“อั้ม อธิชาติ” ยันจ่ายค่าตัวนักแสดง - ทีมงานซีรีส์ “เจ้าเวหา” ครบ บอกพร้อมเป็นพยานถ้าทุกคนต้องการ หลุดปากบอกบริษัทยังไม่ได้กำไร แต่สำรองจ่ายช่วยเยียวยาไปเยอะ ไม่เข็ดเป็นผู้จัด เผยพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ หลังถูกลือทรูเล็งดึงทีมอื่นมาเสียบงานแทน
นักแสดงตัวประกอบซีรีส์ “เจ้าเวหา” เพิ่งรวมตัวไปแจ้งความ สน.บางกอกน้อย กรณียังไม่ได้รับค่าตัวจากบริษัท บลูริบบอน โดยเอเยนซีอ้างว่ายังไม่ได้รับเงินจาก “อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์” และ “นัท มีเรีย” ซึ่งทั้งหมดยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคู่รักผู้จัดดารา ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เจอตัวอั้มในงาน NAR LABS Grand Opening 2016 เปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและลดไขมันจากสหรัฐอเมริกา ณ ลานกิจกรรม ชั้น M ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 ยันทุกคนไม่ได้บอกว่าจะไปแจ้งความ ขอให้ต่างคนต่างทำหน้าที่
“น้อง ๆ ทุกคนเป็นน้องที่ทำงานด้วยกันและสนิทกันอยู่แล้ว เขามาขอคำปรึกษาเราก็ให้ดูหลักฐานจริง ๆ ที่เกิดขึ้น แล้วขั้นตอนจริง ๆ มันคืออะไรบ้าง ก็ช่วยเหลือน้อง ๆ ทุกทางเท่าที่เราทำได้ ก่อนเขาไปแจ้งความก็ไม่ได้บอกเราก่อน ผมไม่ได้ให้คำแนะนำอะไรมาก เพราะเขามีส่วนที่ต้องทำในหน้าที่ของเขา ส่วนของผมก็มีส่วนที่จะต้องทำในหน้าที่ของผม”
“ถามว่าได้คุยกับบริษัท บลูริบบอน มั้ย ไม่ได้คุยเลยครับ อย่างที่ผมได้แถลงข่าวไปแล้วว่าเราได้ทำตามขั้นตอนอยู่แล้ว แต่ใครจะทำตามขั้นตอนหรือไม่นั้น ผมว่าเราต้องไปหาข้อมูลกัน ในส่วนของบริษัทต่อบริษัทมีสิ่งที่ต้องดูแลจัดการก็ต้องจัดการกันไป ว่ากันไปตามหลักฐานและเอกสารต่าง ๆ ทางเราได้มอบหมายกับทางทนายความดูแลทุกอย่างทั้งเรื่องของเอกสารและรายละเอียดทั้งหมด”
“เรื่องแจ้งความอย่างที่บอกว่าขึ้นอยู่กับทางทนายความจะดำเนินการขั้นตอนต่อไปอย่างไร ตอนนี้ผมไม่สามารถพูดอะไรได้เยอะมากนักมันไม่ใช่สิ่งที่จะมาพูดกันลอย ๆ ทุกอย่างต้องมีขั้นตอนของมันว่ากันไปตามเอกสารดีกว่า พูดกันไปกันมาผมว่าก็ไม่ดีต่อใครทั้งนั้น ฉะนั้น ให้เป็นไปตามขั้นตอนที่ควรจะเป็นดีกว่า”
บริษัทยังไม่กำไร ส่วนตนสำรองจ่ายไปเยอะมากแล้ว
