระจายเสียงมาก่อน แต่ขณะเข้าตรวจค้นกลับพบว่าทั้ง 3 แห่ง ได้มีการรื้อถอนเครื่องรับ-ส่ง
สัญญาณออกไปแล้วเหลือเพียงเสาอากาศเท่านั้น
แต่ถึงแม้จะมีการรื้อถอนเครื่องส่งไปแล้ว ทาง กสทช. ต้องมีการดำเนินคดีกับทั้ง 3 สถานีอยู่ โดยจะทำบันทึกการจับกุมพร้อมของกลางที่ตรวจยึดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นพบว่าทั้ง 3 สถานีมีการดำเนินกิจการโดยห้างหุ้นส่วน จำกัด ดังนั้นจะต้องดำเนินคดีกับทางเจ้าหน้าที่ หจก.ทั้ง 3
โดยเบื้องต้นได้ตั้งข้อหารวมทั้งหมด 4 ข้อหา “ใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการกระจายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 66 ของ พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียง พ.ศ.2551 , มีและใช้ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตและข้อหาตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 6 , 11 ของพ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ.2498
นายพงษ์ศักดิ์ ทรัพยาคม ผู้อำนวยการสำนักกำกับการใช้คลื่นความถี่ในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นจับกุมสถานีวิทยุชุมชนทั้ง 3 แห่งที่ จ.บุรีรัมย์ในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากทาง กสทช.มีข้อมูลว่าทั้ง 3 สถานีมีการลักลอบจัดตั้งและออกอากาศโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งต้องจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ จากข้อมูลยังพบว่ายังมีสถานีวิทยุชุมชนที่ลักลอบเปิดโดยไม่ได้รับอนุญาต กระจายอยู่ตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศกว่า 1,370 แห่ง ซึ่งจะได้ทำการตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป