นครศรีธรรมราช - พบข้อมูลเงินในบัญชีของวัดวังตะวันตก มีมากกว่า 40 ล้านบาท ก่อนที่ “เจ๊บิว” จะเข้าจัดการวัดทั้งหมด ขณะที่คหบดีเจ้าภาพกฐินเมื่อปลายปี 59 แจ้งผ่าน “นายสมเดช” เผยเก็บเงินกว่า 1 ล้านบาทเอาไว้ เชื่อหากโอนให้วัดจะไม่หลงเหลือ ด้านตำรวจพบข้อมูลมีการผ่องถ่ายบัญชีช่วงการคุมตัว
วันนี้ (9 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าในการติดตามการแก้ไขปัญหาภายในวัดวังตะวันตก จ.นครศรีธรรมราช ภายหลังจากการฆาตกรรมสามเณรปลื้ม หรือนายศุภโชค เอกเกียรติกุล แล้วฝังไว้หน้าหอไตรเป็นเวลา 5 เดือน ก่อนที่จะมีการขุดพบจนนำไปสู่การชำระวัดครั้งใหญ่ ขณะที่พระราชปริยัติเวที เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แต่งตั้งให้พระครูพรหมเขตคณารักษ์ เป็นเจ้าอาวาสรูปใหม่ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ได้มีนักธุรกิจรายใหญ่ใน จ.นครศรีธรรมราช ได้แจ้งให้ นายสมเดช แสงสุริย์วงศ์ ที่มีความกล้าจะเปิดเผยข้อมูล ซึ่งเป็นตัวแทนออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า นักธุรกิจรายนี้ได้เก็บเงินกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดเงินที่ได้จากการทอดกฐินเมื่อปลายปี 2559 ถูกเก็บไว้ในบัญชีแยกต่างหาก เนื่องจากรู้ว่าหากส่งให้วัดไปเงินจำนวนนี้จะไม่เหลือ ซึ่งขณะนี้ได้ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว
นายสมเดช ระบุว่า เป็นโชคดีของวัดที่เงินจำนวนนี้ยังคงอยู่ และสามารถนำมาพัฒนาวัดได้ และเขาแปลกใจว่า เงินจำนวน 40 ล้านบาท ที่มีอยู่ก่อนที่ น.ส.ปิยฉัตร และพวกจะเข้ามาจัดการวัด ถูกเบิกจ่ายไปได้อย่างไร ทั้งตราเจ้าอาวาสไปอยู่ที่ น.ส.ปิยฉัตร ลายเซ็นเป็นของพระเทพสิริโสภณ หรือไม่ ซึ่งเชื่อว่าหากเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีในส่วนของยักยอกทรัพย์นั้น พระเทพสิริโสภณ อาจกลายเป็นผู้ต้องหาร่วมกันยักยอกทรัพย์ด้วย ซึ่งขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้ถึงที่สุด ชาวบ้านทุกคนขอเป็นกำลังใจ
นอกจากนั้น ยังมีข้อมูลอีกว่าในวันที่ น.ส.ปิยฉัตร และนายเด่นชัย ถูกคุมตัวอยู่ที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้มีบุคคลซึ่งน่าเชื่อว่าเป็นลูกน้องของ น.ส.ปิยฉัตร และนายเด่นชัย ไปเบิกเงินจากบัญชีของวัดกับธนาคารแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กับวัดไปหลายแสนบาท จนเหลือเพียงหลักร้อยบาท ซึ่งเป็น 1 ใน 26 บัญชีที่ปัจจุบันเงินแทบไม่เหลืออยู่เลย
ขณะเดียวกัน มีการเปิดเผยภาพเหตุการณ์หลังจากที่มีการฆาตกรรมสามเณรปลื้ม เพียง 2 สัปดาห์ น.ส.ปิยฉัตร ได้ชักชวนเพื่อนหลายคนเช่าเหมารถตู้ไปเที่ยวฉลองกันที่ จ.กาญจนบุรี และมีภาพที่ นายเด่นชัย ได้อุปสมบทหลังจากฆาตกรรมสามเณรปลื้มแล้ว โดยนายสมเดช ระบุว่า ไม่มีคนมาร่วมในพิธี น.ส.ปิยฉัตร จึงได้ไปขอให้ผู้ประกอบการแผงพระหลายแผงมาร่วมกันแห่นาค