“ผมพูดจริง ๆ ว่า บริษัทได้มีการสำรองจ่ายไปเยอะมากแล้ว เอาง่าย ๆ บริษัทผมไม่ได้อยู่ในฐานะกำไร และเรามีภาวะที่เราทำทุกอย่างที่เราทำได้จริง ๆ อะไรที่เราทำไม่ได้เราก็ทำไม่ได้จริง ๆ บางสิ่งบางอย่างหน้าที่ใครก็ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตัวเอง”
“นักแสดงมีต้นสังกัด เมื่อภาระหน้าที่ของบริษัทที่ต้องจ่ายค่านักแสดงเราต้องจ่ายกับบริษัทอยู่แล้ว บริษัทที่มีหน้าที่ในการจัดหานักแสดงก็ต้องมีหน้าที่ในการสื่อสารกับนักแสดง ส่วนที่เราทำได้ก็ช่วยเหลือน้อง ๆ ในทุกทาง แต่ไม่ได้ช่วยเหลือในฐานะบริษัท เราช่วยเหลือในฐานะที่ทำงานด้วยกันมา ขอให้ทำความเข้าใจนิดหนึ่งว่าเราไม่ได้อยู่นิ่งเลย การสำรองจ่ายไม่ใช่ว่าไม่ทำ ทำเยอะมากให้กับนักแสดง อะไรที่เกิดปัญหาแล้วเรารับผิดชอบได้เราทำทุกอย่างจริง ๆ ผมมองว่าคำถามนี้อย่าถามผมเลย ตอนนี้เหมือนผมพูดอยู่ฝ่ายเดียว”
ยินดีช่วยเป็นพยาน ไม่ขอพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างบริษัท
“อย่างที่บอกอะไรที่เราช่วยกันได้ผมก็ยินดี ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทผมขอไม่พูดอะไรดีกว่า ถ้าถามเรื่องความสัมพันธ์เราต้องแยกเรื่องกัน”
ไม่สบายใจ ไม่อยากให้ใครได้รับผลกระทบ
“เรื่องตรงนี้เป็นเรื่องของขั้นตอนแล้ว ผมเองก็มีบริษัทที่ต้องรับผิดชอบ ตอนนี้มีฝ่ายกฎหมายมาดูแล เราไม่อยากให้ใครเสียหายหรือแม้แต่เราเองจะต้องมีเรื่องราวเสียหายจากใครเหมือนกัน ถามว่าเรื่องของการพูดคุยมันจำเป็นมั้ยผมว่า ณ ตอนนี้ผมยังตอบไม่ได้”
“ผมค่อนข้างไม่สบายใจ เราคนทำงาน เราทำงานอยู่หน้าเซต ทุกคนก็รู้ว่ามันเหนื่อยยากมากขนาดไหน ผมเชื่อว่า ผมทำงานทุกอย่างด้วยตัวเองทั้งหมด งานเซต การเตรียมงานทั้งหมด แล้วทีมงานล่ะเขาต้องเหนื่อยกว่าแค่ไหน เราไม่อยากให้ใครเกิดผลกระทบอยู่แล้ว”
ควักเงินส่วนตัวเยียวยานักแสดง โวยถ้าเอเยนซีมีปัญหาทำไมไม่รายงาน ยันทุกอย่างโปร่งใส มีการชำระเงินจริงและมีใบเสร็จ
“ทีมงานทุกคนไม่ได้มีอะไรติดค้าง ในข่าวที่เขียนว่าทีมงานหรือนักแสดงคนอื่นๆ ที่ไม่มีสังกัดยังไม่ได้เงินนี่ก็ไม่จริงเลย การทำงานเราจัดการทุกอย่างเรียบร้อย เราก็คุยกับทีมงานทุกคนถึงเรื่องนี้อยู่ ทุกคนก็ไม่มีปัญหาอะไร”
