ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ไล่ออกแล้วนักแสดงคาบาเรต์ฉวยโอกาสล้วงกระเป๋าลูกค้าขณะยืนถ่ายรูปเซลฟี่แบบใกล้ชิดกัน หลังคลิปเหตุการณ์ถูกเผยแพร่ทางสังคมออนไลน์
จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ชอบเสือก เรื่องชาวบ้าน ได้โพสต์คลิปวิดีโอความยาวประมาณ 32 วินาที มีข้อความระบุว่า เตือนภัยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศ นักแสดงคาบาเรต์โชว์อาศัยจังหวะที่นักท่องเที่ยวเผลอไม่ระวังตัวช่วงถ่ายรูปแล้วทำการล้วงกระเป๋า #แอฟโฟรไดท์ภูเก็ต โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคลิปคือเป็นภาพที่นักท่องเที่ยวกำลังถ่ายภาพกับนักแสดงคาบาเรต์ ขณะที่นักท่องเที่ยวกำลังเพลิดเพลินอยู่กับการถ่ายภาพ มีนักแสดงคาบาเรต์อีกคนที่ยืนอยู่ด้านหลังได้ใช้มือล้วงหยิบของในกระเป๋านักท่องเที่ยว โดยหลังคลิปถูกเผยแพร่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์จำนวนมากแก่ผู้ได้ชม
วันนี้ (2 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ประสานไปยัง นายธรรมรส สุขอภิรมณ์ผู้จัดการทั่วไปของ แอฟโฟรไดท์ภูเก็ต เพื่อสอบถามว่าภาพที่เกิดขึ้นเป็นที่ภูเก็ตจริงหรือไม่ โดยนายธรรมรส ยอมรับว่าเป็นการที่เกิดขึ้นเป็นแอฟโฟรไดท์ภูเก็ตจริง ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 2 ทุ่มกว่าของคืนวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังการแสดงคาบาเรต์เสร็จนักแสดงก็ได้ออกไปด้านหน้าร้านเพื่อร่วมถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยว
หลังจากนั้นไม่นาน ตนได้รับแจ้งจากพนักงานว่า แว่นตาลูกค้าหาย หลังทราบเรื่องจึงได้เรียกพนักงานมาตรวจสอบ พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิด ขณะเดียวกัน ก็มีคนนำคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาให้ดู ตนพร้อมผู้เกี่ยวข้องจึงเรียกพนักงานคนที่ปรากฏในคลิปว่าเป็นคนล้วงกระเป๋าลูกค้า คือ นายชานนท์ จำนงนิจ ซึ่งเป็นนักแสดงตัวประกอบ มาสอบถามพนักงานคนดังกล่าวก็ยอมรับสารภาพผิด
จากนั้นจึงให้นายชานนท์ พร้อมเจ้าหน้าที่ของแอฟโฟรไดท์ นำแว่นตาไปคืนให้แก่นักท่องเที่ยวคนดังกล่าว ซึ่งนักท่องเที่ยวเองก็ไม่ติดใจเอาความ แต่การกระทำดังกล่าวถือเป็นการทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เสียภาพลักษณ์ขององค์กร ในส่วนของบริษัทต้องมีมาตรการลงโทษอย่างเด็ดขาดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่พนักงานคนอื่น จึงลงโทษโดยการให้ออกจากงาน และวันนี้ก็ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อพนักงานคนดังกล่าวแล้ว
ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาวนั้น หลังเกิดเหตุทางผู้บริหารก็ได้เรียกพนักงานทั้งหมดเข้าประชุมเพื่อตรวจสอบประวัติทั้งหมด และหลังจากนี้จะเพิ่มพนักงานรักษาความปลอดภัยพร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ เพิ่มขึ้นเพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ และยืนยันว่าตั้งแต่เปิดให้บริการมาร่วม 6 ปี ไม่เคยมีเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้เกิดขึ้น