สุราษฎร์ธานี - นักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือ หลังสมัครงานทางโซเซียล และทำงานได้ 5 วัน ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง และถูกประจานทางสื่อออนไลน์ว่าเป็นมิจฉาชีพหลอกลวงต้มตุ๋น จนได้รับผลกระทบอย่างหนักในการใช้ชีวิตประจำวันจนไม่สามารถไปเรียนได้ตามปกติ
วันนี้ (16 มิ.ย.) นายสืบศิริ สุขสวัสดิ์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 551/11 หมู่ที่ 5 ถนนชนเกษม เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย น.ส.วิภารัตน์ สุขสวัสดิ์ ลูกสาว อายุ 18 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ชั้นปีที่ 1 และ น.ส.สุดารัตน์ พรหมเจริญ อายุ 22 ปี เพื่อนลูกสาว พร้อมด้วยเอกสารที่สำคัญจำนวนหนึ่งเข้าร้องขอความช่วยเหลือต่อ นายสมบูรณ์ ทองพัฒน์ ตัวแทนสภาทนายความ ภาค 8 ที่อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี
โดย นายสืบศิริ กล่าวว่า ลูกสาวของตนเอง และเพื่อนได้ตกเป็นเยื่อของมิจฉาชีพที่ประกาศรับสมัครงานทางสื่อออนไลน์ (เฟซบุ๊ก) หลังจากสมัครเข้าไปทำงานได้ 5 วัน ก็เกิดเหตุมีบุคคลที่เสียหายนำเรื่องเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลา และสถานีตำรวจภูธรเคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมกับมีการนำเอกสารการแจ้งความประกาศประจานในสื่ออนไลน์ (เฟซบุ๊ก) ว่า ลูกสาวตนเป็นมิจฉาชีพ หลอกลวง ต้มตุ๋น พร้อมกับแจ้งอาหยัดบัญชีธนาคาร ซึ่งเรื่องดังกล่าวลูกสาวตน และเพื่อนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการหลอกลวง เพียงแค่ต้องการงานทำ และหารายได้พิเศษมาใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียน โดยไม่ต้องรบกวนทางครอบครัว แต่หลังเกิดเหตุสร้างผลกระทบอย่างหนักทั้งสภาพร่างกาย และจิตใจ ที่คนในสังคมเข้าใจผิดจนไม่กล้าไปเรียนหนังสือได้ตามปกติ จึงเข้าร้องขอความช่วยเหลือต่อสภาทนายความภาค 8
น.ส.วิภารัตน์ กล่าวว่า ตนได้รับการเชิญชวนจากผู้ที่ใช้ชื่อในเฟซบุ๊กว่า “pattarapon Tepsatorn” (ฝันให้ไกล) ให้สมัครเพื่อทำงานหารายได้พิเศษทางสื่อออนไลน์ ที่ประกาศว่ารับสมัครคนทำงานเติมเงินผ่านทางเซเว่น และธุรกรรมทางการเงิน รายได้ดี เคลียร์ยอดเงินทุกวันเวลา 20.00 น.รับเงินวันต่อวัน รายได้หนึ่งการันตีที่ 500-1,500 บาท ทำงานง่ายสบาย (ไม่ขอบัตรประชาชน ไม่หลอกลวง ไม่ปลอมแปลงเอกสารผู้สมัครงาน) สนใจติดต่อทางข้อความรับจำนวน 20 ท่านเท่านั้น
ตน และเพื่อนจึงสนใจติดต่อทางข้อความขอรายละเอียด และได้เริ่มทำงานในวันที่ 8 มิถุนายน 2560 โดยนายจ้างได้ขอชื่อนามสกุล หมายเลขบัญชีธนาคาร และเบอร์โทรศัพท์ ครั้งแรกมีเงินโอนเข้าบัญชี จำนวน 36,000 บาท พร้อมกับมีการแจ้งให้ไปเบิกเงินจากบัญชีแล้วนำไปเติมเงินในร้านสะดวกซื้อตามหมายเลขโทรศัพท์ที่ระบุมาทางไลน์ โดยนายจ้างให้ค่าตอบแทน 1,000 บาท จากวันที่ 8-12 มิถุนายน มียอดเงินเข้ามาประมาณ 200,000 บาท โดยบางวันมียอดสูงประมาณ 90,000 บาท ตนทั้ง 2 คนมีรายได้ตอบแทนประมาณ 7,000 บาท
