“ปู” แฮปปี้นมเล็กลง บอกใส่ชุดอะไรก็ดูไม่โป๊ เตรียมบินไปเรียนการแสดงที่อเมริกาหวังได้เข้าฮอลลีวูดจะให้เล่นเป็นตัว 7 ตัว 8 ก็ได้ รู้โอกาสเป็นศูนย์ในล้านแต่ก็อยากทำตามความฝัน
“ปู ไปรยา ลุนเบิร์ก สวนดอกไม้” ที่ล่าสุดเพิ่งกลับมาจากไปร่วมชมติดขอบแคตวอล์กที่มิลาน ประเทศอิตาลี ซึ่งงานนี้สาวปูถึงกับรีเควสตัดชุดพิเศษของตัวเองจากห้องเสื้อชื่อดังของนิวยอร์กมาเลยทีเดียว โดยเจ้าตัวเผยถึงเรื่องนี้ในงานแถลงข่าว NUUI SLM ณ ร้านอาหาร amici ชั้น G ฝั่ง North ว่าดีใจที่คนชมว่าสวย แต่รับรองว่าชุดนี้เซฟมาแล้วล้านเปอร์เซ็นต์
“เพิ่งกลับจากมิลานค่ะไปดูแฟชั่นวีกแล้วก็ไปถ่ายหนังสือค่ะ ชุดที่ใส่นั้นเป็นชุดที่ปูเห็น 6 เดือนที่แล้วค่ะ แล้วก็ได้ติดต่อทางร้านไป แล้วให้ร้านไปเอามา ก็เป็นความตั้งใจว่าหางานใส่ชุดนี้มาสักพักหนึ่งแล้ว จริง ๆ ชุดนี้ถูกส่งมาที่นิวยอร์กล่าสุด และตัดสินใจว่ารอใส่ที่มิลานดีกว่าค่ะ อันนี้รีเควสเองค่ะ ตัดให้พอดีตัวปู ก็ชอบมาก ที่ชอบชุดนี้คืองานปักมันค่อนข้างพิเศษ ดูยังไงก็ดูไม่เบื่อ แล้วปูเป็นผู้หญิงก็ชอบอะไรสวยงามระยิบระยับ ชุดแอบหนักนิดหนึ่งแต่ชอบสวย กระแสตอบรับดีเราก็ชื่นใจ”
“ถามว่าต้องระวังมากขึ้นไหม ปูต้องระวังตลอด (หัวเราะ) แต่บางครั้งมันก็ช่วยไม่ได้ แต่ครั้งนี้เซฟล้านเปอร์เซ็นต์ค่ะ คือ เป็นผ้าเนื้อซับข้างในค่ะ ราคาก็ประมาณหนึ่งค่ะ แต่เราอยู่วงการบันเทิงมันก็เหมือนเป็นการต่อยอดน่ะค่ะ เราไม่มีชุดสวยๆ มาให้คนดู คนก็ไม่ติดตาม คือพอเราโตขึ้นเราก็เริ่มรู้ว่าสไตล์การแต่งตัวเราชอบอะไร แบบไหน จริง ๆ ปูเป็นคนที่ไม่ชอบลองอะไรใหม่ๆ นะคะ อะไรที่เรารู้สึกว่าเรามั่นใจเราก็ทำ”
บอกนมเล็กลง แต่ไม่ซีเรียส บอกดีซะอีก ใส่อะไรก็ไม่โป๊
“นมเล็กเนอะ (หัวเราะ) จะบอกว่าเป็นคนผอมค่ะ ไม่ค่อยมีเหมือนเมื่อก่อนใส่อะไรก็เลยดูไม่โป๊ อาจจะเป็นข้อที่ดีค่ะ ออกกำลังกายก็หายไปนิดหนึ่ง แต่ก็ไม่ใช่ไม่มั่นใจนะ ก็เป็นตัวแทนสาวที่มีนิดหน่อย (หัวเราะ) ปูไม่ซีเรียสค่ะ แอบชอบด้วย เพราะเราสามารถใส่เสื้อผ้าได้มากขึ้น ไม่อยากเพิ่มไซส์ค่ะ รู้สึกมั่นใจ ใส่ชุดอะไรก็มั่นใจ ชอบกว่าตอนมีอีก ปูว่าเป็นผู้หญิงจุดสนใจอยู่ที่ชุดดีกว่าอยู่ที่ส่วนอื่น ปูว่าพอไม่มีแล้วเราได้นำเสนอตัวเองในอีกแบบหนึ่ง ปูว่าก็ดีค่ะ”
เผยปีหน้ามีแพลนไปเรียนการแสดงที่ต่างประเทศ บอกอยากสานฝันเล่นหนังฮอลลีวูด
“ปีหน้าปูจะไปเรียนการแสดงที่อเมริกา แต่ไม่นานค่ะเพราะมีพรีเซนเตอร์และสัญญาที่ค้างอยู่ที่นี่ ความฝันคืออยากจะไปลองแคสติ้งหนังดู อันนี้ติดต่อเองหมดเลยค่ะ ก็เริ่มหาเอเยนต์ที่โน่นแล้วค่ะ คือ ปีนี้เราเริ่มเห็นผลตอบรับจากงานที่เราทำ ก็รู้สึกว่ามาทางนี้ก็แอบดีนะ ก็คงไม่แปลกที่จะลองทำดู เรื่องบทปูว่าปูรับได้นะถ้าจะเป็นตัวที่ 7 - 8 หรือตัวประกอบ เพราะเราก็ไม่เคยคิดว่าเราเป็นนางเอกอยู่แล้ว ปูคิดว่าปูเป็นนักแสดงความสำคัญของตัวประกอบกับความสำคัญของตัวหลักก็หนังเรื่องเดียวกันสำคัญเท่ากัน ถ้าต้องเริ่มจากล่างสุดก็เริ่มได้ ก็หวังและฝันนะคะ แต่โอกาสมันศูนย์ในล้าน แต่ไม่ลองก็ไม่รู้เนอะ”