“อย่าเรียกพวกเขาว่าตัวประกอบเลยครับ ทุกคนคือนักแสดงร่วมฉาก เขาคือนักแสดงทั้งหมด แล้วผมคือชำระไปทั้งหมดอยู่ในนั้นหมดแล้ว ผมก็ได้ช่วยเขาไปครับ ก็ไม่อยากพูดว่าจำนวนเท่าไหร่เราเข้าใจว่าทุกคนต้องมีค่าใช้จ่าย ผมก็ให้ไปจำนวนหนึ่ง เราให้ไม่ใช่ค่าตัวแต่เป็นเรื่องของการช่วยเหลือ เยียวยามากกว่า”
“เรื่องที่บอกว่าเราติดค้างเงินทำให้เขาจ่ายล่าช้า ในเมื่อบริษัททำงานด้วยกันคุณมีอะไรติดคุณก็ต้องรายงานมาต่อรึเปล่าว่ามันเป็นเพราะที่ผมจริงมั้ย ในส่วนของค่าใช้จ่ายนักแสดงบริษัทได้มีการชำระและมีใบเสร็จรับเงินมีใบกำกับภาษีลงตัวเลขทุกอย่างว่าผมจ่ายชำระเงินไปเท่านี้ ผมขอเรียนอีกครั้งหนึ่งว่าในเมื่อผมนำจ่ายในหัวข้อนี้แล้ว ให้สามารถนำไปหมุนเวียนในหัวข้ออื่นได้”
ไม่รู้ทรูดึงทีมอื่นมาทำแทนตน บอกแล้วแต่ช่องพิจารณา ตนพร้อมรับมือทุกสถานการณ์อยู่แล้ว
“ในการทำเรื่องต่อ ๆ ไป ตัวเราเองพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดอยู่แล้ว เรื่องที่เหลือเรามีการส่งเรื่อง ส่งบทไป มีการปรับแก้กันอยู่ตลอดเพื่อให้ได้เรื่องไปตามเป้าหมายที่ทางช่องต้องการ แต่พอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแล้ว ผมเชื่อว่า ทุก ๆ อย่างมันก็ส่งผลกระทบได้ทั้งนั้น ตอนนี้ผมเลยไม่สามารถจะตอบอะไรได้ ก็แล้วแต่ทางช่องพิจารณาผมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ เรื่องดึงทีมอื่นมาทำอันนี้ไม่ทราบเลย ยังไม่มีการเรียกประชุมอัปเดตอะไรล่าสุด ก็คงต้องแล้วแต่ทางผู้ใหญ่จะพิจารณา”
ไม่เฟล ไม่หยุดฝัน ทุกอย่างเป็นประสบการณ์เรียนรู้
“ผมเองทำงานอยู่หลายอย่าง ผมมีธุรกิจส่วนตัวหลายอย่างในด้านอื่นๆ แต่เรื่องของการทำงานละครผมต้องลงทำงานหนักมาก บางทีเราก็ต้องทำงานอื่น มันเป็นงานที่ต้องทุ่มเทหลาย ๆ อย่างมาก ๆ ถามว่างานละครผมจะหยุดมั้ย มันก็เป็นงานที่ผมรัก ผมเองก็มีไอเดียอื่นๆ อีกที่เพิ่มเริ่ม ในโปรเจ็กต์ที่เราคิดว่าเราฝันอยากจะทำ ถามว่าจะหยุดมั้ยผมก็อยากจะทำความฝันของผมต่อไปเรื่อย ๆ”
“ผมไม่ได้เฟล ผมคิดว่าทุกอย่างมันย่อมมีอุปสรรค มีปัญหาของมันแค่นั้นเองเพียงแต่ว่าใครจะเจอปัญหาหนักเบามากน้อยแค่ไหน แต่เราคิดว่าปัญหามันก็ให้ประสบการณ์ที่ทำให้เราเข้มแข็งมากขึ้น สิ่งที่เราได้มามันคือการเรียนรู้ คือประสบการณ์ ผมได้อะไรเพิ่มเติมมากขึ้น เรื่องเป็นผู้จัดจริง ๆ แล้วมันก็คืองานบันเทิงผมเองอาจจะไปทำอะไรที่มันเกี่ยวกับบันเทิงก็ได้ ไม่เฉพาะในประเทศก็ได้”