ต่อมา เมื่อช่วงค่ำวันที่ 12 มีเพื่อนก๊อบปี้ข้อความจากเฟซบุ๊กของผู้อื่นว่า มีบุคคลที่เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อตนเองที่ สภ.เมืองจังหวัดสงขลา และ สภ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมมีการประกาศเตือนภัยว่า ตนเป็นมิจฉาชีพหลอกขายของแล้วโอนเงินไปแล้วไม่ส่งของให้ และบางรายลงด่าว่าไปขอยืมเงินจึงตกใจมาก จึงได้บอกกับผู้เป็นพ่อ พ่อได้ประสานทนายความจนได้รับคำแนะนำจากตัวแทนสภาทนายความภาค 8 ให้รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และนำเข้าขอความช่วยเหลือจากสภาทนายความ ภาค 8 และเข้าขอคำปรึกษากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตนเองขอยืนยันว่า ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว หรือเคยพบปะกันกับผู้ว่าจ้าง ทุกอย่างติดต่อกันทางเฟซบุ๊ก ส่วนเรื่องเงินที่โอนเข้าบัญชีก็ไม่รู้ว่ามาจากไหน ทำงานตามที่ผู้ว่าจ้างระบุมาเท่านั้น และได้ค่าตอบแทนเป็นครั้งๆ ไป
ต่อมา ในวันเดียวกันตัวแทนสภาทนายความภาค 8 ได้นำเข้าพบกับ พ.ต.ท สมสิน เกิดผล รอง ผกก.สอบสวน และ ร.ต.อ.อาวุธ ปาลีพิชัย ร้อยเวร สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อลงบันทึกประจำวันแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ติดตามผู้ที่ใช้ชื่อในเฟซบุ๊กว่า pattarapon Tepsatorn (ฝันให้ไกล) มาทำการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการต่อไป พร้อมเตรียมที่จะเดินทางไปแสดงตนให้ความร่วมมือต่อพนักงานสอบสวนแต่ละโรงพักตามที่มีผู้แจ้งความไว้ ก่อนที่จะมีหมายเรียกจากพนักงานสอบสวน ซึ่งในขณะนี้ตนมีความวิตกกังวลมากที่เพื่อนๆ ที่มหาวิทยาลัย และคนรอบข้างเข้าในผิดคิดว่าตนมีพฤติกรรมตามที่มีผู้ประกาศประจานตนจนไม่กล้าออกไปไหน แม้แต่จะไปเรียนก็ตาม จึงวอนขอให้เจ้าหน้าที่ หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ในขณะที่ พ.ต.ท สมสิน เกิดผล รอง ผกก.สอบสวน ได้กล่าวเตือนผู้ที่จะสมัครงานผ่านสื่อออนไลน์นั้น ขอให้มีการตรวจสอบที่มาที่ไป อย่าตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพจนอาจเป็นผู้สร้างความเสียหายให้ผู้อื่น และตนเองก็อาจถูกแจ้งความดำเนินคดีได้ ดังตัวอย่างกรณีของน้องนักศึกษาทั้ง 2 คน
ด้าน นายสมบูรณ์ ทองพัฒน์ ตัวแทนสภาทนายความภาค 8 กล่าวว่า พฤติกรรมของผู้ที่ใช้ในเฟซบุ๊กว่า pattarapon Tepsatorn (ฝันให้ไกล) เป็นการหลอกลวงต้มตุ๋นลอกให้สมัครงาน โดยมีการใช้การโอนเงินผ่านบัญชี แล้วให้เจ้าของบัญชีนำไปโอนต่อ ซึ่งเป็นการเข้าข่ายฉ้อโกงทางโซเชียล โดยใช้วิธีการเป็นระบบลูกโซ่