ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชาวไทยพุทธ 3 จังหวัด และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา เรียกร้องให้ ศอ.บต. แต่งตั้ง ผอ.ส่วนศาสนาคนใหม่ หลังพบคนปัจจุบันบริหารงบประมาณอย่างไม่เป็นธรรม
วันนี้ (13 มิ.ย.) นายวันชัย พรหมทอง ชาวไทยพุทธใน จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นตัวแทนไทยพุทธที่ออกมาเรียกร้องความเท่าเทียมในการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า ชาวไทยพุทธในพื้นที่ 3 จังหวัด และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ได้กลายเป็นส่วนเกินในการอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากไม่ได้รับการดูแลจากภาครัฐอย่างเท่าเทียมกับคนมุสลิมในพื้นที่ โดยเฉพาะในเรื่องของศาสนา
นายวันชัย กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ซึ่งมีสำนักบริหารการศึกษาดูแลงบประมาณในเรื่องของศาสนา มีความลำเอียงในการจัดสรรงบประมาณ ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา งบในการส่งเสริมเรื่องศาสนา เช่น การดูแลวัด พระสงฆ์ และส่งเสริมกิจกรรมทางศาสนาในวันสำคัญต่างๆ จะมีการการจัดสรรระหว่างศาสนาอิสลามกับศาสนาพุทธคนละครึ่ง ซึ่งงบในเรื่องของการอุดหนุนศาสนา ศอ.บต.จะได้ปีละ 40 ล้านบาท จะมีการจัดสรรให้ศาสนาพุทธ 20 ล้านบาท ศาสนาอิสลาม 20 ล้านบาท
แต่ในปีนี้ตั้งแต่มี ผอ.ฝ่ายศาสนาที่เป็นมุสลิม งบของศาสนาพุทธถูกยักย้ายถ่ายเทไปหมด เหลือเพียงงบการนำคนไทยพุทธเดินทางไปประเทศอินเดีย 6 ล้านบาท และเป็นโครงการ “เบี้ยหัวแตก” อีกไม่กี่แสนบาท นอกนั้นมีการนำไปให้แก่โครงการอื่นๆ ที่เป็นเรื่องของศาสนาอิสลาม จนขณะนี้ทราบว่า งบสำหรับอุดหนุนศาสนาพุทธเหลืออยู่หลักหมื่นบาทเท่านั้น
ที่ผ่านมา มีตัวแทนไทยพุทธเคยเรียกร้องต่อผู้บริหาร ศอ.บต. มาโดยตลอด ในเรื่องของความไม่เป็นธรรมของงบอุดหนุน หรือบำรุงศาสนาพุทธ ทั้งจากฆราวาส และจากพระสงฆ์ แต่ ศอ.บต.ไม่เคยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น มีการเรียกร้องให้เปลี่ยนตัว ผอ.ส่วนศาสนา จากมุสลิมให้เป็นไทยพุทธ ด้วยเหตุผลที่ว่า การเป็นมุสลิมทำให้ไม่สามารถที่จะรับรู้ และเข้าใจในเรื่องของศาสนาพุทธได้ดี แต่ถ้า ผอ.ส่วนเป็นไทยพุทธ จะสามารถรู้ และทำหน้าที่ร่วมกับศาสนาอื่นๆ ได้โดยไม่มีข้อจำกัด ไม่ได้หมายความว่า ผอ.ส่วนศาสนาเป็นคนไมดี ไม่มีฝีมือ แต่คนไทยพุทธส่วนใหญ่สังเกตว่า หลังจากที่มีการเปลี่ยนตัว ผอ.ส่วนศาสนาเป็นมุสลิม ได้เกิดปัญหาเรื่องการจัดสรรงบประมาณที่ไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น
ดังนั้น ขณะนี้กลุ่มผู้นำไทยพุทธจึงหารือกันในการที่จะเคลื่อนไหวเพื่อให้ ศอ.บต.แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นต่อคนไทยพุทธ ซึ่งถึงแม้จะเป็นคนส่วนน้อยในพื้นที่ 3 จังหวัด แต่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ และรัฐไทยปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็น “รัฐพุทธ” ที่ ศอ.บต.จะต้องบริหารเรื่องศาสนาให้มีความเท่าเทียม
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในส่วนของงานด้านศาสนา ซึ่งมี ผอ.ส่วนศาสนาเป็นข้าราชการระดับ 8 ขึ้นกับสำนักบริหารการศึกษา ซึ่งจะได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อใช้ในการอุดหนุนการศาสนาปีละ 40 ล้านบา โดยประมาณ ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา ผอ.ส่วนศาสนา จะเป็นผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ จึงไม่ค่อยมีปัญหาเกิดขึ้น เพราะสามารถที่จะปฏิบัติหน้าที่เข้ากับทุกศาสนาได้ โดยไม่มีข้อจำกัดทางศาสนา ซึ่งเรื่องการเรียกร้องของคนไทยพุทธในเรื่องความไม่เป็นธรรม ศอ.บต.รู้ดี แต่ไม่มีการแก้ไข จนมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงประสิทธิภาพในการทำหน้าที่ของ ศอ.บต.ในยุคนี้ว่าเป็นหน่วยงาน “เร้นลับ” ที่กำลังกลายเป็นแดนสนธยา สร้างความผิดหวังให้แก่คนในพื้นที่เป็นอย่างมาก