พัทลุง - จังหวัดพัทลุง เปิดให้ประชาชนผู้ยากไร้ที่ดินเข้าทำกินในเขตป่าฯ โดยต้องแสดงสิทธิเพื่อทางราชการจะได้ตรวจแยกว่าเป็นผู้ยากไร้ ผู้มีรายได้น้อย และผู้ยากไร้ที่ดินทำกินที่แท้จริง ตามโครงการ “พลิกผืนป่า เพื่อพัฒนาที่ยั่งยืน”
วันนี้ (28 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุง ว่า ที่ห้องประชุมอิรวดี ศาลากลางจังหวัดพัทลุง นายภิรมย์ นิลทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เรียกประชุมอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า ระดับจังหวัด และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจนโยบายพลิกฟื้นคืนฝืนป่า ให้การดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า ของเจ้าหน้าที่รัฐให้เป็นไปอย่างถูกต้อง ตามระเบียบกฎหมาย ขณะเดียวกัน ไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อประชาชนผู้ยากไร้ที่เข้าไปทำกินในผืนป่าด้วย ตามโครงการ “พลิกผืนป่า เพื่อพัฒนาที่ยั่งยืน”
ซึ่ง จ.พัทลุง ยึดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 66/2557 ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2557 เรื่องการปราบปรามและหยุดยั้งการบุกรุกทำลายป่า ทรัพยากรป่าไม้ โดยให้ทุกหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องยึดถือนโยบายการปฏิบัติงานเป็นการชั่วคราวในสถานการณ์ปัจจุบัน โดยการดำเนินการใดๆ ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ยากไร้ ผู้มีรายได้น้อย และผู้ไร้ที่ดินทำกิน ซึ่งได้อาศัยอยู่ในพื้นที่เดิมก่อนคำสั่งมีผลบังคับใช้ ยกเว้นผู้ที่บุกรุกใหม่ หลังวันที่ 17 มิถุนายน 2557 จะต้องดำเนินการสอบสวน และพิสูจน์ เพื่อกำหนดวิธีปฏิบัติที่เหมาะสม และดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
นายภิรมย์ นิลทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า จ.พัทลุง นำแนวทางหลักรัฐศาสตร์ และนิติศาสตร์มาใช้การดำเนินงานในเรื่องดังกล่าว โดยเบื้องต้น ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของรัฐชะลอการเข้าไปตัดไม้ รื้อถอนไม้ที่ชาวบ้านเข้าไปปลูกไว้ก่อน จากนั้นจะสั่งคณะทำงานระดับตำบล ซึ่งเป็นการบูรณาการจากหลายส่วนราชการเข้าไปเจรจาชี้แจงทำความเข้าใจต่อประชาชนผู้ยากไร้ ให้เข้ามาแสดงสิทธิดังกล่าว เพื่อทางราชการจะได้ตรวจแยกได้ว่าเป็นผู้ยากไร้ ผู้มีรายได้น้อย และผู้ยากไร้ที่ดินทำกินที่แท้จริง โดยจะไม่มีการดำเนินการจับกุม แต่จะหามาตรการอื่นๆ เพื่อเยียวยาช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป
ในขณะยุทธการทวงคืนฝืนป่าบุกรุก ก่อนมีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 66/2557 ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2557 เรื่องการปราบปราม และหยุดยั้งการบุกรุกทำลายป่า ทรัพยากรป่าไม้ ที่ก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาปู่เขาย่า จ.พัทลุง ได้ทำการตรวจยึดไว้ในปี 2554 ในพื้นที่ อ.กงหรา อ.ศรีนครินทร์ อ.ศรีบรรพต และ อ.ป่าพะยอม ซึ่งเป็นของกลุ่มผู้นำท้องถิ่น ที่บางรายทำการบุกรุกไว้ 30-50 ไร่ รวมทั้งสิ้นเกือบ 1,000 ไร่
และทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้ใช้กฎหมายอุทยานมาตรา 22/2504 เพื่อทำการรื้อถอนผลอาสินหลังคดีสิ้นสุด เพื่อเอาพื้นที่ป่ากลับคืนมาเป็นของชาติ ล่าสุด ยังคงถูกสั่งระงับไม่ให้ทำลายผลอาสิน จนเกิดเป็นช่องโหว่ให้เจ้าของที่บุกรุกเดิมเข้าไปทำมาหากินอีกครั้ง