“งานแสดงก็ยังโฟกัสอยู่ค่ะ เดี๋ยวจะฟิตติ้งเร็ว ๆ นี้แล้ว ของช่อง 7 ค่ะ สัมปทานหัวใจ ช่วงนี้ก็ฟิตหุ่นค่ะ อยากถ่ายมาสักพักแล้วค่ะ เรื่องนี้ต้องสมบุกสมบันด้วยแต่ไม่ต้องห่วงค่ะ หนุ่มเวียร์ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) พร้อมอยู่แล้ว ก็ตื่นเต้นนะไม่เคยเล่นกับพี่เวียร์เลย สัญญาช่องเหรอ ก็ยังคงถ่ายทำกันต่อไปค่ะ”
รับพกผ้ายันต์ติดกระเป๋าสตางค์ แต่ยังเชื่อเรื่องทำดีได้ดีเสมอ
“คือ ปูเป็นคนที่เข้าวัดตลอดอยู่แล้ว ปูเชื่อในธรรมะทั้งสองสายนะคะ สายพิธีกรรมและสายธรรมะอยู่ในใจ จริง ๆ ธรรมะคือธรรมชาตินะคะ สุดท้ายแล้วก็คือคิดดีทำดีประพฤติตัวดีและทำดีต่อสังคมและคนรอบข้าง แต่ว่าบางครั้งคนวงการนี้การทำนิดทำหน่อยเพื่อความมั่นใจตัวเองก็คงไม่แปลก ก็มีบ้างค่ะ ใครชวนไปวัดไหนหนูก็ไปค่ะ คือก็ทำแบบไม่ได้ลบหลู่ ทำแบบมีขอบเขตค่ะ ไม่ได้ทำอะไรหวือหวา ก็เหมือนคนพกพระน่ะค่ะ ทำแล้วเงินไหลมาเทมาไหมเหรอ อุ้ย อย่าเอาปูเป็นตัวอย่างเลย (หัวเราะ) เดี๋ยวเยาวชนเข้าใจผิด จริง ๆ แล้วคนได้ดีคือคนคิดดีทำดีประพฤติตัวดีชีวิตก็ดีค่ะ อย่างอื่นทำเพื่อความสบายใจดีกว่า อย่ายึดติดเป็นหลักการว่าทำแล้วเราจะรวย คนรวยคือคนทำงานหนักและทำตัวดีค่ะ”
“แต่ถามในความรู้สึกปูก็โอเคนะคะช่วงนี้ แต่ปูว่าคนเราไหว้อย่างเดียวแต่ไม่ทำงานมันก็ไม่ได้ก็ต้องทำงาน ไม่ได้เล่นของค่ะ เราเป็นธรรมะสายธรรมชาติค่ะ ไม่อยากให้คนเข้าใจอย่างนั้นด้วย เพราะปูเองก็เป็นคนนั่งสมาธิไหว้พระ ปูใช้ 4 หลักการในการใช้ชีวิต คือ เมตตา กรุณา มุธิตา อุเบกขา แค่นั้นก็พอแล้วค่ะ อยากไปปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องเป็นราวนะคะ แต่ตอนนี้ยังไม่มีคิวเลย แต่ปูพูดเสมอว่าธรรมะเราใช้ได้ในชีวิตประจำวันทุกวันค่ะ ถ้าเรามีสติในทุก ๆ วันนั่นก็คือธรรมะแล้วค่ะ”
บอกยังไม่พร้อมเปิดโอกาสให้หนุ่มๆ อยากโฟกัสที่งานและครอบครัวมากกว่า
“เรื่องหนุ่ม ๆ ยังไม่ได้ปลงค่ะ (หัวเราะ) แต่ว่าช่วงนี้เป็นจังหวะที่อะไรมันกำลังจะเข้ามา เรื่องผู้ชายเบรกแป๊บหนึ่ง เอางานก่อน กับคุณโน้ต (วิเศษ รังสีสิงห์พิพัฒน์) ก็ยังเจอกันตลอดเพราะตอนลดสถานะเราก็ยังดีกันอยู่ คนใหม่ ๆ เข้ามาก็ยังไม่ได้เปิดรับ ถ้าเข้ามาก็เป็นเพื่อน คือ พอเราโตขึ้นโฟกัสเราก็เปลี่ยน หลัก ๆ ก็คือ การเลี้ยงดูครอบครัว เลี้ยงดูตัวเอง มีความรับผิดชอบมากขึ้น มีบ้าน มีรถ เรื่องความรักก็เลยมาทีหลัง มีก็ได้ไม่มีก็ได้ แต่งาน ที่อยู่ รถ สุขภาพพ่อแม่มันเป็นเรื่องจำเป็นกว่า ก็เลยโฟกัสกับสิ่งนี้มากกว่า”